เป็นส่วนหนึ่งของเป็นคนดัง มิฉะนั้นเหมือนกับว่า ให้ที่ว่าเป็นสิ่งที่ของคน ที่ของทรัพย์ใช้ได้ หรือจะตัดอะไรก็ตาม เป็นที่ให้เป็นดาบศรีขรรค์ชัย แต่ว่าศรีขรรค์ชัยเหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่มีฤทธิ์เดชอานุภาพ ได้เหมือนที่ถ้อยคำที่ว่า ผสมระคน ระคนหนึ่ง ชิ้นเหล็กไหลบ้าง อันที่เหล็กกายสิทธิ์นั้นๆ เอามาทำให้เป็นศรีขรรค์ชัย บุคคลในครั้งโบราณ หรือปุริมกาล เขาที่กระทำ ส่วนที่ว่าให้เป็นศรีขรรค์ชัย ตัดจนเด็ดขาด หรืออำนาจที่ได้ชัยชนะจากมาร ตัดจาก จากโข จากนาน จากในสิ่งที่โกรธา ความโลภ โกรธหลง ไม่ยอมเชื่อฟังคำเชื่อพระพุทธเจ้า หรือไม่ตั้งอยู่ในธรรม นั้นที่ว่ายักษ์ ยักษ์คือมาร ที่วิชชาธรก็ไม่ฟัง เพราะว่าเขาว่าวิชาดี ตบะของเขาดี หรือกายสิทธิ์ของเขาดี ดาบศรีขรรค์ชัยเขาก็มี ขวานเท่าขวานฟ้าผ่า หรือใช้ศรเหล่านี้ พระรามสูรก็ว่าดี หรือเป็นลูกน้อง เป็นเพื่อนของทศกัณฑ์ แต่แล้วก็ไม่ใช่เหมือนพระโพธิสัตว์ ของพระโพธิสัตว์ศรีขรรค์ชัยเป็นศรีแก่กล้า เป็นส่วนหนึ่งของที่ว่า จะตัดอยู่ในภพนั้นๆ ให้ไปเป็นชั้นๆ เทอญฯ ตัดไปทีละเล็ก ละหน่อยจนกว่าสุดท้าย ได้เป็นพุทธเจ้า ดังศรีศากยะมุนีโคดมบรมครู หรือที่ใช้นามว่าสิทธัตถะ เจ้าชายสิทธัตถะราชกุมาร มีศรีขรรค์ชัยเต็มเปี่ยมพระองค์ ในวันออกอภิเนษกรมณ์นั้น ในหลังม้าเจ้าพ่อพระรามหก ฉันนะอำมาตย์ยึดหางม้า จตุโลกบาลทั้ง ๔ ท้าวธะตะรัฎฐะ วิรุฬหะ วิรูปักขา กุเวโร ๔ พระองค์ทรงกีบม้า คือเท้าม้าทั้ง ๔ แข้ง พระอินทราเทวราชจูงบังเหียนออกหน้า มหาพรหมกั้นฉัตร แวดล้อมด้วยเทวดา มาร พรหม ทั้งหลาย เหยียดยัดจักรวาล ม้าเสด็จทางอากาศ หรือเสด็จออกประตูที่เวียงวังกรุง ส่วนหนึ่งของกบิลพัสดุ์ พ้นจากเขตแล้วหรือเทศบาล แล้วประตูสี่ทิศ สี่แสนคน สี่กำลัง สี่แสนทหาร จึงเปิดออก ถึงเช่นนั้น ถึงเช่น สิ(จะ)เปิดออก พระราชบิดาเจ้า กรุงศรีสุทโธทนะมหาราชสร้างเพื่อที่ไม่ให้ เจ้าชายสิทธัตถะราชกุมาร ประสงค์อยากจะเลี่ยงลัดตัดเสียสละราชสมบัติไป เป็นพระพุทธเจ้า แต่แล้วศรีสุทโธทนะ มีหวังจะให้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเอกในโลก ย่อมจะไม่ให้มีบุคคลใดสม่ำเสมอ มี ๗ มหาสมุทรสาครเป็นขอบเขต ขุมเงิน ขุมทอง ขุมทองคำ ขุมแก้วมณีโชติ หรืออะไรเก่งกาจลึกขึ้นไป สุดเท่ากับธรณี แผ่นดินหนา ๒๔๐,๐๐๐โยชน์ โยชนะ โยชน์หนึ่ง ๔๐๐ เส้น หนาเท่าไหร่ ขุมทองลึกลงไปเท่านั้น อาจจะมาเป็นทานแก่ฝูงมนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลายเป็นประจำ อำนาจเขา เจ้าจักรพรรดิ หรือเจ้าจอมจักรพรรดิราช ผู้มียศยิ่งใหญ่หรืออำนาจทั่วจักรวาลดังนี้ แต่พระทัยพระองค์ไม่ปรารถนา เพราะจักรพรรดิราช ชาติไหนภพไหนเคยได้มา ไม่เวียนหวังจนขี้เกียจแล้ว จะเป็นจ้าวจักรวาล หรือมหาสุทัสสนะราชสุบรรณยิ่งเข้าไปอีก พระองค์ก็ยังที่ว่า ยิ่งอำนาจใหญ่ สุดขอบฟ้าจักรวาล พระอินทร์ พระพรหมมาส่วยสรง ถึงปานนั้นก็มี พระองค์ได้รับยศฐานันดร ฐานันดรถึงเพียงนั้น แต่แล้วก็ไม่ที่ว่า ไม่คมเหมือนดังที่บารมี บารมีจิตใจที่ว่าจบพรหมจรรย์ หันไปเป็นอรหันต์ ครั้งสุดท้ายสัพพัญญูผ่านญาณการเป็นพระพุทธเจ้า ผู้วิเศษ ยิ่งใหญ่ในหมื่นโลกธาตุ จักรวาลจะหวั่นไหว จะเป็นอันนี้ เท่าอะไรจะเสมอเหมือนไม่มีอีก ถึงพระพรหมพระอินทร์หรือ เทวดา นาค ครุฑ กุมภัณฑ์ แห่รอบล้อม นับแต่ตราบแผ่นฟ้าแผ่นดินมืดมิด ไปสู่ในทิศบูรพา นับตะวันออกของแม่น้ำอโนมานที จากกบิลพัสดุ ไป ๓๐ โยชน์ ถึงที่นั้นจึงลงม้าพระรามหก แลตัวตรงกายขึ้นทรงอธิษฐาน ส่งเสนาอำมาตย์ กับเจ้าพ่อพระรามหก กลับเพื่อนำข่าวสาร อาการของชาวศากยราช หรือชาวศากยวงศ์ ไม่ให้เศร้าโศกว่า เราพระองค์ผู้ประสงค์ สัพพัญญูเป็นพระพุทธเจ้า รื้อขนสัตว์ บอกว่าฉะนั้นนะ จะเป็นคนทุกข์ยากลำบาก สักปานใด เอ็นกระดูกจะขาดไปก็ตาม จะอยู่ในทุเรศกันดาร และไม่มีอาหารอะไรจะกิน ใคร่ไม่เสด็จกลับ พระองค์คนเดียวเปลี่ยวเอกา จะไร้เสียซึ่งประยูรญาติ สมศักดิ์ศรีความปรารถนาดีครั้งนี้ ถึงจะทุกข์สุขปานใดก็อาจจะอดทน สู้ไปตราบใด ไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณไม่มาผ่าน สัพพัญญูการเป็นพุทธเจ้าชั้นอริยะทุกพระองค์ ไม่ผ่าน พระองค์จะ เอ็นกระดูกจะขาดไปเป็นชิ้น ๆ หนังก็ตามดังนี้อธิษฐาน สัจธรรม แล้วก็ไม่พ้น ที่ความพระองค์อธิษฐาน ๖ ปี ก็ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า แผ่นดินกัมปนาทหวั่นไหว สะเทือนฟ้าร้อง ก้องไปกังวาน สัตว์ตัวใดอ่อนใจถึงลงอเวจีนรก พญายมภิบาลสาธุการ สัตว์นรกสาธุการ ยอพระกรขึ้นสาธุ สาธุ ทั้งอินทร์ มาร พรหม ดังนี้ พญามารพ่ายแพ้อัปราชัยไป เวลานั้น ฉันใด
เจ้าวสวัตดีมาร ผู้มีน้ำตาที่อันเศร้าโศก แม้ยังไงแล้วก็ตามเป็นผู้นี้ เพราะฉะนั้น จุดที่ว่าเราเกิดมาพรากกัน ที่จะทำว่าเพิ่มเติมนั้นคือว่า ถ้าอยู่ในฆราวาสวิสัยไม่ใช่พระ แต่พระก็ได้ จะหาเวลาหรือกิจธุระอันหวังต่อ จะไม่ยุ่งไม่ยากกับภรรยา หรือบุตรธิดา หรือตระกูลวงศาคณาญาติ ไม่ยุ่งกับลาภยศ บวชเสียสละมาเป็นบรรพชา เป็นภิกษุสามเณร เพิ่มเติม นี้เรียกว่าเพิ่มเติมที่จะทำให้ เป็นสัพพะ ได้โดยเช่นนี้ ฉะนั้น ท่านผู้ที่เป็นภิกษุสามเณร ที่จะเอาจิตใจใฝ่ในการพากเพียร หวังความเป็นพระผู้ประเสริฐ ล้ำเลิศในไตรโลกา ในการที่เกิดมายากหนักยากหนา หาความที่เป็นพระ ณ กาลบัดนี้ ถึงเอาอัฐิกระดูกอรหันต์หรืออะไร วัตถุตามในเงินทอง กองแก้ว หรือแล้วด้วยความปรารถนาเถิด มาลามาลัยก็ตาม ที่ดอกไม้ ธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย จบจิตหรือในการความปรารถนาดี การครั้งนี้ ทั้งปัจจัยที่เศษกระดาษ หรือที่ใช้แทนทองและเงิน เขาทำตามกฎหมายจั่งซี่(อย่างนี้) ไม่ใช่เป็นของจริง ของสมมติ เพราะฉะนั้นท่านที่จะออกจากของสมมติ เป็นพระที่แท้จริงปรารถนา ภาคที่โพธิเจ้า หรือโพธิญาณ ปัจเจกโพธิญาณ อรหันตสาวกโพธิญาณ หรือโพธิสัตว์ในการที่อยู่ในกาล ณ บัดนี้ เสียสละด้วยคุณงามความดี คฤหัสถ์ พัสถาน ผู้มีผลงานเสียสละมาชั่วคราว หรือหากินตามเลี้ยงชีพ ให้ผ่านเวลาวันคืนไปทุกเวลา ผ่านวินาที นาที ชั่วโมง เข้าที่วันคืน วันคืนเข้าสัปดาห์ เดือน เวียนเปลี่ยนเป็นปี เพราะฉะนั้น หวังดีอยู่ในกาลช่วงระยะวินาที นาที ชั่วโมง หรือวันคืนนั้นๆ ไม่ให้เสียวันคืนวันนี้วันใดก็ตาม อนาคตวันหรือในกาลเวลาวัน หรือนาทีของล่วงนาทีนั้นๆ ผ่านนาทีแล้วก็นาที วินาทีก็วินาที แต่เป็นวินาที นาที ชั่วโมงที่ดียิ่ง สมความที่ท่านปรารถนามาบัดนี้ หาวิธีหนีจากความที่มืดมน อนธกาล หรือโลภ โกรธ หลง ที่ทรงจะปรารถนาดีหมดจด คือความบริสุทธิ์จิตใจเจตนาดี หาวิธีที่จะได้รับ ส่วนมรดกของพระผู้มีพระภาค ตามจิตครบของท่านบัดนี้ นั้นก็คือองค์พระธรรม จะล้ำเลิศกว่าประเสริฐกว่าองค์พระธรรมไม่มี พระธรรมนี้จะสมมติให้บุคคลหรือ คนเป็นพระได้ ก็เพราะธรรม พระธรรมเจตนาดีของบุคคลผู้หวัง จิตใจเหมือนดังแก้วมณีโชติ สดใส ปัญญาไวอาจจะรู้เหตุเภทผลนั้น ๆ
เพราะฉะนั้น ขอให้ท่านผู้ฟังหรือหวังดีบัดนี้ ที่จะได้รับคุณงามความดี ถวายสิ่งของหรือเงินทองใดๆ ถึงพระธาตุของบทอรหันต์ อัศจรรย์ลอยมา เป็นอะไรแล้วก็ตาม ของพุทธเจ้า ปัจเจกพุทธเจ้า อรหันตเจ้า สาวกองค์ไหน จะใช่หรือไม่ใช่นั้นอาจที่ลอยมาเป็นสิ่งอัศจรรย์ ด้วยสิ่งอันนี้อัศจรรย์ ทำให้จิตของท่านอัศจรรย์เถิด จิตนึกคิดได้หรือ แปลกประหลาด หรือปกปิดสิ่งที่ว่า ปุถุชนคนหลงมิจฉาทิฐิ ไม่มองเห็นรอยธรรม ถึงท่านที่มองเห็นรอยธรรม ซึ่งจิตใจนึกคิดได้กะทันหันดังพระอรหันต์ จิตพระอรหันต์ คำพูดดังที่ว่าจิต ใจจิตของพุทธเจ้า กายที่ตรงดี นอบน้อมพระรัตนตรัย ทุกจุดลมหายใจ เป็นส่วนกายบริสุทธิ์ผุดผ่องละอองสี ดังทองคำธรรมชาติ เหลืองอร่าม เพราะฉะนั้น จงให้ท่านได้สมหวัง ณ กาลบัดนี้ ด้วยคุณงามความดีจตุพรสี่เถิด นั้นคือ อายุ วัณณะ สุขะ พละ ตลอดการคิดจะทำ ที่วันทำปฐมเทศนา แก่ปัญจวัคคีย์ เดือนสี่เพ็ญ อันจะมาถึง วันต่อๆ ไป ไม่กี่วัน ดังนี้ ในวันสองวัน เพราะฉะนั้น ๑๕ ค่ำ พระผู้มีพระภาคปฐมเทศนาอยู่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี ขอท่านทั้งหลายจงได้รับความดี หมดจดในการที่ว่า อายุที่จะยาวเข้าไป วรรณะที่ผ่องใสสะอาด ปราศจากในการเพราะเหตุเภทภัย อันตรายนานาประการ หรือในการสิ่งที่เป็นบ่วงของมารขัดขวางอยู่ อะไรก็ตามที่ ด้วยเดชบารมีคำสอนองค์พระพุทธเจ้า นั้นอันวิเศษ ปัดเสียมารเหล่านั้น เป็นจุณวิจุณเถิด ทำให้วรรณะผ่องใส ไล่หนีจากโรคภัยไข้เจ็บใดๆ ทั้งสิ้น ที่กายจิตใจนั้นนึกคิดดังที่ว่า เป็นจิตพระอรหันต์ แม้พละกายกำลังดังพญาราชสีห์มิคราชตัวองอาจ ทะยานผ่านฟ้าไปดังพระรามหกดังนี้ เรียกพละกำลังดังที่แข็งแกร่งจิตใจเอ๋ย ไม่ย่อท้อต่ออารมณ์ใดทั้งสิ้น กำลังทรัพย์ภายในภายนอกเรารุกไหลหลั่งมา ปัญญาวิเศษสุก ถึงวิมุตติธรรม จตุพรสี่นี้จงให้มีแก่ท่านผู้ฟัง ณ บัดนี้ คือ อายุ วัณณะ สุขะ พละ ตลอดกันทุกทิพาราตรีกาลเถิดนะ