ตะกรุดดินน้ำลมไฟ หลวงปู่หงษ์

…… ” ข้อมูลเพื่อศึกษา “…..
..” ตำนานตระกรุด ธาตุ 4 รุ่นแรก”…
หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

ตำนานการสร้างตะกรุดดินหรือตะกรุดขอมดำดิน
ตะกรุดดิน(ปัถวีธาตุ) หมายเลข

เป็นอีกวิชาหนึ่งที่หลวงปู่ได้ศึกษากับครูบาอาจารย์เมื่อครั้งสมัยธุดงค์อยู่ ณ เมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชาซึ่งถือว่าเป็นวิชาเฉพาะองของท่านที่มีอานุภาพมากมายได้ใช้ในการช่วยคุ้มครองป้องกันกอบกู้บ้านเมืองมาแล้ว ณ ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีวิธีการสร้างที่ยากและแยบยลกว่าวิชาตะกรุดน้ำถึง 5เท่าตัว จึงมีอานุภาพมากกว่า เพราะสำเร็จด้วยธาตุทั้ง 4 คือ
1. ธาตุเตโช(ไฟ)
2. ธาตุวาโย(ลม)
3. ธาตุอาโป(น้ำ)
4. ธาตุปถวี(ดิน)
ครั้งแรกของการสร้างตะกรุดดินดินหรือตะกรุดขอมดำดิน จักต้องเตรียมธาตุดินก็คือดินเป็นปฐมธาตุ และดินที่สำคัญที่สุดก็คือดินโปร่ง ซึ่งหลวงปู่ถือว่าเป็นหัวใจของดินทั้งหมดเพราะ ดินตรงนี้จะมีอิททานุภาพย่นย่อ ปิดป้องกัน กำบังกายหายตัว พรางตัว ให้ศัตรูเห็นเป็นต้นไม้ตอไม้ จอมปลวกไปได้ ทั้งสามารถป้องกันอาวุธทั้งปวง ดิน โปร่งนี้ มีหลายชนิดแต่ที่มีคุณสมบัติพิเศษคือ
1. โปร่งแดง จะมีสีแดงอมน้ำตาล เมื่อเคาะจะมีเสียงดัง ดีทางเดชอำนาจคุ้มตัว
2. โปร่งดำ จะมีสีดำหรือดำอมเทา มีอานุภาพทางคุ้มครองป้องกันกำบังพรางกาย
3. โปร่งย้อย หรือโปร่งงอกจะมีสีเทาอมเหลือง มีลักษณะคล้ายหินงอกหินย้อยแต่เป็นดิน ดีทางเมตตา โชคลาภ เจริญรุ่งเรือง
4. โปร่งดินธรรมดา มีลักษณะสีดินผสมทราย บ้างก็มีเกล็ดขาวประกาย คล้ายดินกากยายัก ดีทางบำรุงรักษา ซึ่งสัตว์ป่ามักดียกกัดกินดินประเภทนี้ ประดุจโอสถทิพย์ ดีทางรักษาโรคภัย กันภูตกันพราย
หลวงปู่เล่าว่าดินนี้เป็นดินที่มีเทพ”ฤาษี”คุ้มครองรักสาดูแลเพื่อเมตตาช่วยเหลือแก่สัตว์ทั้งหลาย
5. ดินจอมปลวก 9 จอมปลวก นี้ดีทางเหนียวและคงกระพันชาตรี
6. ดินปิดปากรูปู 9 ฝา ดีทางมหาอุด มาหากำบังและเป็นกำบังภัย
7. ดิน 9นคร 7 บุรี
8. ดินรวยหรือดินเศรษฐี ซึ่งถือว่าเป็นส่วนผสมสำคัญของการสร้างพระดินหรือตะกรุดดิน “รุ่นรวยมหาเศรษฐี” คำว่าดินรวย หรือดินเศรษฐี นี้ เป็นดินที่ลูกศิษย์ของหลวงปู่ได้นำมาจากวัดไทยในประเทศอเมริกา มาถวายหลวงปู่แล้วกล่าวว่า “ประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่รวย เป็นประเทศเศรษฐีและเป็นประเทศมหาอำนาจอีกด้วย”ดังนั้นดินที่ได้มานี้หลวงปู่เลยเรียกว่า”ดินรวยดินเศรษฐี”
9. ใบไม้รูหนอนอย่าง
10. ผงว่าน 108 ของชุดผงว่านฉลองชัย ที่มีการเก็บว่านได้มากกว่า 108 ชนิดนำมาผสมกัน
11. ชานหมาก ยาจุกหรือยาฉุน
12. ผงธูป กรวยดอกไม้ พวงมาลัย บูชาพระของหลวงปู่

จากนั้นนำดินทั้งหมดมาโขลกละเอียดดีแล้ว จึงนำมาร่อนอีกครั้งหนึ่งจนบริสุทธิ์จากนั้นจึงนำผงว่าน ผงยา ทั้งหมดนำมาคลุกเคล้าผสมกับน้ำพระพุทธมนต์เก้าพิธี (แต่น้ำพระพุทธมนต์ของหลวงปู่นั้นมีมากกว่า 108 พิธี เพราะทุกครั้งที่หลวงปู่ไปประกอบพิธี ณ ที่ใดก็ดีก็มักจะให้ลูกศิษย์ขอน้ำมนต์นั้นติดมาผสมรวมกับตุ่มน้ำมนต์ใหญ่ ที่สุสานทุ่งมนทุกครั้งไป)”น้ำมนต์หลายครูหลายอาจารย์ดีมาก เพราะทุกครูทุกอาจารย์ในประเทศไทยดีหมดทุกคน เพราะแต่ละองค์นั้นมีจุดมุ่งหมาย เพื่อช่วยเหลือลูกศิษย์ลูกหาทั้งนั้น”

จากนั้นจึงนำดินผสมและนวดจนได้ที่แล้วนำมากลึงให้แบนและนำมาม้วนกลมโดยใช้ไม้เป็นแกนเวลาม้วนตะกรุดดิน จากนั้นจึงนำมากดโค้ดและหมายเลขอีกด้านหนึ่งจะประทับด้วยพระคาถา”นะเมติ” และนำมาผึ่งจนแห้งดีแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการเตรียมเตา และหาฤกษ์วันเวลา ที่จะทำพิธีสุมไฟแกลบ
สำหรับในการสร้างตะกรุดดินหรือตะกรุดขอมดำดิน”รุ่นรวยมหาเศรษฐี”นี้ ถือว่าเป็นการสร้างทำแบบเป็นทางการ ครั้งแรกเพื่อฟื้นฟูอนุรักษ์วิชาให้คงอยู่สืบไป โดยกำหนดวันที่ 18 กรกฎาคม 2542 ณ สุสานทุ่งมนจังหวัดสุรินทร์ เพื่อสุมไฟแกลบเสร็จเรียบร้อยแล้ว(ประมาณ 1-3 วัน) จึงจะสำเร็จเป็นตะกรุดดิน
แต่ในการนี้หลวงปู่ได้เพิ่มโดยให้บรรจุผงดินรวยมหาเศรษฐี ใส่ไว้ในตะกรุดดินและให้อุดด้วยเทียนชัยผสมสีผึ้งสาริกา เพื่อจะช่วยเพิ่ม กฤตยาคม มหาโชค มหาลาภ มหาเมตตา มหานิยม ให้มีผลฉับพลันยิ่งขึ้น
เพราะลำพังตะกรุดดินอย่างเดียวนั้น มักมีคุณสมบัติทางคุ้มครอง ป้องกัน แคล้วคลาดกันอาวุธ เขี้ยวงา อำบางพรางตัวเป็นส่วนใหญ่ แต่ครั้งนี้ถือว่าพิเศษ เพราะได้เพิ่มการบรรจุผงรวยมหาเศรษฐี และอุดกันด้วยเทียนชัยสีผึ้งสาริกา ซึ่งถือว่าเป็นเมตตามหานิยมสุดยอดแล้ว ของด้านวิชาเมตตามหานิยมโชคลาภ
วิชาตะกรุดขอมดำดินนี้ ครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ ได้แสดงให้หลวงปู่ดู ขณะกำตะกรุดดินใส่มือภาวนา ให้อำพรางหายตัวมองไม่เห็นได้อีกคราว ครูของท่านภาวนานอนหน้านาบแผ่นดินสักครู่ ก็มองมาไม่เห็นว่าหายไปไหน อีกครั้งเวลาท่านเดินเข้าหาหน้าผา หรือเชิงผาเชิงเขา เมื่อมองไปอีกทีไม่ทราบว่า ครูอาจารย์ของท่านหายไปไหนแล้วหลวงปู่กล่าวว่า”แปล๊ก แปลก ไม่รู้หายไปทางไหน สักครู่ก็กลับมาที่เก่าได้ แปลกม๊าก มาก”

…”ตะกรุดน้ำรุ่นแรก”…
หลวงปู่หงษ์(อาโป)หมายเลข

ตะกรุดน้ำ ฟังดูแล้วก็แปลกเป็นวิชาที่หลวงปู่ท่าน ได้ศึกษาจากครูอาจารย์สมัยธุดงค์อยู่ ณ พระตะบอง ประเทศกัมพูชา เพราะครูบาอาจารย์ของหลวงปู่นั้นทุกๆองค์จะเรืองไปด้วยสรรพวิชา ครั้งกระสินธ์และอภิญญา ทดลองแสดงฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์จนหลวงปู่ท่านได้ประจักษ์ตา แล้วจึงได้ขอมอบตัวเป็นสิทธิ์เพื่อสืบทอดวิชานั้นนั้น อย่างเช่นวิชาตะกรุดน้ำนี้ก็เป็นวิชาหนึ่งว่าด้วยวิชาของอาโปกสิณ คือการสำเร็จวิชาน้ำ ที่ว่าสำเร็จวิชาน้ำนี้ หมายถึงการเพ่งน้ำหรืออธิฐานน้ำ เมื่อเดินญานจนถึงจตุญานแล้ว ค่อยพรจิตรถอยกลับสู่ปฐมญาน แล้วตั้งจิตอธิฐานขอให้น้ำเป็นของแข็ง หรือเป็นสิ่งที่พึงปรารถนา จนสำเร็จนี้คือเบื้องต้นแห่งวิชากสิณน้ำ หรืออาโปกสิณ เมื่อหลวงปู่ท่านได้เรียนจบวิชาตะกรุดน้ำนี้แล้ว อีกหลายปีต่อมาได้เกิดความวุ่นวายรัฐประหารในประเทศกัมพูชา เจ้าสีหนุได้อาราธนา ขอให้หลวงปู่ได้ช่วยกอบกู้ชาติ ซึ่งหลวงปู่ก็ได้เมตตาช่วยเหลือดังได้เคยเขียนเล่าต่อท่านผู้อ่านไปแล้ว วิธีการช่วยกู้ชาติของหลวงปู่ก็โดยใช้เครื่องทุ่นแรงเช่น วิชากุมารทอง ผู้คนช่วยรบกับทหารของเจ้าสีหนุ ก็ดีหรือใช้งู แมลงผึ้ง ต่อ แตน ช่วยกัดต่อยทหารเขมรแดง จนเสียขวัญพ่ายแพ้ในที่สุด ส่วนในการช่วงทหารของเจ้าสีหนุนั้น หลวงปู่ได้สร้างขวัญและกำลังใจให้กับทหาร โดยมอบตะกรุดน้ำให้คนละหนึ่งขวด บางครั้งก็นำเม็ดหินบ้าง ใบไม้บ้าง นำมาภาวนาอธิษฐานจิตแล้วห่อกระดาษมอบให้พวกทหารพกติดตัว ผลปรากฏว่ากระสุนปืนอาก้าหรือปืนคอร์ไม่อาจถูกหรือได้กินเลือดของทหารเขมรฝ่ายรัฐบาลแต่ประการใด ซึ่งวิชาที่เสกเม็ดเห็นคนดินนั้นก็คือวิชาปัถวีธาตุ ซึ่งหลวงปู่นี้มีชื่อมากสมัยธุดงค์อยู่ในกัมพูชา นอกจากเสกก้อนหิน ก้อนดิน กิ่งไม้ใบไม้แล้ว บ้างก็นำทรายมาให้หลวงปู่ได้เมตตาอธิฐานจิต วานโปรยรอบบ้านรอบเขตแดน ผลปรากฏว่าอาวุธ กระสุนปืน ระเบิดก็ดี หรือแม้แต่ภูตผีปีศาจก็ไม่อาจแผ้วพานได้เลย ส่วนตะกรุดน้ำนั้นหลวงปู่ได้หาหรือใช้วัตถุได้ง่าย ที่พอหาได้ก็คือขวดยานัด นำน้ำมาใส่ขวดแล้วภาวนาอธิษฐานจิตเรียบร้อย แล้วจึงมอบให้กับทหารของเจ้าสี่หนุ คนละหนึ่งขวดสำหรับพกติดตัวหรือคล้องคอตามอัธยาศัย ก็เป็นเรื่องแปลกและขมังเวทย์ เพราะลูกปืนตังค์เที่ยวไปมาให้แคล้วคลาดชาตรี มิระคายผิวของทหารฝ่ายรัฐบาลแต่ประการใด ด้วยเหตุฉันนี้ถ้ากล่าวถึงแต่กดน้ำในประเทศกัมพูชา ทุกคนต้องร้องอ๋อตะกรุดน้ำหลวงตาหงษ์ เพราะนอกจากหลวงปู่จะช่วยทหารฝ่ายรัฐบาลแล้ว ยังได้เมตตาหาที่ปลูกป่าหาที่ขุดสระเลี้ยง และปล่อยสัตว์น้ำนานาพรรณหลาย 100 กว่าแห่ง หลวงปู่นี้จะอยู่ ณ ที่ใดก็ตามก็จะนำแต่ความร่มเย็นเป็นสุขไปสู่สถานที่นั้นนั้นทั้งยังนำความอุดมสมบูรณ์และช่วยเหลือพัฒนาถิ่นนั้นให้เจริญรุ่งเรืองอยู่ร่ำไป นี่คือความละเอียดอ่อนแห่งเมตตาจิตของพระอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมด้วยแม่ต้าพรหมวิหารสี่ ซึ่งตะกรุดน้ำนี้หลังที่หลวงปู่ได้กลับมาสู่ถิ่นกำเนิดเมืองไทยแล้วก็มิได้สร้างทำอีก จนในวโรกาสฉลองสมโภชอายุ 80 ปีหลวงปู่ ทางผู้ดำเนินการกองทุนปลูกป่าฯ จึงได้รื้อฟื้นวิชาต่างๆของหลวงปู่ที่ได้เคยสร้างชื่อเสียงไว้ แล้วแต่ในอดีตสมัยสงครามของประเทศกัมพูชา นำมาฟื้นฟูสู่สายตาลูกหลานไม่ได้เสื่อมหายไป เช่นการสร้างพระปัถวีธาตุเต็มสูตร การสร้างผ้าประเจียดนางจัน การสร้างพระผงกดพิมพ์แบบโบราณ การ์ดโหสีผึ้งกลางแจ้งแบบโบราณและในครั้งสุดท้ายแห่งการฉลองสมโภช 80 ปีหลวงปู่นั้น จะจัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ 5 วันที่ 27-28 มีนาคมพ.ศ. 2542 เวลา 19 . 19 น. ณ สุสานทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ หลังจากเสร็จพิธีเลี้ยงพระ ถวายน้ำสรงหลวงปู่แล้ว จักได้กระทำการมอบวัตถุมงคลทั้งหลายที่ปลุกเสกหนึ่งปี และทำพิธีพุทธาภิเษกถึงห้าครั้งแจกจ่ายแด่บรรดาศิษย์ยานุศิษย์ทุกท่านที่ได้ร่วมงาน หรือที่สั่งจองกันแรมปีก็ดี ซึ่งหลังจากวันนี้แล้วจะถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นอมตะของหลวงปู่ เพราะหลังจากการสร้างพระหรือวัตถุมงคลครั้งนี้แล้ว อีกเท่าไหร่ยังไม่มีกำหนดที่จะสร้างอีกอย่างเป็นทางการ หลวงปู่กล่าวว่า “จะอนุญาตให้สร้างอีกก็ต่อเมื่อครูบาอาจารย์ได้อนุญาตให้สร้างหรือทำอีกจึงจะทำได้” ถ้าไม่ทำตามครูบาอาจารย์จะสร้างจะทำอย่างไรก็ไม่เกิดผล ไม่เหมือน ไม่ขลัง ดีไม่ดีอาจแตกหมดเสียหายได้ดังนั้นจึงต้องทำตามครูบาอาจารย์ท่านสั่ง”
น้ำใส่ขวดอาจแตกหรือระเบิดเสียหายไปได้ จึงได้จัดทำเป็นแผนเงินเมื่อหลวงปู่จารเรียบร้อยม้วนเป็นตะกรุดแล้วก็จะนำแช่ในขันน้ำมนต์จนถึงวันงานก็จะนำแช่ในบาตรแก้ว ณ ปริมณฑลพิธีเพื่อเพิ่มความขลังยิ่งยิ่งขึ้นไป เหล่านี้เพียงเป็นขั้นตอนการเกริ่นกล่าวของวิชาแต่กดน้ำหลวงปู่หงษ์ ซึ่งจะมีวิธีขั้นตอนการใช้สรรพคุณมากมาย 108 ประการ

….”ตระกรุดลม (วาโย)” หมายเลข

รุ่นไตรมาส “ดี๊ดี” (รุ่นแรก) ปี 2543 หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ จารและอธิษฐานจิตปลุกเสก

รุ่นไตรมาส ดี๊ดี หรือที่นิยมเรียกกันว่า รุ่นดี๊ดี พิธีพุทธาภิเษก ณ สุสานทุ่งมน เริ่มจากปฐมฤกษ์ เวลา 06.09 น. ประกอบพิธีหล่อเหรียญโบราณรุ่นแรก (เข้าดินไทย) บรรจุผงมหาราช พระสีวลี พญาเสือดำเนื้อพิเศษ ได้บังเกิดนิมิตสายฝนโปรยลงมาอย่างไม่มีเค้าเมฆแต่ประการใด หลวงปู่กล่าวด้วยปิติยินดีว่า “เป็นครั้งแรกที่ครูเทพ อาจารย์ใหญ่ลงมาช่วยเททองให้” ในการนี้สร้างความฮือฮากับศิษยานุศิษย์ทุกคน เพราะได้นิมิตดีจากหลวงปู่กับลาภมงคลบนขันน้ำมนต์ที่ล้อมรอบด้วยกุมารคงทองผู้เลิศทางลาภอย่างถ้วนหน้า สมกับที่หลวงปู่กล่าวว่า “รุ่นนี้ตั้งใจทำให้ดีที่สุดแล้ว” จึงสมแล้วที่ชื่อรุ่นไตรมาส “ดี๊ดี”

วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้เขียนจะเรียกว่ารุ่นเย็นสบายครับ เพราะมีการสร้างตะกรุดลม หนึ่งในตะกรุดธาตุสี่ขึ้นเป็นครั้งแรกด้วย ที่สำคัญกระแสความร่มเย็นจากบารมีธรรมของหลวงปู่และครูบาอาจารย์ที่มาร่วมประสิทธิ์ในครั้งนี้นั้นมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ตั้งแต่เริ่มเททองกันโดยมีหลวงปู่หงษ์เป็นประธานยามเช้า (06.09) ไปจนถึงพิธีอธิษฐานจิตอีกครั้งในช่วงพลบค่ำ (19.09 น.)

ตะกรุดลม (วาโยธาตุ) ความยาว 4.4 ซม. สร้างตามกรรมวิธีของหลวงปู่ทุกอย่าง ใช้วัสดุแผ่นเงินหุ้มห่อด้วยใบลาน หลวงปู่ลงจารอักขระพระยันต์ด้วยตัวเองทุกดอก ส่วนตะกรุดไฟและตะกรุดลมรุ่น 2 ที่สร้างหลังปี 2551 หลวงปู่ท่านมิได้จารแต่เสกให้ทุกอย่างเช่นเดียวกัน มอบไว้เป็นความรู้ตามข้อเท็จจริงโดยตรงจากเจ้าหน้าที่ทางกองทุนปลูกป่าหลวงปู่หงษ์ครับ ส่วนเรื่องบารมีความเป็นที่สุดรูปหนึ่งในเรื่องการจารและเสกตะกรุด

….”ตระกรุดเตโช(ตะกรุดไฟ)”…. หมายเลข

หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ เป็นตะกรุดธาตุ ๔ สร้างจากแผ่นเงินจารพระยันต์ม้วนเป็นตัว”พะ”ตามอักษรขอม พะ คือธาตุไฟ จึงอุดด้วยผงเดโชธาตุ ผงก้านธูป ผงชานหมาก มีคุณสมบัติพิเศษทางเดชตะบะ บารมี เป็นมหาอำนาจ มหาปราบ มหาจังงัง ป้องกันภูติผีปิศาส คุณไสย อันตรายทั้งปวง สรรพศาสตรา เขี้ยวงา สัตว์ร้ายทั้งหลาย
ตะกรุดมหาเตโชชัย (ตะกรุดไฟ)
หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
ตะกรุดมหาเตโชชัย เป็นตะกรุดที่สำเร็จด้วยวิชาเดินธาตุ4 เป็นวิชาที่ดึงเอาธาตุไฟ มาใช้ให้เกิดฤทธิ์ด้วยเตโชกสิณ
อุดผงเตโชธาตุที่หลวงปู่ท่านตั้งธาตุ อธิษฐานจิตไว้ให้
ต้นธาตุมาจากขี้ธูปในกระถางบนหัวนอนท่านที่ท่านใช้สวดมนต์ภาวนาเป็นประจำ
หลวงปู่ท่านได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
ครั้งนึงท่านเคยเอ่ยปากบอกว่า “หากเกิดศึกสงครามขึ้น ถ้าทำพระไม่ทัน ก็ให้เอาขี้ธูปนี่แหละ เอาไปใช้ติดตัวกัน แจกจ่ายกันไป ป้องกันรักษาตัวเองได้ดีมั๊ก มาก”
ส่วนผสมที่ขาดไม่ได้ในการทำตะกรุดไฟชุดนี้ คือดินโปร่ง ๗ นคร ๙ บุรี ตามตำรา ตามตำราแล้วท่านว่าให้เอามาผสมใช้ทำด้วยเพื่อเพิ่มฤทธิ์ในการป้องกัน ภูติ ผี ปีศาจ
และที่ตะกรุดมหาเตโชชัย มีลักษณะการม้วนไม่เหมือนตะกรุดชนิดอื่น คือ ต้องม้วนทั้งสองฝั่งเข้าหากัน บางคนเรียกตะกรุดแฝด ที่ทำเช่นนี้เพราะเป็นเคล็ดวิชา ม้วนเข้าหากัน แล้วพันด้วยเชือกสองฝั่ง หมายถึงองค์พระ และนามว่า พระ = พะ ซึ่งหมายถึง ธาตุไฟ
เป็นหนุนธาตุแต่ละชนิด
นะ มะ พะ ทะ ธาตุน้ำ
มะ พะ ทะ นะ ธาตุดิน
พะ ทะ นะ มะ ธาตุไฟ
ทะ นะ มะ พะ ธาตุลม
นี้คือ การหนุนธาตุด้วยหัวใจของแต่ละธาตุ
และการม้วนเข้าหาตัวยังหมายถึงการปกป้องคุ้มครอง คุ้มกันเสียซึ่งภัยอันตรายต่างๆนาๆ
ดังนั้น ผู้ที่รู้จักของจึงรู้กันดีว่า ตะกรุดมหาเตโชชัย เน้นไปในเรื่อง ตบะ เดชะ และคงกระพันชาตรี เป็นอย่างดี หลวงปู่กำชับนักว่า “ให้ไว้ที่สูง เท่านั้น” อย่าเอาไว้ต่ำ ปรามาสครูบาอาจารย์ เพื่อเผยแพร่บารมีครูบาอาจารย์ครับผม

แชร์เลย

Comments

comments

Share: