พระเทวทัต

พระเทวทัต

🔮 มีความปรากฏในพระธรรมบทว่า พระพุทธองค์ได้ทรงเป็นผู้มีอภัยทานเป็นเยี่ยม ด้วยทานปรมัตถบารมี ตลอดถึงเมตตาและอุเบกขาปรมัตถบารมี อันได้อบรมมาดีแล้ว เป็นเวลาถึง ๔ อสงไขยแสนกัปป์

#พระองค์ทรงได้รับการก่อกวน ล่วงเกิน เบียดเบียน จากพระเทวทัต ในระหว่างที่ทรงบำเพ็ญบารมีอยู่นับครั้งไม่ถ้วน จนมาถึงสมัยพุทธกาล ที่ทรงบรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ขณะเมื่อพระพุทธองค์ยังทรงดำรงพระชนม์อยู่ ก็ทรงรับพระเทวทัตให้เข้ามาบวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา แม้จะทรงทราบเหตุแห่งพระเทวทัต ว่าจะมาก่อกรรมทำเข็ญอีก แต่ด้วยพระเมตตาและพระกรุณา ว่าหากพระเทวทัตมิได้บวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนาแล้ว จะกระทำการก่อกรรมทำเข็ญหนักยิ่ง อันจะมีโทษหนักโดยที่พระเทวทัตก็จะมิได้กระทำปัจจัยที่เป็นบุญกุศล ให้เป็นนิสสัยปัจจัยในภพชาติต่อไปอีก

#จึงทรงรับพระเทวทัตให้บวช และเมื่อบวชมาแล้วก็ก่อกรรมทำเข็ญ ล่วงเกิน เบียดเบียนพระพุทธองค์อีกมากจนได้ ทั้งๆที่ในอดีตชาตินั้นได้กระทำผิดต่อพระพุทธเจ้า ถึงต้องธรณีสูบลงสู่อเวจีมหานรกมามากแล้ว ก็ยังกระทำผิดต่อพระพุทธเจ้าอีกมากมายหลายประการ

เช่น กลิ้งก้อนหินใส่พระพุทธเจ้า หมายจะฆ่าพระพุทธองค์ แต่ไม่สำเร็จ เพียงแต่พระบาทห้อพระโลหิต ให้คนปล่อยช้างนาฬาคีรีที่กำลังตกมันให้ฆ่าพระพุทธองค์ แต่ไม่สำเร็จ เพราะช้างนาฬาคีรีกลับคุกเข่าถวายบังคมพระองค์

#สุดท้ายจึงขออำนาจในการปกครองสงฆ์เองแทนพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาต #จึงคิดอุบายที่จะทำสังฆเภท โดยแกล้งขอวัตถุ ๕ ประการ ได้แก่

๑. ขอให้พระภิกษุทั้งหลาย จงเป็นผู้อยู่ป่าตลอดชีวิต

๒. ขอให้พระภิกษุทั้งหลาย จงเป็นผู้เที่ยวไปเพื่อบิณฑบาตตลอดชีวิต

๓. ขอให้พระภิกษุทั้งหลาย จงเป็นผู้ทรงผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต

๔. ขอให้พระภิกษุทั้งหลาย จงเป็นผู้อยู่ ณ โคนต้นไม้ตลอดชีวิต

๕. ขอให้พระภิกษุทั้งหลาย จงไม่ฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต

#ครั้นเมื่อพระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาต ก็ถือโอกาสชักชวนพระภิกษุผู้บวชใหม่ ผู้ยังไม่รู้พระธรรมวินัยอันพระพุทธองค์ตรัสและบัญญัติไว้ดีแล้วดีพอ ให้เห็นว่าพระพุทธองค์ไม่ทรงเคร่งครัดในพระธรรมวินัย สู้พระเทวทัตไม่ได้ ถ้าใครต้องการพ้นจากทุกข์ก็จงไปกับพระเทวทัต

พระภิกษุผู้บวชใหม่ ยังมิได้เรียนรู้พระธรรมวินัยดีพอประมาณ ๕๐๐ รูป ก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย เลยชักชวนกันไปกับพระเทวทัต พระเทวทัตได้ยังสงฆ์ คือ หมู่ภิกษุให้แตกแยกกันแล้ว #ชื่อว่าสังฆเภท

เมื่อได้ภิกษุผู้เป็นบริวาร ๕๐๐ ไปแล้ว สู่คยาสีสะประเทศ พระเทวทัตและบริวารก็เลี้ยงชีวิตอยู่ด้วยการหลอกลวงชาวบ้าน ผู้มักศรัทธาแต่ในวัตถุอันเศร้าหมอง(ลูขัปปมาณิกา)ว่า พวกตนนี้แหละ เป็นผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย คือ ในวัตถุ ๕ ประการ ที่เคยทูลขอกับพระพุทธเจ้า แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาตนั้น

แล้วยังแสดงตนประหนึ่งว่าเป็นพระพุทธเจ้าเสียเองอีก คือ นั่งบนอาสนะอันจัดไว้แบบพระพุทธ โดยให้มีพระอัครสาวกซ้ายขวา และแวดล้อมด้วยหมู่พระภิกษุเพื่อแสดงธรรม

ด้วยการเยื้องกราย คือ ด้วยพุทธลีลาอย่างพระพุทธเจ้า

#พระพุทธองค์ได้ตรัสให้ภิกษุทั้งหลายทราบว่า พระเทวทัตนั้น มิใช่ว่าจะทำตามพระองค์ในคราวนี้ แต่ว่าได้ทำตามพระองค์มาแล้วแต่อดีตชาติ และได้ทรงเล่านทีจรกากชาดกว่า

ในอดีตชาติ ที่พระพุทธองค์ได้ทรงเสวยพระชาติเป็นกาน้ำ ชื่อว่า วีรกะ ผู้เที่ยวไปทั้งในน้ำและบนบก ผู้บริโภคปลาดิบเป็นปกติ มีกาตัวหนึ่งชื่อ สวิฏฐกะ เห็นกาน้ำวีรกะบริโภคปลาดิบอยู่เป็นประจำ อยากจะบริโภคเช่นนั้นบ้าง จึงทำตาม(ดำน้ำหาปลา)อย่างกาน้ำ จึงถูกสาหร่ายพันติดตัวตาย

#ต่อมาพระพุทธเจ้าได้ส่งให้พระอัครสาวกทั้งสอง คือ พระสารีบุตร และ พระมหาโมคคัลลานะ ไปแสดงธรรมและสั่งสอนพระภิกษุ ๕๐๐ รูป ผู้บวชใหม่นั้น ผู้ยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงไปอยู่กับพระเทวทัตที่คยาสีสะประเทศ ให้เข้าใจทั่ว แล้วพาเหาะกลับมาทางอากาศ สู่พระเชตวันวิหาร

#พระภิกษุคู่หูของพระเทวทัตชื่อ โกกาลิกะ ไม่พอใจที่พระเทวทัตไปคบหาสมาคมกับพระอัครสาวกทั้งสองแต่ก่อน เป็นเหตุให้พระอัครสาวกทั้งสอง มานำภิกษุผู้บริวารกลับไปได้ จึงตีเขาที่ยอดอกของพระเทวทัต จนกระอักเลือดและป่วยหนัก

#ภายหลังพระเทวทัตจึงสำนึกในความชั่วของตน และสำนึกในพระคุณของพระพุทธเจ้า ได้จึงขอให้ลูกศิษย์ยกตนขึ้นใส่เตียงน้อย และให้พาไปเฝ้าพระพุทธเจ้า โดยสำนึกว่า พระพุทธองค์นั้น มิได้ทรงมีความอาฆาตแม้สักเท่าปลายผมในตน(พระเทวทัต) ผู้กระทำผิดแล้วในพระองค์มาตลอด และว่าพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงมีพระทัยเสมอกันหมดในชนทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นพระเทวทัต หรือว่านายขมังธนูผู้พระเทวทัตให้ไปประทุษร้ายพระองค์ โจรองคุลีมาล ช้างนาฬาคีรี หรือว่าพระราหุลผู้เป็นพระราชโอรส

#แต่พระเทวทัตก็ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพราะผลแห่งกรรมชั่วอันหนัก ที่กระทำผิดในพระพุทธองค์หลายประการ ชื่อว่า #กระทำอนันตริยกรรม จึงถูกธรณีสูบที่สระโบกขรณี ก่อนที่จะถึงพระวิหารเชตวันเพียง ๑ คาวุต (ประมาณ ๑๐๐ เส้น)

#ขณะเมื่อถูกธรณีสูบเข้าสู่แผ่นดินลงจนถึงคาง แล้วก็พอมีสติ จึงตั้งจิตอธิษฐานขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง และขอบูชาพระพุทธเจ้าด้วยกระดูกคางของตน แล้วได้ไปบังเกิดในอเวจีมหานรก อันมีเหล็กแหลมขนาดเท่าต้นตาล แทงทะลุตลอดซ้าย-ขวา หน้า-หลัง ล่าง-บน ตรึงอยู่ เสวยผลกรรมชั่วอันทารุณ แสบร้อน จากไฟนรกอันร้อนแรง เผาไหม้(แต่ไม่ตาย) อยู่ชั่วกาลนาน

#แม้ว่าพระเทวทัตจะได้กระทำผิดในพระพุทธเจ้ามาตลอด พระพุทธองค์ก็มิได้ทรงถือเป็นข้อโกรธพยาบาท แม้แต่สักเท่าปลายแห่งเส้นผม ทรงมีพระทัยสม่ำเสมอ เปี่ยมด้วยพรหมวิหารธรรม และอภัยทานอันเยี่ยม ไม่ยินดียินร้ายแม้พระเทวทัตถึงซึ่งความวิบัติฉิบหาย เพราะผลแห่งกรรมชั่วของตน

__________________

เทศนาธรรมจาก

พระเทพญาณมงคล

หลวงตาเสริมชัย ชยมงฺคโล

วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

อ.ดำเนินสะดวก

จ.ราชบุรี

___________________

ที่มา

บางตอนจากหนังสือ

บุญ-ทานกุศล

สถาบันพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย

อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี

____________________

เพจอมตวัชรวจีหลวงป๋า.

แชร์เลย

Comments

comments

Share: