ประสบการณ์วิชชาธรรมกาย. โดย นุชจรีย์ สุนทรวรรณ

#บุญศักดิ์สิทธิ์
ประสบการณ์วิชชาธรรมกาย. โดย นุชจรีย์ สุนทรวรรณ
ผู้เขียนเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนโพธิสารพิทยากร เขตตลิ่งชันกรุงเทพฯ เคยเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาไทยมาก่อน ต่อมาได้ผันตัวเองเป็นผู้บริหารโรงเรียน ได้มีโอกาสมาวัดปากน้ำ รู้จักหลวงพ่อวัดปากน้ำพระมงคลเทพมุนี(สด จนฺทสโร) เพราะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในชีวิตเป็นเหตุการณ์ที่พลิกผันชีวิตเมื่อปีพ.ศ. 2526 ได้ลาไปศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทราวิโรฒ ประสานมิตรรุ่นนั้นมีกันเพียง 12 คน เป็นช่วงเวลาเดียวกับการพบคลื่นชีวิตช่วงปี 2526 พี่ชายคนหนึ่งที่ผู้เขียนรักมากเกิดป่วยหนักถึงขั้นสูญเสียการควบคุมสติอย่างรุนแรงพยายามทำลายชีวิตตนเอง โดยกระโดดตึกโรงพยาบาลหลายหน จำพ่อแม่พี่น้องไม่ได้ ขับถ่ายไม่รู้ตัว ช่วยตัวเองไม่ได้ แพทย์หาสาเหตุไม่พบ ทำให้ผู้เขียนทุกข์ใจอย่างยิ่งการเรียนก็หนักหนาสาหัส ต้องอ่านหนังสือมาก ต้องมีการแสดงความคิดเห็นและสัมมนากันตลอดเวลา แต่ผู้เขียนเรียนไม่รู้เรื่องเลย นั่งซึมน้ำตาใหลห่วงกังวลน่ะสงสารพี่ชาย แต่ยังโชคดีมีบุญพบเพื่อนรุ่นพี่ที่เรียนด้วยกันซึ่งผู้เขียนปลื้ม ในความดีความเก่งนับถือเหมือนพี่สาวที่สำคัญพี่เป็นกัลยาณมิตรของผู้เขียนพวกเราเรียกว่า”พี่แป๋ว” ทุกท่านที่มาทำบุญที่วัดปากน้ำจะรู้จักพี่สาวคนนี้ดี ชื่อพลตรีหญิงทัศนศรี ไตรยคุณคุณ ขณะนั้นเป็นพันตรีหญิงมีความเมตตาเอื้ออาทรมาก มาพูดคุยไต่ถามสาเหตุแห่งความสุขเศร้าปลอบโยนแล้วแนะนำให้ไปวัดปากน้ำไปขอบารมีหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ขอบารมีคุณน้าตรีทา เนียมขำเรียกท่านตามพี่แป๋ว ซึ่งเป็นอาจารย์สอนสมถวิปัสสนากรรมฐาน ถึงซึ่งวิชชาธรรมกายระดับสูงให้ช่วยบรรเทาปัญหาชีวิตของพี่ชาย พาไปกราบหลวงพ่อบนหอสังเวชนียมงคลเทพนิรมิต พาไปพบคุณน้าตรีธา เนียมขำ ท่านแนะนำให้ไปกราบหลวงพ่อสดไปขอบารมีให้หลวงพ่อช่วยให้ยึดมั่นใน หลวงพ่อให้รักษาศีลและหมั่นนั่งสมาธิเอาบุญทั้งหมดให้พี่ชายเพราะเขาไม่รู้เรื่องทำด้วยตัวเองไม่ได้ คุณน้าตรีธาก็จะช่วยแก้โรคให้พี่ชายด้วย ถ้ามีเวลาว่างก็ให้มันไปนั่งสมาธิบนหอขาว สถานที่นี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อบอกว่าเป็นศูนย์จักรพรรดิ
แรกแรกผู้เขียนไม่แน่ใจตัวเองว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะมีความเชื่อว่าการนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องของพระภิกษุเท่านั้นแต่ด้วย มีความศรัทธาในตัวพี่แป๋วเป็นทุนเดิมและเห็นความรักความปรารถนาดีจึงลองไปนั่งสมาธิที่วัดปากน้ำและส่งรูปพี่ชายที่ป่วยบอกวันเดือนปีเวลาเกิด ฝากพี่แป๋วขอให้คุณน้าตรีธาให้ช่วยอัดบุญแก้โรคภัยไข้เจ็บให้พี่ชายทั้งทั้งที่ไม่รู้ว่าจะได้ผลอย่างไร ยังไม่มีความมั่นใจ
ช่วงนี้เองเป็นโอกาสที่ทำให้ผู้เขียนเข้าใกล้ธรรมะ ฟังเทศน์ฟังธรรมมากขึ้นได้รู้ได้ฟังได้พิจารณาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและหลวงพ่อวัดปากน้ำมากขึ้นได้เพิ่มสติปัญญาทีละน้อยทีละน้อยแต่ทำเป็นประจำนั่งสมาธิเสร็จไม่ได้ขออะไรให้ตัวเองตั้งความปรารถนาส่งบุญให้พี่ชายปลอดภัยหายป่วยเท่านั้น
ผู้เขียนนั่งสมาธิครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2526 บนหอขาววัดปากน้ำฟังเสียงหลวงพ่อสด จากเทปทำตามที่ท่านสอนทุกขั้นตอนได้ง่ายดายเห็นดวงแก้วตั้งแต่วันแรกเลยไม่รู้สึกแปลกอะไร ยังไม่รู้ว่าเป็นนิมิตหรือเป็นของจริง เข้าใจว่าทุกคนก็เห็นดวงแก้วใส เหมือนที่ผู้เขียนเห็น สว่างใสขึ้นทุกวันทุกวัน นึกเมื่อไรเห็นเมื่อนั้น เห็นตลอดเวลาพึ่งมารู้ภายหลังจากที่เล่าให้พี่แป๋วฟังว่าไม่ได้เห็นกันทุกคน ผู้เขียนเอาจิตกำหนดรู้เห็นภายในได้ง่าย เร็ว ไม่ได้เอาใจส่งออกภายนอกเลย เหมือนถูกควบคุมด้วยกลไกอะไรซักอย่าง สบายสบาย สงบ นิ่ง เย็น หยุดเข้าสู่กลางของกลาง ณ ศูนย์กลางกาย ไม่เหมือนถูกบีบบังคับใดๆ ใจแตะเบาเบาพอดีพอดีไม่หนักไม่เบาเกินไป ภาวะเช่นนี้ผู้เขียนมาสังเเกตอาการได้ในภายหลัง แต่ขณะนั่งสมาธิลงตัวโดยอัตโนมัติ
ปีพ.ศ. 2530 ผู้เขียนมีศรัทธาอย่างแรงกล้าในการนั่งสมาธิอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน ไปโรงเรียนตั้งแต่หกโมงเช้า ถึงแล้วเนื่องด้วยมีอาชีพครูก็ดี ทำให้มีโอกาสพาเด็กเด็กมานั่งสมาธิในห้องพระที่โรงเรียน มีเด็กหลายคนมานั่ง บางคนเห็นเพื่อนมา ก็ตามตามกันมา มีเด็กที่นับถือศาสนาอิสลามก็มานั่งด้วย เป็นผู้นำองค์การและกิจกรรมทางศาสนาเสมอมาพานักเรียนเข้าค่ายธรรมะเป็นประจำ
ผู้เขียนนั่งสมาธิติดต่อกันตั้งแต่ปีพ.ศ. 2526 ถึง 2530 เห็นดวงแก้วทุกครั้งหารู้ไม่ว่าคนอื่นไม่ได้เห็นกันทุกคน ช่วงนั้นรักษาอุโบสถศีลเป็นปกติ ศรัทธาแรงขึ้นเพราะเห็นผลเกิดแก่พี่ชายหายป่วยอย่างอัศจรรย์ซึ่งป่วยเป็นปีถ้าใครพบเห็นตัวอาจคิดว่าเป็นผี ผอม หน้าตาไม่ใช่มนุษย์เลย เหลือแต่หนัหุ้มกระดูก แต่ด้วยบารมี”ธรรมกาย”ทำให้หายสนิท ขับรถได้ส่งผลให้คนในครอบครัวของผู้เขียนศรัทธา ผู้เขียนพาคุณพ่อพี่ชายพี่สาว มาฝึกสมาธิที่หอขาววัดปากน้ำ ผู้เขียนลืมเล่าไปว่าตอนที่พี่ชายเริ่มป่วยอาการทรุดหนักความหวังไม่มี ผู้เขียนจึงได้อธิฐานจิตกราบขอบารมี จากหลวงพ่อสดที่หอประดิษฐานสรีระของหลวงพ่อว่าขอให้พี่ชายหายป่วย ได้ฝึกสมาธิก่อนแล้วจะเอาไปตายก็ไม่ว่าเพราะพี่ชายมีลูกเล็กสามคนและชีวิตของพี่มีอาชีพเป็นทหารไม่ค่อยได้ลิ้มรสพระธรรม ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ผู้เขียนกราบขอพรไว้ต่อมาก็ประสบผลตามทีอธิษฐาน พี่ชายพื้นอย่างอัศจรรย์ยิ่ง จนคุณหมอที่โรงพยาบาลพระมงกุฏออกปากกับคุณแม่ว่า คุณป้าครับ ในพันคนรอดสักหนึ่งคนก็ยากครับ
พ่อแม่พี่ๆของผู้เขียนได้พบเห็นผลแห่งการฝึกสมาธิและบารมีของหลวงพ่อสด ทำให้พี่ชายรอดชีวิตและได้บรรพชาอุปสมบทถึงสามเดือนจุดนี้ทำให้ครอบครัวเกิดศรัทธายิ่งขึ้น
ต้นเดือนมิถุนายน 2530 ผู้เขียนรู้สึกอยากไปปฏิบัติธรรมปลีกวิเวกรักษาศีลแปดนั่งสมาธิช่วงวันเกิด 13 มิถุนายน อยากปลีกวิเวก อยู่ที่สงบตามป่าเขาหรือธรรมชาติ ทางบ้านเป็นห่วง แต่ไม่กล้าทัดทานเพราะเกรงจะบาป ผู้เขียนฟังวิทยุว่ามีวัดหลวงพ่อสดธรรมกายยารามที่จังหวัดราชบุรี ผู้เขียนจึงชวนหลานสาวเดินทางไปรักษาศีลแปดปฏิบัติธรรมที่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายยารา 3 วัน ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ 12 – 15 มิถุนายน 2530 ได้ฝึกสมาธิ เช้า กลางวัน เย็น ค่ำ เกิดความมหัศจรรย์ จากเดิมเคยเห็นดวงแก้วใสที่ศูนย์กลางกายเป็นปกติ ก็เห็นซ้อนกันหลายดวงนับไม่ถ้วน ขยายใหญใสสว่างมาก ในดวงแก้วมีกายของตนเองซ้อนอยู่ ขยายใหญ่ ในกายมีดวงซ้อน สลับกันไปมา ใสสะอาด กลางดวงใสกับกลางของกลางกายเป็นจุดเดียวกัน เร็วมากถ้าจะพูดถึงดวงและกายก็ยังพูดไม่ทันเลยเพราะความเร็วสูงมาก
ต่อมาได้เห็นกายหลายกายซ้อนดวง ดวงแก้วซ้อนดวงกาย กลางกายมีดวงขยายใหญ่ใสใส ต่อมาเห็นองค์พระเข้าใจว่าเป็นประธานนั่งขัดสมาธิธิ ผู้เขียนเห็นในศูนย์กลางกายซ้อนจากดวงแก้วใส เห็นมาถึงประมาณเอวของพระพุทธรูปหยุดแค่นั้น ไม่ตื่นเต้นตกใจเลย ไม่ดีใจ จิตนิ่งเฉยเฉยเป็นอัตโนมัติ เหมือนถูกดูแลในสัดส่วนความพอดี เห็นองค์พระครึ่งองค์ ก็หยุดแค่นั้น จึงระลึกถึงหลวงพ่อ ในจิตมีคำถาม ว่า”ลูกเป็นอะไร”ทันทีนั้น ผู้เขียนได้ยินเสียงเกิดมาจากฐานที่7 ศูนย์กลางกาย จำได้ว่าเป็นเสียงหลวงพ่อสด แต่ข้อความนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนข้อความนั้นเป็นเสียงว่า”อย่าดีใจเดี๋ยวจิตจะแลบ”
ผู้เขียนสัมผัสชัดเจนมากๆจิตไม่ดีใจ ไม่ตื่นเต้น แต่สงบเย็นโดยอัตโนมัติ ทันใดจิตเห็นภาพพระพุทธรูปจากสะดือเลื่อนขึ้นไปถึงพระศียรเห็นทั้งองค์ กลางกายองค์พระ กับกลางกายเนื้อและศูนย์กลางดวงธรรมเป็นศูนย์เดียวกัน ที่แปลกผู้เขียนเห็นองค์พระหันหน้าไปทิศทางเดียวกับกายเรา เห็นด้วยทัด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา ส่วนบน ส่วนล่างขององค์พระเลย พอออกจากท่านั่สมาธิ พระที่สอนนำท่านก็พูดท่ามกลางความสงบ ซึ่งคนอื่นๆต่างก็ได้ยินชัดว่า “เห็นแล้วใช่ไหม”แปลกว่าพระท่านทราบได้อย่างไร จึงถามท่านว่าตัวผู้เขียนเป็นอะไร ท่านตอบว่า”คุณโยมได้ธรรมกายแล้ว”ผู้เขียนงงๆไม่ดีใจใดๆเป็นเวลาเดียวกับผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหนุ่มสาวผู้เฒ่าที่ศาลาปฏิบัติธรรมต่างเข้ามารุมล้อมอนุโมทนา ผู้เขียนงงคิดว่า ถูกสะกดจิตถูกหลอกหรือเปล่าแต่ก็พิจารณาประมวลได้ว่า ได้ยินเสียงหลวงพ่อสดจากศูนย์กลางกายของตนเองถ้อยชัดคำและภาพองค์พระใสยังคงอยู่เสมอมา แต่ก็อดไปถามพระ คุณน้าตรีธาและแม่ชีไม่ได้ ผู้เขียนได้ไปถามพระ แม่ชี ผู้ได้ธรรมกายเพื่อยืนยันความรู้ความเห็นท่านก็ยืนยันคำตอบตรงกัน
ความแปลกอีกประการในวันที่ผู้เขียนเห็นองค์ธรรมกายและเข้า 18 กายได้เร็วมากตอนนั้นไม่รู้จักว่า 18 กายคืออะไรยังจำได้ว่าวันนั้นที่เห็นธรรมกายเป็นวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน 2530 เวลา 06.15 น เป็นวันคล้ายวันเกิดของผู้เขียนพอดีตรงทั้งทางจันทรคติและสุริยคติ และเวลาตกฝากด้วย และเป็นเวลาที่ฝนตกมาเป็นครั้งแรกของฤดูฝนที่จังหวัดราชบุรี พระที่นั่นบอกว่าให้ไปต่อวิชชาที่วัดปากน้ำ ท่านต่อให้ไม่ได้แล้ว วันสุดท้ายจะกลับบ้านก็เห็นองค์พระแก้วใสขยายใหญ่มากๆ สุดตา ได้มาเล่าทั้งหมดให้คุณพ่อคุณแม่และพี่พี่ฟัง ทุกคนต่างปลื้มปิติน้ำตาไหล ตอนแรกก็กลัวว่าเค้าจะไม่เชื่อและกลัวว่าจะผิดบาปที่นำเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตนมาเล่า เป็นการอวดอุตริหรือเปล่า พระท่านก็แนะนำว่าให้อธิฐานจิตก่อนเล่า ขณะที่เล่าเรื่องเป็นเวลาราวสองทุ่มทุกคนต่างได้ยินเสียงดังเหมือนระเบิดลงบ้าน สะเทือนไหวแรงทั้งบ้านสักพักก็หยุดไม่มีอะไรตกแตก เสียหายเลย พีๆจึงบอกผู้เขียนว่าให้รีบอุทิศบุญกุศลให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้าน ซึ่งผู้เขียนเองก่อนไปรักษศีลสามวันได้บอกกล่าวกับพระพุทธรูปประจำบ้านและเทพเทวาว่าจะไปรักษาศีลแปดปฏิบัติธรรม แล้วจะนำบุญมาฝากท่านทั้งหลาย แล้วก็ลืมคำพูดไปพอได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเหมือนมาเตือน จึงทราบว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาขอรับส่วนบุญครั้งนี้
หลังจากนั้นพี่แป๋วได้ไปเรียนให้คุณน้าตรีธาเนียมขำ ทราบเผอิญเป็นช่วงเวลาที่ท่านไม่ค่อยว่างจึงแนะนำให้ไปต่อวิชชาธรรมกาย กับแม่ชีรัมภา โพธิ์คำฉาย ท่านได้เมตตา ต่อวิชชาธรรมกายให้จนหมดต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องที่ผู้เขียนจะต้องปฏิบัติเองทำเองรักษาไว้เองให้เจริญและละเอียดใสเสมอ
ได้พบสิ่งมหัศจรรย์แปลกแปลกเกิดขึ้นมากมายไม่เคยรู้มาก่อน มีอยู่คืนหนึ่งขณะนั่งสมาธิรู้ตัวทุกอย่าง ขอไปดูสวรรค์นรกก็ได้โดยตรึกระลึกถึงบารมีหลวงพ่อสด เห็นชัดเจนมาก มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ไม่หลับไม่ฝัน
สิ่งแปลกแปลกหลากหลายเกิดขึ้น มากผู้เขียนได้บันทึกสิ่งที่ได้พบเห็นไว้อย่างละเอียดในช่วงแรกๆ พบเห็นมากจนกลายเป็นเรื่องปกติ งานราชการก็มีมากจนต้องหยุดบันทึก
สิ่งที่ได้เขียนให้ผู้อ่านได้ทราบนี้เป็นไปตามคำขอของ พลตรีหญิงทัศนศรี ไตรยคุณ ใจจริงแล้วไม่ค่อยอยากเขียนเกรงคนไม่เข้าใจ แต่คิดว่าโอ้อวด แต่พี่แป๋วบอกว่า เขียนเถอะ เป็นธรรมทานถวายเป็นพุทธงูชาธรรมบูชา และบูชาพระคุณของหลวงพ่อวัดปากน้ำ
อาจารตรีธาและลูกศิษย์ของหลวงพ่อทุกคนมีความยินดีและอนุโมทนากับผู้ที่ได้วิชชาธรรมกายทุกคน เป็นการยืนยันว่าวิชชาธรรมกายที่หลวงพ่อได้พากเพียรพยายามปฏิบัติมา และนำมาสั่งสอนให้ผู้อื่นได้รู้เห็นเป็นความจริง ใครที่ตั้งใจยึดถือปฏิบัติจริงจัง ได้เห็นผลจริงทุกราย ไม่ใช่เรื่องของการเพ้อฝันหรืออยากดังใดใดทั้งสิ้น
จากหนังสือที่ระลึกกฐินพระราชทาน วัดปากน้ำ ปี 2554
แชร์เลย

Comments

comments

Share: