ธรรมาธิปไตยะ ทำด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จัดว่าทำด้วยพรหมวิหาร ๔ นี้ ทำตามคำสอนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยเจตนารมณ์ดีในบุญกุศล ในภาคในทาน ในศีล ในภาวนานั้นๆ เราจะทำไปให้สิ้น ด้วยเจตนารมณ์ เป็นไปในบุญอันแรงกล้า คือความปรารถนาดี ดังนั้น ทั้งนี้จัดว่าเป็น ธรรมาธิปไตยะ อันจะได้บุญเต็ม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ถึงโลกจะยกย่องไม่ยกย่องก็ตาม ว่าดีไม่ดีก็ตาม กล่าวร้ายก็ตาม ป้ายสีก็ตาม ไม่เสียใจ เมื่อเขายกย่อง ไม่ดีใจ ไม่ปลื้มใจ นี้เรียกว่า ปลื้มด้วยบุญกุศล คนได้บริจาคหรือกระทำไปแล้ว หรือได้รักษาศีลไปแล้ว ได้ภาวนาไปแล้ว จะกระทำต่อไปให้ยิ่งๆ ขึ้นไปเท่านั้น จึงจะว่าเมื่อไรจะถึงมรรคผล วันไหนเวลาใด เดือนใด ปีใด ทั้งนี้จัดว่า เจตนารมณ์ดี เป็นไปในบุญอันแรงกล้า สามารถบุญนั้นจะมาอุ้มชูให้พ้นจากกองทุกข์ไปเป็นขั้นๆ อย่างนี้ถือว่าผู้บำเพ็ญ ด้วยธรรมาธิปไตยะ มุ่งหวังเอาธรรมเป็นใหญ่ คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง ธรรมนั้นแปลว่า คำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้า พอพระองค์เทศนาแล้วเรื่องนั้นๆ ว่าบาปมี บุญมี สวรรค์ นรก นิพพานมี คนทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ดังนี้ ถือว่าจัดเป็นธรรมาธิปไตยยะ การมุ่งธรรมเป็นใหญ่ จะได้อานิสงส์อนันตัง
Posted in หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ