พระไพลดำรุ่นแรก(1ใน72องค์แรกที่เกิดขึ้นในพิธี) วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

ธัชชัย ศรีอาจ 38 นาที  ·

พระไพลดำรุ่นแรก(1ใน72องค์แรกที่เกิดขึ้นในพิธี) วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

ข้อมูลต่อไปนี้ ผมได้นำมาจาก การสัมภาษณ์ อาจารย์ต่างๆ ผู้ร่วมพิธีสร้างพระไพลดำกับหลวงป๋า และมีบางท่าน สามารถอัญเชิญพญาเหล็ก และพระไพลดำได้ จึงกล่าวได้ว่า ผู้ที่ให้ข้อมูลกับข้าพเจ้านั้น เป็นบุคคลกรผู้รู้จริง ทำได้จริง เป็นไปตามสายวิชาพญาเหล็กที่ท่านร่ำเรียนมา

มีคำกล่าวว่า เหล็กไหลกับไพรดำ เป็นของคู่กัน เสริมฤทธิ์ให้แก่กัน เริ่มแรกเดิมที ต้องท้าวความไปถึงที่มาของพญาเหล็ก กำเนิดพญาเหล็กนั้น มีตำนานเล่าขานสืบมาว่า พระฤาษีผู้ทรงฤทธิ์ ท่านบำเพ็ญตบะ เพื่อปราถนาจะเป็นผู้แจ้งโลก รอบรู้ทุกสรรพสิ่งในจักรวาล ครั้นท่านถึงกาลใกล้ละสังขารที่เป็นกายเนื้อ จึงเพ่งจิตไปแสวงหาธาตุที่คงทน และได้พบธาตุที่เรียกว่า เป็นเจ้าแม่ทองธรรมชาติ (ชื่อหนึ่งของเหล็กไหล) จึงอธิษฐานเอาจิตตัวเอง ไปสถิตย์ในเจ้าแม่ทองธรรมชาติ และระเบิดธาตุนั้น ไปทั่วจักรวาล จิตนั้นได้สถิตย์ อยู่ในธาตุอันเป็นพญาเหล็ก ธาตุนั้นไปอยู่ที่ไหน คือธาตุที่มีดวงจิต ของฤาษีผู้ทรงคุณ อยู่ในนั้น ธาตุทุกส่วนเปรียบเสมือนสารพางค์กาย ที่เชื่อมต่อกัน มีดวงจิตรับรู้เป็นหนึ่งเดียวกัน ดวงจิตนั้นสงบนิ่งด้วยสมาธิคุณ คอยพิจารณาสถานที่ต่างๆที่ธาตุอาศัย อยู่ในเมืองมนุษย์ก็เห็นสุข-ทุกข์ บุญ-กรรม ที่มนุษย์นั้นกระทำ อยู่ในเมืองสวรรค์ ก็เห็นอารมณ์ ความคิดความอ่านของเทพเทวา เทพเทวาต่างถือครองและตามรักษาเจ้าแม่พญาเหล็ก เพราะถือว่าเป็นกายธาตุ ที่มีดวงจิตของท่านอาจารย์ ผู้ทรงฤทธิ์ทรงฌานสถิตย์อยู่ เจ้าแม่พญาเหล็กอยู่ในถ้ำก็มีเจ้าป่าเจ้าเขารักษา อยู่ในมหาสมุทรก็มียักษ์มีนาครักษา อยู่ในป่าแดนลับแล ก็มีนักสิทธิ์วิทยาธรรักษา ครั้นมีผู้ทรงคุณในเมืองมนุษย์ เชิญพญาเหล็กไป เพื่อสืบต่อพระศาสนา ผู้ที่มอบให้ ก็คือเทพพยดาเหล่านั้นแหละ เจตนาที่มอบให้เพื่อสืบต่อพระศาสนา ก็เป็นเจตนาหนึ่ง บางครั้งเทพบางองค์มอบธาตุนั้น ให้มนุษย์ผู้ทรงคุณ โดยมีเจตนาเล็งว่า มนุษย์ผู้นั้นมีสมาธิฌาน มาบอกกล่าวและใช้วิชาอัญเชิญ ซึ่งวิชาอัญเชิญนั้น ก็มาจากสายวิชาที่มาจากผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ เทพยดาเห็นเช่นนั้น ก็มอบธาตุนั้นให้ก็มีได้เป็นได้ เราจึงเห็นอาจารย์สำนักต่างๆ เรียกพญาเหล็ก ให้บังเกิดอย่างอัศจรรย์ได้ แต่ในปัจจุบันนี้ คนที่อัญเชิญแบบนี้ได้ มีน้อยแล้ว เหลืออยู่ก็ไม่กี่ท่าน ส่วนมากจะเป็นอาจารย์ ที่เป็นสายวิชาของหลวงพ่อเดิม หรือกล่าวได้ว่า เป็นศิษย์สายของปู่สุทัศน์ โตทวี ที่จะอัญเชิญแบบนี้ได้

ไพลดำ เป็นต้นพืชในตำนาน มีต้นคล้ายต้นข่า มีหัวอยู่ใต้ดิน มีตำนานเล่าขานกันว่า เทพยาธรผู้มีสมาธิจิต ชอบการประกอบฤทธิ์ไปในเชิงต่างๆ มักประกอบฤทธิ์เพื่อทดลองวิชา ทดลองกำลังจิต และมีข้อบางสำนักท่านเล่าว่า เป็นเทพที่ชอบลองดี เห็นมนุษย์คนไหนประกอบวิชา มักจะไปล้างวิชาอาถรรพ์เหล่านั้นออกเสีย เทพยาธรเหล่านั้นมักเหาะจรไปตามนภากาศ เพื่อหาที่ลองฤทธิ์ ลองวิชา

และมีเทพยาธรบางองค์ ปราถนาจะบำเพ็ญตบะ ขัดเกลาองค์ฌาน จึงได้อธิษฐานจิต เข้าไปอยู่ในต้นไพลดำ ยึดเอาต้นเป็นเรือน เหมือนรุกขเทวดา ครั้นอยู่ในต้นไพลดำ ได้อธิษฐานฤทธิ์ขึ้นมา ให้ต้นไพลดำนั้นดูดกลืนแร่ธาตุอันล้ำเลิศ จากแม่พระธรณี ทำให้ต้นไพลดำนั้น เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุยืน(ปกติ พืชล้มลุกจะมีอายุสั้น) ทนต่อสภาพอากาศต่างๆ อีกทั้งเทพยาธรที่อาศัย ยังประกอบฤทธิ์เพื่อป้องกัน การรังควานรบกวน ของคนและสัตว์ จากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ที่อัญเชิญสายต่างๆ ได้เล่าว่ามนุษย์ และสัตว์ที่เข้าไปแตะต้องต้นไพลดำนั้น ต่างมีอันสลบล้มพับ ไม่สามารถถอนหรือรบกวนต้นไพลดำได้ บ้างถ้าอายุไขถึงฆาต ก็จะตายไปในทันที ต้นไพลดำจึงเป็นพืชอาถรรพ์ มีเทพยดาผู้นิยมประกอบฤทธิ์อาศัยอยู่ ครูบาอาจารย์ฝั่งลาว เคยเล่าให้ฟังว่า ต้นไพรดำมักขึ้นในป่าลับแล อันเป็นทางเชื่อมระหว่าง ภพหยาบของมนุษย์ และป่าหิมพานต์ที่เป็นภพละเอียด มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า เทพยาธรที่อยู่ในต้นไพลดำ มักยอมให้พญาเหล็กกินเป็นอาหาร แต่ในสายครูบาอาจารย์ทางหลวงพ่อเดิม ให้ข้อมูลว่า เป็นการสมยอมของไพลดำ เพราะเห็นอำนาจจิตที่อยู่ในพญาเหล็กเหนือกว่าตน จึงปรารถนาจะสละเรือนไพลดำ เพื่อบำรุงธาตุขันธุ์ของพญาเหล็ก ทำให้มีสองดวงจิต ที่บำเพ็ญตบะอยู่ร่วมธาตุกัน ด้วยว่าเหล็กไหลไพลดำนั้น มีดวงจิตของเทพยศธรผู้ร้อนฤทธิ์ดูแลพญาเหล็กอยู่ จึงเด่นไปในทางปราบอาถรรพ์ เพราะเทพยศธรนั้น มักชอบประลองฤทธิ์ ประลองกำลังจิต ครูอาจารย์หลายท่านจึงบอกว่า ธาตุกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์รุนแรง

การสร้างพระไพลดำของวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จากคำบอกเล่าของผู้อยู่ในพิธี และคำบอกเล่าของอาจารย์สายปู่สุทัศน์โตทวี ท่านได้ให้ข้อมูลว่า การจัดสร้างพระไพลได้ขึ้นในช่วงเวลาที่หลวงป๋า สำเร็จวิชาเชิญพญาเหล็กอย่างแก่กล้า กล่าวคือ เมื่อหลวงป๋าเรียนวิชาพญาเหล็กอยู่7ปี ก็สามารถอัญเชิญพญาเหล็ก ลงบาตรได้ถึง500องค์ และเมื่อปลายปี2549นั้น หลังจากออกพรรษา มีอยู่วันหนึ่ง เป็นเวลาเย็นโพลเพล้ เกือบหนึ่งทุ่มเห็นจะได้ อาจารย์ปู่สุทัศน์โตทวี ได้เดินทางมาหาหลวงป๋าที่กุฏิเก้า และได้แนะนำให้หลวงป๋า สร้างพระไพลดำในคืนวันนั้น พิธีกรรมวันนั้นไม่ได้มีผู้ร่วมพิธีเยอะ เพราะเป็นพิธีกรรมที่ต้องใช้สมาธิสูง ในคราวนั้น ปู่สุทัศน์โตทวีได้ ติดแท่งไพลดำมาสองแท่ง แท่งหนึ่งได้มอบให้หลวงป๋า และอีกแท่งหนึ่งได้มอบให้กับอ.สันติ(คุณกรศักดิ์)

ลักษณะไพลดำที่อาจารย์ปู่สุทัศน์ นำมามอบให้ทั้งสองแท่ง มีลักษณะ เป็นแท่งว่านแห้งๆ เป็นข้อๆเหมือนไม้ไผ่ มีสีเทาเข้มจนเกือบดำ ขนาดยาวประมาณ1คืบ มีความใหญ่กว่าหัวแม่มือเรานิดหน่อย ไพลดำแบบนี้ ปู่สุทัศน์ท่านว่า มีจิตมีญาณของเทพยาธรแฝงอยู่ แต่ต้องใช้คาถาอาคม ในการบูชา และเพื่อเลี้ยงให้จิตญานของเทพยาธรนั้นคงอยู่ ครั้นถึงเวลาหลวงป๋าได้ตั้งบาตรน้ำมนต์ และอัญเชิญพญาเหล็กลงบาตร เมื่อท่านทราบด้วยจิตญาน ว่ามีพญาเหล็กลงบาตรแล้ว จึงได้อธิษฐานฝนว่านไพลดำ โดยฝนให้เป็นผง และเมื่อได้ผงเสร็จแล้ว จึงนำน้ำบริสุทธิ์ ล้างผงว่านไพลดำนั้น(ใช้น้ำเป็นตัวกระสาย) ใส่ลงไปในขวดน้ำผึ้ง แล้วจึงเทส่วนผสมนั้นลงไป ในบาตรที่มีพญาเหล็กอยู่ จากนั้นอธิษฐานเพื่อรวมฤทธิ์ทั้งสองสิ่งนี้อยู่สักครู่ จึงสำเร็จออกมาเป็นพระไพลดำ ในครั้งนั้นหลวงป๋าท่านได้ตั้งใจ อธิษฐานให้เกิดเป็นพระจำนวน 108องค์ แต่เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ปรากฏว่ามีพระไพลดำบังเกิดขึ้นเพียง72องค์ และท่านก็ยังกล่าวว่า ที่เหลืออีก36องค์นั้น เสด็จล่องลอยท่องเที่ยว อยู่ในจักรวาลนี้ ก็เป็นไปตามฤทธิ์ที่เทพยาธรนั้นมี ในภายหลัง36องค์ที่ว่านี้ ได้เสด็จมาในพิธีสร้างพระไพลดำ รุ่นที่2 หลังจากพิธีครั้งแรกนี้ เกือบสิบปี แท่งไพลดำนี่ก็แปลก หากไม่อธิษฐานฝนก็จะไม่ดำ เขาดำตามคำอธิษฐานของผู้มีสมาธิจิต โดยอธิษฐานให้ปรากฏรูปลักษณ์ตามจริง เพื่อใช้ในการรวมฤทธิ์กับพญาเหล็ก ภายหลังแท่งไพลดำที่ปู่สุทัศน์มอบให้ อ.สันติได้หายไปคาดว่าคงถูกคนใกล้ชิดขโมยไป แต่ปู่สุทัศน์ ท่านว่าคนได้ไปก็ได้แค่ว่านยาเท่านั้น ไม่สามารถนำไปประกอบประโยชน์ที่อัศจรรย์ได้ เพราะสิ่งนี้ต้องใช้สมาธิจิต ในการอัญเชิญสื่อสาร จิตญานของเทพยาธรที่เคยอาศัยอยู่ในต้นไพลดำแท่งนั้น

กล่าวสรุปได้ว่าพระไพลดำรุ่นแรกนั้น เกิดจากการจัดสร้าง โดยอธิษฐานรวมฤทธิ์ รวมจิตญานของพญาเหล็กและเทพผู้เคยอาศัยในต้นไพลดำ เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์แรง สามารถสยบอาถรรพ์ และอธิษฐานใช้เพื่อชนะอุปสรรคต่างๆได้

พระไพลดำองค์นี้ แท้และทันหลวงป๋าแน่นอนครับ ผู้ที่เป็นเจ้าของเดิม รับมาจากมือหลวงป๋าครับ ท่านใดสนใจบูชาต่อ จะทักแชทมาสอบถามข้อมูล หรือจะโทรมาก็ได้นะครับ 096-

เสริม1…พี่สันติหลวงป๋าได้ให้ไปเรียนกับปู่สุทัศน์เช่นกัน พี่สันติได้รับสิทธิ์การสอนเรื่องเหล็กไหลจากปู่สุทัศน์ด้วย มีหลายท่านได้ไปขอเรียนกับพี่สันติแต่ทราบมาว่ายังไม่มีใครสำเร็จ ทราบมาว่าเทพเทวาเขายังรักษาอยู่ พี่สันตินี้ผมเคยเจอแต่ยังไม่เคยคุย ทราบมาว่าได้ธรรมกายและเป็นคนดีมากนะครับ หลวงป๋ารักเหมือนลูก สมัยหลวงป๋ายุคหลังๆนี้พี่เขาเป็นคนเรียกให้หลวงป๋า(หลวงป๋าสั่งให้ทำ) แล้วหลวงป๋่ามาอธิฐานจิตอย่างเดียวครับ เหล็กไหลของหลวงป๋ามีความบริสุทธิ์มาก ท่านสะสางไว้ดีแล้ว ติดตัวกันไว้นะครับ
เสริม2…เรื่องการเกิดเหล็กไหลนั้นผมเคยอ่านในนิตยสารธรรมการหลวงป๋าอธิบายไว้ว่าเล่าฤาษีนั่นแหละเป็นผู้สร้างเหล็กไหล(เจ้าแม่ทองธรรมชาติ)จากธาตุดินน้ำลมไฟนี้แหละเพราะรู้ว่าจะต้องตายหวังจะสถิตอยู่ และใส่ฤทธิ์มากเกินจนบ้างระเบิดออกนอกโลกไป บ้างอยู่บนโลกก็พัฒนาตามสิ่งที่เขาเสพเพื่อเลี้ยงธาตุขันแตกแขนงเป็นหลายๆรูปแบบ เห็นหลักๆหาง่ายก็อยู่ตามถ้ำที่ฤาษีอยู่ที่สะอาด สายสวดมนต์ขอเหล็กไหลเขาขอได้ตามถ้ำนี้แหละ

แชร์เลย

Comments

comments

Share: