ลอเรน รีด จอห์นสัน อายุ ๒๔ ปี อาศัยอยู่ที่นอร์ธฮอลิวูด แคลิฟอร์เนีย เขาเป็นนักบำบัดด้วยการนวด เป็นครูสอนโยคะ
ลอเรนฝึกโยคะซึ่งเรียนมาจากครูชาวอินเดียอยู่ทุกวันเป็นเวลานานถึง ๕ ปี เขารู้สึกว่าโยคะช่วยให้เขานั่งเจริญภาวนาได้ดี ซึ่งการฝึกโยคะนี้รวมถึงการจำกัดอาหารเหลือแค่ผลไม้และผักเท่านั้น
เมื่อลอเรนและภรรยามาฮันนีมูนกันในประเทศไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฝ่ายหญิง แล้วตระเวนไปตามวัดต่างๆ เพื่อหาผู้ที่สอนเจริญภาวนาเป็นภาษาอังกฤษได้ ด้วยเหตุเช่นนี้เองได้นำพาเขามาสู่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ “วิชชาธรรมกาย” เลย
พระภาวนาวิสุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จึงแนะนำให้เขามาร่วมกิจกรรม โดยแบ่งกลุ่มเจริญภาวนาตอนเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งทำให้ท่านรับรู้ถึงความสามารถอันพิเศษของลอเรน ท่านจึงให้รองอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาทำหน้าที่สอนเขาทุกๆ วัน หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ หลวงป๋าก็เริ่มสอนเขาเป็นการส่วนตัว และถึงแม้ลอเรนเรียนวิชชาธรรมกายได้เพียงแค่ ๒ สัปดาห์ แต่เขาก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ซึ่งสถานีโทรทัศน์ช่อง ๙ ได้บันทึกการสัมภาษณ์ของลอเรนไว้ โดยมีความยาว ๑๕ นาที ดังนี้
ผู้สัมภาษณ์ของช่อง ๙ : สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้พบคุณ คุณได้เรียนรู้อะไรจากการเจริญภาวนา ?
ลอเรน : อันดับแรก ผมได้เรียนวิธีการรวมใจหยุดนิ่งตรงศูนย์กลางกาย หยุดนิ่งถูกส่วนตรงนั้น ศูนย์กลางขยายออกไปเป็นดวงใสรอบตัว เมื่อใจหยุดกลางของหยุดเรื่อยไปก็หยุดในหยุดกลางของหยุดเรื่อยๆ ไป ได้เข้าถึงกายละเอียดๆ ต่อๆ ไป จนสุดละเอียดจนถึงธรรมกาย
ผู้สัมภาษณ์ของช่อง ๙ : คุณรู้สึกอย่างไร เมื่อคุณถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายในท้องของคุณ ?
ลอเรน : ผมรู้สึกสงบเยือกเย็นมาก อย่างล้ำลึก และความสุขที่แผ่ขยายออกมา
ผู้สัมภาษณ์ของช่อง ๙ : เมื่อเจริญภาวนาถึง ๑๘ กาย และถึงธรรมกายนั้น คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง ?
ลอเรน : รู้สึกว่าแต่ละกายที่เข้าถึงนั้น กิเลสเบาบางลงตามลำดับ เริ่มตั้งแต่กายมนุษย์ซึ่งเป็นกายที่หยาบที่สุดและเป็นกายโลกิยะ ถึงกายมนุษย์ละเอียด
ต่อๆ ไป จนถึงสุดละเอียดได้ถึงธรรมกาย ซึ่งเป็นกายที่ทึบน้อยที่สุด มันพ้นจากความรู้สึกยึดถือในความเป็นตัวตนใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้สัมภาษณ์ของช่อง ๙ : คุณรู้สึกไหมว่า สิ่งที่คุณได้เห็นเป็นของจินตนาการหรือของจริง ?
ลอเรน : ใช้จินตนาการน้อยมาก แต่สิ่งที่เห็นนั้นปรากฏขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ผมเพียงแต่เพ่งไปที่กลางของกลาง แล้วดวงและกายต่างๆก็ปรากฏขึ้นเอง
ผู้สัมภาษณ์ของช่อง ๙ : คุณได้เห็นนรก-สวรรค์บ้างไหม ?
ลอเรน : เห็นครับ
ผู้สัมภาษณ์ของช่อง ๙ : แล้วคุณเห็นอะไรที่นั่น ?
ลอเรน : ได้เห็นหลายอย่างครับ ในนรก เห็นการลงโทษที่แตกต่างกันหลายระดับมาก เห็นผู้คนมากมายกำลังถูกสุนัขกัด มันดุร้ายและเกรี้ยวกราดมาก พวกเขาพยายามวิ่งหนี ปีนต้นไม้ที่มีหนามแหลม (ต้นงิ้ว) ก็ยังถูกสัตว์ที่คล้ายแร้งจิกทึ้งจนพลัดตกลงมาจากต้นงิ้ว แล้วก็ถูกสุนัขก็จะเข้ามาจัดการกับพวกเขา ผมได้เพ่งดูที่ศูนย์กลางดวงธรรมของสัตว์นรกเหล่านี้ เห็นเป็นสีดำมืด ผมได้มองเข้าไปในจุดศูนย์กลางกายของพวกเขาเพื่อดูว่าทำไมพวกเขาจึงต้องไปอยู่ในนั้น เป็นเพราะประพฤติผิดในกาม และผมได้เห็นว่าเขาทำสิ่งที่น่าละอาย ความผิด และสิ่งที่ชั่วร้ายต่อจิตใจ ผมไปยังอีกระดับหนึ่ง (นรกอีกขุมหนึ่ง) เห็นผู้คนอยู่ในกระทะใหญ่ ใหญ่มาก ! ร้อน ! มีสิ่งซึ่งดูเหมือนของเหลวร้อนหรือโลหะหลอมเหลวเหมือนตะกั่ว มันแผดเผาอวัยวะภายใน บางคนก็ต้องดื่มของเหลวที่มีกลิ่นเหม็นมาก แย่มาก (หมายถึงน้ำทองแดง) และผมได้เพ่งดูที่ศูนย์กลางดวงธรรมของสัตว์นรกเหล่านี้อีก ได้เห็นว่าพวกเขาได้รับวิบากกรรมเช่นนี้เป็นเพราะดื่มแอลกอฮอล์กันเป็นส่วนมากรวมทั้งยาเสพติดอื่นๆ แต่ส่วนมากเป็นแอลกอฮอล์ และแล้วในนรกสิ่งที่ร้ายสาหัสที่สุดที่ผมเห็นลึกลงไปกว่าระดับที่ ๘ (มหานรกขุมที่ ๘) ลึกกว่านรกของพวกที่ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต พวกที่พูดโกหกหลอกลวง และพวกที่ขโมย โกง คอร์รัปชั่น ของผู้อื่น ในนรกขุมนั้น ผมเห็นผู้ที่สอนผู้อื่นผิดๆ พวกเขาเหล่านี้ถูกปิดตาจนมืดมิด พวกเขาไม่สามารถมองเห็นได้และต่างคนต่างวิ่งเข้าหากันด้วยความสับสนอลหม่าน และทุกข์ทรมานมาก ร่างกายของพวกเขาถูกเผาไหม้จนดำเหมือนกับถูกลวกด้วยน้ำกรด มีกลิ่นเหม็นเหมือนซากศพ กลิ่นตลบอบอวลมาก ผมได้เจริญภาวนาถึงธรรมกายที่สุดละเอียด ได้เห็นสวรรค์ซึ่งตรงข้ามกับนรก อย่างสิ้นเชิง สว่างไสวมากสวยงามมาก ศูนย์กลางกาย (ดวงธรรม) ของเทพดาเหล่านี้ส่องรัศมีสว่างนัก ในนรก สัตว์นรกมีศูนย์กลางดำมืดมัวมาก ในสวรรค์ ผมเห็นเทพยดาบนสวรรค์มีรัศมีใสสว่างเป็นประกายประดุจดังแก้วผลึก และผมสามารถดูไปที่ศูนย์กลางของเทพดาเหล่านี้ และรู้เห็นว่าทำไมพวกเขาได้มาอยู่บนสวรรค์ ก็เนื่องจากสิ่งที่เป็นบุญกุศลทั้งหมด กรรมดีมากมายที่เขาได้ทำแก่ผู้อื่น เทวดาบางตนอยู่บนพื้นดิน บางตนอยู่ในอากาศ และผมเห็นเทวดาอยู่ในต้นไม้ก็มาก แต่ความแตกต่างสำคัญระหว่างสวรรค์กับนรก ก็คือสิ่งที่ผมเห็นที่ศูนย์กลางกายของสัตว์นรกและเทพดาเหล่านั้นไม่กรรมดีก็กรรมชั่ว อย่างใดอย่างหนึ่ง (สองอย่างนี้เท่านั้นที่พวกเขาได้ทำลงไป เห็นปรากฏได้ที่ศูนย์กลางกาย บุญกุศลนำให้มาเกิดเป็นเทวดา ส่วนบาปอกุศลนำให้ไปเกิดเป็นสัตว์นรก)
ผู้สัมภาษณ์ของช่อง ๙ : คุณก็ได้เห็นทั้ง ๒ ฝ่าย ระหว่างสวรรค์กับนรก ระหว่างกรรมดีกับกรรมชั่วที่ผู้คนพากันทำ แล้วคุณได้เห็นพระนิพพานไหม ?
ลอเรน : ครับ ผมเห็น พระนิพพานอยู่นอกเหนือไปจากสิ่งที่เราคิดว่าเป็นดิน น้ำ ลม ไฟ ผมไม่เห็นธาตุทั้ง ๔ เหล่านี้เลย ผมได้เห็นพระนิพพานธาตุนับไม่ถ้วน เท่าที่ผมจะเห็นได้ และมีรัศมีเจิดจ้าสว่างไสว
ผู้สัมภาษณ์ของช่อง ๙ : คุณคิดว่าอะไรคือประสบการณ์ที่ดีที่คุณได้ปฏิบัติเข้าถึง ได้รู้ และได้เห็นจากการเจริญภาวนานี้ ?
ลอเรน : ผมรู้สึกว่า วิธีเจริญภาวนาวิชชาธรรมกายนี้มีความพิเศษ เป็นการปฏิบัติทางตรง ทำให้ผมได้มีประสบการณ์อย่างสูง
ผู้สัมภาษณ์ของช่อง ๙ : เมื่อคุณกลับไปสหรัฐอเมริกาแล้ว คุณจะทำอะไร ?
ลอเรน : ผมวางแผนไว้ว่า จะสอนวิชชาธรรมกาย ผมมีลูกค้าซึ่งผมสอนโยคะ การเจริญภาวนา และการนวดอยู่แล้ว และผมเชื่อว่าการแนะนำวิชชาธรรมกายให้จะช่วยให้พวกเขาให้ช่วยตนเองได้
Channel 9 Interviewer : Good morning. It’s nice to meet you. What did you learn from meditation?
Loren : Well, I learned first to focus my attention on the center of the center of the body. And, from there, the center expanded to surround my entire body. As I continued to focus on the center, I saw my refined human body and became that – continuing to focus on the center. This happened again and again, all the way until I reached my refinest Dhammakaya body.
Channel 9 Interviewer : And, how did you feel when you first reached your own nucleus in your stomach?
Loren : It felt very cool and calm and a very deep, expanding sense of joy… happiness.
Channel 9 Interviewer : And how did you feel after you completed all 18 bodies and reached Dhammakaya?
Loren : Well, each body became less and less dense. So, we begin with the human body which is the most crude and mundane, and then it becomes more and more refined until it reaches the most refined Dhammakaya which is the least dense. It totally transcends any sense of personal ego.
Channel 9 Interviewer : And, did you feel that what you saw was imagination or reality?
Loren : Very little imagination. It happened automatically. I just focused on the center of the center and it appeared by itself.
Channel 9 Interviewer : And did you see hell or heaven?
Loren : Yes.
Channel 9 Interviewer : And what did you see there?
Loren : Well, many things. In hell, I saw many levels of different punishments. I saw different people in one level who were being attacked by a dog – very mean and angry. And, they were trying to escape – climbing a tree with thorns. Also, like vultures were trying to attack them and they would fall and then the dog would get them.
And, I would look at the nucleus of the people – very dark. In the nucleus I would see why they were there – because of sexual misconduct. And I would see lots of shame and guilt and mental poison.
And then we went to another level and I saw a large caldron … Large! People were inside it. Hot! With what looked like a very hot liquid or melted metal like lead.
And they are inside, burning. And some had to drink this very smelly – very bad liquid.
And I look at their nucleus and I see that most had drunk alcohol. Also some drugs and things, but mostly alcohol. And they drink the liquid and it cooks their organs – especially the brain. It fries the brain.
And then, in hell, the worst thing I saw – below the 8th level – below the murders and all the liars and thieves – I saw the false teachers. And they had blindfolds. They couldn’t see and they were running into each other – chaos and lots of torment. And their bodies were burned dark like they had been scalded with acid. There was a dead smell – a very thick smell.
And then I became the refined Dhammakaya and then we saw heaven. And there we saw the opposite, really. Very luminous – very beautiful. The center of the beings was very radiant. In hell the beings had a very dark, cloudy nucleus. In heaven I saw them very radiant and glowing like a crystal sphere. And, I could look into the center and see why they were there – all the meritorious things, the many good deeds they did for the people.
Some were on earth; some flying through the sky. I saw many in trees. But, the main difference between heaven and hell was what I saw at the center of the beings – either evil deeds or good, meritorious deeds.
Channel 9 Interviewer : So, you saw both sides – hell and heaven and the good things and bad things that people do. And, did you see Nirvana?
Loren : Yes, I did. It goes beyond what we think of as earth and water and fire. All of these things, I saw none of. I saw countless saints and Buddhas – as far as the eye could see. And they were very very radiant, with glowing centers. I focused on them and I could see all the good things they did to make them so brilliant.
But, the most luminous, in the center, was Buddha – the Primordial Buddha – surrounded by Buddhas. And, I asked for permission, and I touched Lord Buddha on the leg. And it felt very very cold, like ice.
Channel 9 Interviewer : What do you think were the good points that you got from meditation?
Loren : Well, I feel that this particular style of meditation, Dhammakaya, is a very very direct way to experience directly my highest self.
Channel 9 Interviewer : And, when you are back in America, what will you do?
Loren : Well, I plan on teaching Dhammakaya. I have clients that I practice meditation, yoga and massage with already, and I believe that sharing Dhammakaya with them will help them to help themselves.