‘ถ้าบาป ข้าต้องบาปแน่ เพราะข้าขายพระเต็มศาลา’ : คำสอน ‘หลวงปู่ดู่’
วัตถุมงคลของหลวงปู่ (หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ) มีให้บูชาที่วัด ผู้เขียนเคยมีคำถามเรื่องนี้กับหลวงปู่ “หลวงปู่ครับ ถ้าสมมุติว่าผมมีพระแพงๆ เช่น พระรอด แล้วผมจะนำไปให้เขาบูชา แต่เงินที่ได้ผมจะนำมาทำบุญจะบาปไหมครับ”
หลวงปู่ท่านตอบว่า “ถ้าบาป ข้าต้องบาปแน่ เพราะข้าขายพระเต็มศาลา”
ผู้เขียนแย้งว่า “แต่หลวงปู่ไม่ได้ใช้เงินเอง”
หลวงปู่ท่านจึงสรุปว่า “อย่างไรข้าก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ขาย แต่จุดประสงค์ข้าทำเพื่อวัดวา ไม่ใช่ทำเพื่อข้า”
ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจึงอยู่ที่เจตนา ซึ่งหลวงปู่ท่านเน้นว่า เจตนา คือ ตัวบุญ เมื่อก่อนที่หลวงปู่ยังแข็งแรง ผู้ที่บูชาพระแล้วก็มักจะนำมาให้หลวงปู่ประสิทธิ จนกระทั่งเมื่อท่านป่วยไม่ค่อยแข็งแรง ผู้บูชามักเกรงใจ ไม่ให้ท่านเป็นผู้ประสิทธิ แม้กระนั้น หลวงปู่ยังอดไม่ได้ด้วยความเมตตา เพราะท่านบอกว่าเพื่อกำลังใจและความศรัทธา เนื่องจากทุกคนต้องสละทรัพย์ ที่หามาได้ด้วยความเหนื่อยยาก
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะที่ท่านประสิทธิให้กับผู้บูชารายหนึ่งซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่าน เมื่อเสร็จแล้วท่านพูดว่า “แกรับพระยังไม่ถูก” ผู้รับเกิดความสงสัย หลวงปู่ท่านจึงอธิบายต่อ “ทำจิตให้น้อมรับสิ่งที่ดีที่ให้ โดยเรียกพระเข้าตัว เวลาที่รับแกไม่ได้ทำจิตแบบนี้ แกมุ่งจิตออกมาให้ข้า แทนที่จะได้เลยไม่ได้”
เคยมีลูกศิษย์หลวงปู่ที่เป็นพระ เมื่อเวลาที่ท่านประสิทธิให้ต้องการลองกำลังของหลวงปู่ จนหลวงปู่ต้องพูดขึ้นว่า “ลองพอหรือยัง”
ลูกศิษย์ผู้นั้นจึงได้คิดว่าหลวงปู่สามารถรู้ได้ บางครั้งเมื่อรับพระแล้วหลวงปู่ท่านจะกล่าวชมสำหรับคนที่รับถูกต้องว่า “เจอดีแล้วทำได้แบบนี้แกขนลุกใช่ไหม”
ผู้รับจึงถามว่า “หลวงปู่รู้ได้อย่างไรครับ”
หลวงปู่ท่านตอบว่า “แกขนลุก แต่อาการของแกมาเกิดที่ข้า ข้าจึงรู้”
สำหรับเรื่องการรู้นี้ หลวงปู่ท่านรู้เป็นเรื่องปกติวิสัย ผู้เขียนเองหรือหลายคน ก็เคยประสบกับเรื่องเหล่านี้มาแล้วด้วยกันทั้งนั้น
(คัดลอกจากหนังสือ 37 เรื่องเล่าธรรมะลึกซึ้งเข้าใจง่าย หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)