วัดต้องมีพื้นที่ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาชนิดเหมือนป่าไม้ เพื่อผู้ที่เข้ามาแสวงบุญในเขตวัดได้รับความสดชื่นจากธรรมชาติ ใจย่อมน้อมลงสู่สมาธิได้ง่าย ด้วยเหตุนี้เอง หลวงพ่อพระราชญาณวิสิฐจึงลงมือปลูกสวนป่าขึ้น ด้วยไม้นานาชนิดที่มีคุณค่าและหายาก เช่น จันทน์หอม, จันทน์กระพ้อ, จันท์อิน/จันท์แป้น, สาละอินเดีย, เต็ง, รัง, ยาง, แดง, ตะเคียน, มะค่าโมง, ชิงชัน, ประดู่ลาย, สาธร/ขะเจ๊าะ, พยุง/แดงจีน, เขลง/นางดำ ฯลฯ ทั้งต้นไม้ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าในอดีต ซึ่งนับย้อนถอยหลังไปหลายพระองค์ เช่น ต้นซึก หรือ จามจุรีสีทอง อันเป็นต้นไม้ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า กกุสันโธ ต้นขานางอันเป็นที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า โกณฑัญญะ และต้นไม้โพธิอื่นๆ อีกมากมาย
โดยเฉพาะต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พุทธคยา อันเป็นต้นไม้ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันพระนามว่า โคตมะ นั้น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงปลูกไว้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2525 พระนางสังฆมิตตา (ภิกษุณีอรหันต์) ได้อัญเชิญกิ่งจากต้นเดิมที่พุทธคยา, อินเดีย ไปปลูกไว้ที่เมืองอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา อนึ่ง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เมื่อเสด็จกลับจากการเยือนประเทศศรีลังกา ก็ได้ทรงนำหน่อพระศรีมหาโพธิ์ ต้นนี้มาทรงปลูกไว้ด้านทิศใต้ของศาลาอเนกประสงค์ 1 ต้น และ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตศรีลังกา ประจำประเทศไทย ก็ได้นำหน่อพระศรีมหาโพธิ์มาถวายไว้ และพระองค์ได้ทรงปลูกไว้ ณ บริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้อุโบสถ อีก 1 ต้น เพื่อให้เป็นพุทธานุสติแก่ญาติโยมทั้งหลาย