ธัชชัย ศรีอาจ พระของขวัญวัดหลวงพ่อสด
พระเบญจภาคีเนื้อพญาเหล็กชุดนี้ เป็นพระยุคที่สอง(ช่วงพ.ศ.2553-2560) ได้ปรับปรุงรูปแบบการสร้าง ให้ต่างกับพระพญายุคแรก(ช่วงปี43-53) ซึ่งพระเบญจภาคีในยุคแรกนั้น เรามักจะพบเป็นสีเมฆพัตร(ผิวสีม่วงอมน้ำเงิน)เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผิวพระที่เป็นสีเมฆพัตรในยุคนั้น หากเก็บรักษาไม่ดี ผิวพระจะมีการเปลี่ยนแปลง ซีดลงบ้างหละ เกิดขี้สนิมสีน้ำตาลอ่อนๆบ้างหละ รวมปัญหาผิวพระลอก หรือเปลี่ยนเป็นสี (บางองค์ออกเหลืองหม่นๆ) ผู้บูชาพระในยุคนั้น จึงอยากได้พระเนื้อเงินยวงกัน เพราะพระเนื้อเงินยวงนั้น ไม่ลอก ผิวไม่เปลี่ยนสี ในการสร้างพระยุคที่สองนี้ จึงมีการสร้างให้เป็นเนื้อเงินยวงด้วย อีกทั้งหลวงป๋าได้อัญเชิญ ยันต์พุฒิซ้อน มาไว้ด้านหลังองค์พระด้วย เพื่อเป็นเอกลักษณ์ แก่พระพญาเหล็กของวัดเรา มิให้ไปละม้ายคล้ายคลึงกับ พญาเหล็กสำนักอื่นๆ พระในยุคที่สองนี้แม้แต่เป็นสีเมฆพัตร หรือสีทองท้องปลาไหล ผิวพระก็เปลี่ยนยากครับ ผมเคยได้ยินผู้ใกล้ชิดหลวงป๋า เล่าให้ฟังว่า “พระยุคแรกนั้น เทวดาเขามาแค่เคลือบผิวให้ แต่พระยุคที่สองนั้น เทวดามาเทเนื้อพระให้เองเลย ทำให้ผิวพระนั้น หม่นหมองหรือลอกดำ ยากกว่าพระยุคแรก อีกทั้งยุคที่สองนี้ วิชาและญาณบารมีหลวงป๋า มีความเข้มข้น แก่กล้าขึ้นมาก สามารถอัญเชิญ พญาเหล็กได้มากกว่า พระในยุคแรกๆ เพราะมีเทพเทวา มาช่วยหลวงป๋ามากขึ้น เนื่องจากหลวงป๋าดำริสร้างเจดีย์ เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา”ซึ่งพระยุคแรกๆนั้น หลวงป๋ามักอธิฐานให้พญาเหล็กนั้นบังเกิด เป็นจำนวน108องค์ ต่อการอัญเชิญ1ครั้ง แต่เมื่อญานบารมีของหลวงป๋าแก่กล้าขึ้น ท่านอธิฐานให้พญาเหล็กบังเกิด ได้ถึง500องค์ ในหนึ่งวาระพิธี และมักมีเหตุการณ์ปาฏิหารย์ เกิดขึ้นในยุคที่สองนี้ หลากหลายเหตุการณ์