ขอน้อมนำส่วนหนึ่งจากการแกะเทป เสียงคำสอนหลวงปู่ทองทิพย์ ฯ มาเผยแผ่ธรรมะแด่ทุกท่าน
…”สิ่งใดที่เราปรารถนานั้น ถือว่าเป็นบ่อนที่เราจะหนีจากกองทุกข์
และความทุกข์ในสังสารวัฏ หรือทุกข์อะไรก็ตามนั้น ทุกข์กายทุกข์จิตทุกข์ใจ
ทุกข์เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ทุกข์ฮ้อนทุกข์หนาว ก็เป็นทุกข์ ทุกข์
อย่างนี้เป็นธรรมชาติ แต่พระอริยะผู้ไม่ประมาท พระองค์ท่านสอนว่า
เราจะยึดบทพระนิพพาน หรือบทที่จะเอาคุณงามความดีให้รู้แจ้งเห็นจริงไป
เอาพระธรรมให้มองไป ที่ในกิจการ หน้าที่การงานและหนทางนั้นดีชั่วประการใด
เราจะทำให้จิตใจรู้เห็นเป็นพยานในกิจหน้าที่การงานนั้นๆ
จะได้จะถึงหรือไม่ถึง ก็อาศัยว่าความพากเพียร และความรู้ดีที่เราปรารถนา
เป็นดีนะ เป็นดีชาตินี้หรือชาติหน้า เพื่อนพรหมจรรย์ หรือเพื่อนอริยะนั้นๆ
ท่านที่ผ่านพ้นไปแล้ว บุคคลผู้สำเร็จ นักประพฤติและปฏิบัติธรรม
จักไม่ย่อท้อ ต่อสิ่งนั้นๆ คือความตาย ความเจ็บ ความแก่
เจ็บก็ได้รู้สึกว่าเจ็บ แก่ก็ได้รู้สึกว่าแก่ เกิดมาโดน(แปลว่า นาน)
ก็ต้องแก่ ปีเดือน เวลาหรือผ่านวันผ่านคืนไป ผ่านไปเรื่อยๆ
เวลานั้นเราทำอะไรไว้ ทำดีแค่ไหน ทำชั่วแค่ไหน เราก็อาจจะสัมผัส นานาธรรม
นานาธรรมที่จะทำให้เวลานั้นเสียหายไป มากเหมือนหมู่สัตว์และมนุษย์นี้
ถือว่ามีการที่ยุ่งในการสิ่งนั้นๆ ความอยาก เพราะอยากได้นั้นๆ ลาภหนึ่ง
ยศหนึ่งนี้ เขาเหล่านั้นก็อาจจะมา มีการยุ่งยาก เพราะความปรารถนาไม่สำเร็จ
จะยากในความอยาก ความอยากนั้นอาจจะเป็นพื้นฐานหนึ่งว่าทำให้ไม่ใช่หนทาง
อยากเฉยๆ แต่ว่าเราไม่ทำมา หรือพึ่งไม่มารู้เหตุผลนั้นๆ
อยากอย่างนี้ก็ถือว่า เป็นอยากที่ไม่เป็นอันดี
อยากได้ดีที่เราเอาสังขารร่างกายนี้ มอบหมายและบูชา
พระพุทธเจ้าผู้เป็นเจ้าของพระศาสนา พระองค์นั้น ที่ปรินิพพานไปแล้ว
อันใดที่พระธรรมท่าน พระจอมไตรได้วางไว้นั้น คือ พระสูตรก็ตาม
พระวินัยก็ตาม พระวินัยคือศีล สมาธิ ปัญญา พระปรมัตถ์นั้น
พูดถึงที่ว่าทุกขัง อนิจจัง อนัตตา กองใดธรรมธาตุโลกีย์
สร้างเป็นรูปมนุษย์ที่สมมติมาก่อน นั้นจัดเป็นปรมัตถ์
เราจะค้นคว้าปรมัตถ์นั้น อะไรเป็นอะไร ไตหรือปอดหรือ ไส้น้อยไส้ใหญ่
ที่รัดรึงตรึงกันไว้ ทั้งที่เส้นเอ็น นะหารู เอ็นนั้นๆ
เราจะรู้ว่าเส้นเอ็นทำงานเพื่ออะไร เอ็นนั้นมาจากไหน เอ็นเส้นน้อยเส้นใหญ่
เส้นใหญ่นั้นจะไปรัดรึงตรึงอยู่ไว้ เช่นอัฐิ หรือกระดูกท่อนน้อย ท่อนใหญ่
เป็นที่พื้นฐานงานในธรรมธาตุโลกีย์ หรือส่วนหนึ่งของร่ายกาย ของบุคคล นั้นๆ
คนหญิงคนชาย คนใครก็ตาม อาจจะรัดรึงไว้ เป็นจั่งซั่น (เป็นอย่างนั้น)
แม้สัตว์เดรัจฉานก็อาจจะมีเอ็นและกระดูกเช่นกัน
ติดต่อไว้เป็นรูปสัตว์เดรัจฉานนี้เราที่ไม่ใช่เดรัจฉาน
เป็นพื้นฐานมนุษย์ผู้หนึ่งที่เขาสร้างหรือเขาที่กระทำมาให้เรา
ที่จะได้มีความรู้สึกในฐานะว่าเป็นบุญหรือเป็นต้นทุน ของเขา
จะเอาของเขาที่ประดับบูชา พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ พระอริยสงฆ์นั้นๆ
ผู้ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ เป็นอรหันต์สิ้นอาสวะกิเลส
ไม่ใช่ว่าเป็นปุถุชนคนเรา พระองค์นั้นๆ เกิดมา ณ ชาติไหน
ทั้งพระปัจเจกโพธิญาณเจ้า พุทธเจ้าหรือ อรหันตเจ้า
ล้วนแต่เป็นผู้สร้างบารมี เกิดมาไม่เป็นผู้ที่ให้เวลาหรือวันคืนเสียไป
หรือไม่หลงใหลใน อยู่ในโลกธรรม”…
ผู้บันทึกเทป : พระสุวิทยา จันตะธัมโม (สมัยยังเป็นฆราวาส)
ผู้แกะเป็นอักษร : พระพรหมจาโร (Sriram) & พระชินเวทย์ ชินวโร, ต.ค.2553