ชีวประวัติหลวงปู่ทองคำศรี รัตนโคตร (ทองทิพย์ พุทธปัญโญ)

ชีวประวัติหลวงปู่ทองคำศรี รัตนโคตร (ทองทิพย์ พุทธปัญโญ)

อดีตประธานสงฆ์ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร​ ตำบลสีกาย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

—–ชาติภูมิ—-

พระเดชพระคุณหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ (ทองคำศรี รัตนโคตร) เดิมชื่อว่า ทองคำศรี จันทะคัต บิดาชื่อ นายประเสริฐ จันทะคัต มารดาชื่อ นางลุนณี จันทะคัต ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๖๗ ตรงกับปีฉลู ณ จังหวัดร้อยเอ็ด เดิมประกอบอาชีพทำนา จากนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ ๑๓ ปี โดยมีพระสมุพิมพ์ เป็นพระอุปัชฌาย์การอุปสมบทพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ได้เข้ารับการอุปสมบทเมื่อ อายุครบ ๒๐ ปี ในวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๗ ณ วัดศรีจันทร์เขืองใหญ่ ตำบลหมูม้น อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระสมุพิมพ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “พุทธปัญโญ” แปลว่า ปัญญาแห่งอันประเสริฐแห่งพุทธะ” ตามลายมือชื่อของท่านว่า “พระทองคำศรี รัตนโคตร” อันปรากฏอยู่ในหนังสือสุทธิ และนามว่า “ทองทิพย์ พุทธปัญโญ” นั้น เป็นนามเรียกที่เป็นที่รู้จักมักคุ้นโดยทั่วกันในหมู่ศิษยานุศิษย์ นั้นคือ “หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ”

—การออกธุดงค์จาริก—

พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ได้เข้าพำนักศึกษาฝึกฝนการปฏิบัติกรรมฐาน อยู่ในสำนักของพระอาจารย์กรรมฐาน แล้วได้ผ่านการบำเพ็ญธุดงค์ ณ สถานที่ต่างๆ ในพื้นที่ภาคอีสาน อาทิเช่น จังหวัดนครพนม รวมถึง ภูมิภูเขาควาย เป็นต้น จนได้พบสถานที่อันเหมาะสมแห่งการก่อร่างสร้างฐานการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนตามแนวทางขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร (เดิมชื่อ วัดดอนพิพวย) ตั้งอยู่ที่ บ้ายฝายแตก หมู่ ๘ ตำบลสีกาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ร่วมกับกับคณะศิษย์และโยมอุปปัฏฐาก แล้วได้พำนักประจำอยู่ ณ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รตนโคตร เรื่อยมาตั้งแต่ ปีพ.ศ.๒๕๐๐ จวบจนกาล ที่ได้ได้ล่วงละสังขารไป ในวันที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔พระเดชพระคุณหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ เป็นพระกรรมฐานาจารย์ พระมหาเถระ ผู้เป็นเนื้อนาบุญ องค์บรมครูหน่อพุทธางค์กูรนี้ ผู้มีคุณูปการณ์อย่างยิ่งต่อพระพุทธศาสนา ด้วยจริยาวัตรอันงดงาม และน่าเลื่อมใสศรัทธาต่อพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นอย่างมาก ทั้งบรรพชิต พระภิกษุสงฆ์ สามเณร อุบาสกอุบาสิกา จากทั่วทุกสารทิศได้หลั่งไหลเข้ากราบสักการะ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ อย่างต่อเนื่องเสมอมา นับตั้งแต่ครั้งที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ยังมีชีวิต จวบจนถึงปัจจุบัน ในกาลที่ท่านฯ ได้ละสังขารล่วงไปแล้วนั้น ศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชน ทั้งหลายเหล่านั้น ที่ยังมีความศรัทธาต่อ องค์คุณูปการณ์ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และด้วยการเก็บรักษา ร่างสังขารของท่านไว้ในโลงแก้วปรับอากาศ เพื่อน้อมสักการะบูชา และโดยการสรงร่างสังขารของพระเดชพระคุณท่านฯ ด้วยหัวน้ำหอมอย่างดี และเปลี่ยนชุดไตรจีวรถวายแด่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ อย่างต่อเนื่องเสมอมา ตามความน้อมเคารพสักการะ ในองค์คุณของท่านฯปฏิปทาของท่านนั้น กอปรด้วยพระวิสุทธิคุณอันสูงส่ง มีมโนปณิธานอันพร้อมด้วยพระเมตตาและมหากรุณาธิคุณ ในความมุ่งหมายที่จะยังสัตว์โลกให้ได้รู้ธรรม ด้วยทาน ศีล และภาวนา อีกทั้งท่านยังได้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี วจีคำสอนอันไพเราะงดงามและครบถ้วนบริบูรณ์ด้วยอรรถะ และพยัญชนะ และหลายครั้ง หลายคราวที่ท่านฯ นำเรื่องราวในพุทธประวัติ และพุทธชาดกของพระบรมโพธิสัตว์ที่จะมาเลี่ยงลัดตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลมาบอกกล่าว และเทศน์สอนลูกศิษย์พระเดชพระคุณหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ ได้ล่วงละสังขาร ในวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๔ ณ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร

แชร์เลย

Comments

comments

Share: