มีชีวิตอยู่เพื่อทาน ศีล สมาธิ ปัญญา โดย หลวงตาอู๋
ทุกวันนี้อาตมามีชีวิตอยู่เพื่อทำบุญสร้างบารมี ปกติผู้ที่ออกบวชแล้วท่านจะอยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งย่อมาจากมรรค 8 อันเป็นหนทางสายกลางของการหลุดพ้น เป็นหนทางไปของการเป็นพระอริยะบุคคล
แต่สำหรับอาตมาซึ่งเป็นพระที่บวชตอนแก่ ในสมัยที่ยังไม่ได้ออกบวชก็อยู่ในเส้นทางของ ทาน ศีล ภาวนา อันเป็นเส้นทางของฆราวาสที่อยู่เพื่อให้มีความสุขทางโลกและเตรียมตัวไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี จึงต้องมีทานและศีลไว้ก่อน เพราะถ้าเผื่อตายเร็วก็ยังได้กลับมาเกิดเป็นคนใหม่ เมื่อเกิดมาก็เป็นคนร่ำรวยไม่ยากจนข้นแค้น แต่โดยทั่วไปเมื่อมีทานและศีลก็มักจะได้ไปเกิดบนสวรรค์อยู่แล้ว
เมื่ออาตมาได้ออกบวช นิสัยเดิมในการชอบทำทานก็ยังติดตัวมา สลัดออกไม่ได้ ไม่มีวันไหนที่อาตมาจะไม่ทำทานเลยเพราะตั้งสัจจะกับตัวเองว่าถ้าวันไหนไม่ได้ทำทานก็จะไม่ฉันข้าว ตราบใดที่ยังมีลมหายใจก็จะไม่ห่างจากการทำทาน อาตมาจึงเป็นพระที่ไม่เหมือนพระองค์อื่น เพราะทุกวันอาตมาจะนำขนม ผลไม้ ของกินของใช้หิ้วไปใส่บาตรพระในวัด อาตมาทำทุกวันตั้งแต่ออกบวชจนมาถึงทุกวันนี้
สื่งที่อาตมากลัวก็คือกลัวจะหาพระไม่ได้ จะหาคนงานมารับอาหารจากอาตมาไม่ได้ ตอนเช้าก็หิ้วของไปใส่บาตรพระด้วยกันที่หอฉัน ตอนเพลก็จะเอาอาหารที่เหลือจากการฉันไปให้พวกคนงานหรือรปภ. วันไหนคนงานไม่มาอาตมาก็จะต้องถึงกับเดินไปตาม ไปเดินหาคนมารับอาหารจนได้… คือกลัวว่าจะหาคนมารับอาหารไม่ได้ 555 อาตมาไม่ได้กลัวอดเลยเพราะอาตมาไม่เคยอด เศษอาหารก็จะเอาไปให้แมว ไก่และนก ส่วนการให้อาหารปลาก็ให้ทุกวันเป็นประจำ (มีญาติโยมซื้ออาหารปลามาถวาย) ปลาที่บึงข้างกุฏิมันจะรู้เวลา ทุกเช้าปลามากมายจะมารอกันเต็มคุ้งน้ำ…. วิถีทางแห่งการเป็นพระโพธิสัตว์จะทิ้ง ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่ได้เลย ต้องทำทุกวันจนกว่าจะตาย ทั้งทำเองและสอนให้ผู้อื่นทำตามเพื่อสงเคราะสัตว์โลก