– ยักษ์
บุคคลที่มีจิตใจที่เต็มไปด้วยกิเลสมาร เขาเรียกเทพบุตรมาร ยิ่งอยู่ในที่สูงแล้วมีกิเลสมารอยู่มาก เรียกว่าเทพบุตรมาร อย่างนี้ เพราะฉะนั้นให้เข้าใจความหมาย
มารคือกิเลส กิเลสคืออะไร หรือมารคืออะไร ?
คือ ธรรมชาติที่ขัดขวางคุณความดี กิเลสมารก็ขัดขวามคุณความดี สังขารมารความเจ็บไข้ได้ป่วยก็ขัดขวางคุณความดี มัจจุมาร มารยังให้เกิดความตายก็ขัดขวางคุณความดี เพราะฉะนั้นให้เข้าใจความหมายว่า มารมีจริงอย่างไร โดยความหมายอย่างไร ภาษาพระแท้ๆ
ที่นี้ ยักษ์ล่ะ มาจากไหน ?
ยักษ์ ผู้ที่มีกิเลสมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าโทสะ เป็นต้น แล้วก็ ตายแล้วก็ไปเกิดเป็นยักษ์ ยักษ์จริงๆ เป็นบริวารของท้าวเวสวัณ เพราะฉะนั้น ยักษ์ส่วนใหญ่เป็นมิจฉาทิฏฐิ แต่มีสัมมาทิฏฐิด้วยเหมือนกัน
แต่ว่า ประสงค์ไปเกิดเป็นยักษ์ก็มี ตัวอย่างนี้ ก็คือท่านที่ไปเกิดเป็น ชนวสภะเทพบุตร น่ะบริวารของท้าวเวสวัณ
พระเจ้าพิมพิสาร ประวัติพระพุทธเจ้าน่ะ เป็นพระโสดาบันแล้ว ถูกบุตรชายคือ พระเจ้าอชาติศรัตรู ทรมานจนตาย นั่นแหละ พระเจ้าอชาติศรัตรูนั่นแหละ มีอาการของเทพบุตรมาร เพราะมีความโง่เขลาเบาปัญญา แต่ภายหลังได้กลับมาเป็นสัมมาทิฏฐิก่อนตาย ก็ยังดีหน่อย ตายแล้วก็ต้องไปล่ะ ปิตุฆาต นั่น ฆ่าพ่อ เป็นอนันตริยกรรม ได้รับกรรมนี้ก่อน หนักมาก ตายแล้วต้องไปเกิดอยู่ในอเวจีมหานรก เพราะไม่มีอะไรจะไปขัดขวางได้ กรรมเจ้ากรรมเนี่ย คือ กรรมหนักเนี่ย
ปิตุฆาต คือ ฆ่าพ่อ ตายแล้วมีคติเดียว ไปเกิดในอเวจีมหานรก เป็นขุมที่ ๘ อย่างนี้เป็นต้น แต่ว่าได้กระทำความดีในภายหลังนะ ในภายหลังในบั้นปลายชีวิต ได้สนับสนุนอุปถัมป์พระพุทธศาสนา ก็ยังดี นี่ก็เป็นตัวอย่าง
พระเจ้าพิมพิสารนี่ เป็นพระโสดาบันบุคคลแล้ว เสด็จสวรรคตเพราะถูกพระราชโอรสทรมานจนตาย เมื่อเสด็จสวรรคตแล้ว จิตยังผูกพันธ์อยู่กับภพเก่าที่เคยเป็นบริวารของท้าวเวสวัณ ปรารถนาจะไปเกิดที่นั่น ตายแล้วก็ไปเกิดเป็นพญายักษ์ เรียกว่าเป็นเหมือนกับมือขวาของท่านท้าวเวสวัณเลย ในระดับเลขาอะไรประมาณนั้น ชื่อ ชนวสภะเทพบุตร นี่ก็มี เพราะฉะนั้นให้เข้าใจว่า ยักษ์จริงๆมีอยู่
แต่ผู้มีจิตใจเป็นยักษ์เป็นมาร มารคือกิเลส แม้ยักษ์ก็ไปจากกิเลสประเภทโทสะมากๆ นี่ ไปเกิดเป็นยักษ์ก็มาก แต่ที่เป็นสัมมาทิฏฐิก็มี แต่นั่นเพราะจิตใจผูกพันธ์อยู่ในภพเก่า ที่เคยเป็นบริวารของท้าวเวสวัณ
ท้าวเวสวัณนี่ มีอำนาจมากนะ รูปร่างเดิมของท่านก็เป็นยักษ์นะ แต่ท่านจะอธิษฐานเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ พระรูปจริงๆ หรือว่ารูปกายจริงๆ ถ้าให้สวยงามก็สวยหล่อไปเลย แต่ถ้ารูปดั้งเดิมของท่านล่ะก็ ดูไม่ได้เลยแหละ อย่างนี้เป็นต้น
ของจริงในพระพุทธศาสนาต้องเข้าใจให้แจ่มแจ้ง เข้าใจนะ อันนี้ หลวงตาก็เล่าให้ฟังพอเป็นเกร็ดความรู้
ให้จำหลักไว้ มารตัวจริงคือกิเลส คือกิเลสมาร มีอยู่ในจิตใจของผู้ใดมาก ดลจิตดลใจให้ปฏิบัติตามอำนาจของมันมาก บุคคลเช่นนั้นก็ชื่อว่ามาร เทพบุตรมาร..ถ้าเป็นผู้ที่อยู่ในที่สูงถ้าว่าปฏิบัติตามอำนาจของมันมาก
แต่ว่าเทพบุตรมารมีจริงๆมั้ย ที่เป็นเทพบุตร เทพธิดา…มี แม้แต่ที่ชื่อว่า นางตัณหา นางราคา ที่เคยผจญพระพุทธเจ้าก็ของจริง นั่นแหละ เป็นพระราชธิดาของจอมเทพในมารโลก มีอยู่ของจริง ไอ้นั่นแหละคอยดลจิตดลใจ หรือคอยสำแดงด้วยกิเลส นั้นแหละ เพื่อผูกใจสัตว์โลกให้ติดอยู่ในกิเลสกาม มีอยู่
เพราะฉะนั้นให้เข้าใจว่า มารคือกิเลส ถ้าอยู่ในจิตใจของผู้ใดมาก คนนั้นชื่อว่าเทพบุตรมาร แต่มารที่ทำให้เกิดความเจ็บไข้ได้ป่วย อันนั้นเขาเรียกว่าสังขารมาร หรือจะแปลว่าโดยความหมายว่า มารคือความเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ได้ แต่ถ้ามารยังให้เกิดความตาย เรียกว่ามัจจุมาร ก็ความตายนั่นแหละมัจจุมาร
ให้เข้าใจนะ เป็นสมมติเรียกชื่อให้ตรงกับสภาวะของเขา เป็นสมมติชื่อในอาการอย่างนั้นของสัตว์โลก มนุษย์ ทิพย์ อย่างโน้นอย่างนี้ หรือเทพยดา เทพบุตร อย่างโน้นอย่างนี้มีอยู่ ให้เข้าใจนะ
แต่ว่า..ความเป็นพระก็มีอยู่ในใจคน มีมากก็เรียกว่าพระภายใน ที่ห่มผ้ากาสาวพัสตร์เนี่ย พระภิกษุภายนอก นี่ เรามาสร้างพระในใจตน คือ สร้างคุณความดีให้เกิดขึ้น ณ ภายใน แล้วเกิดความดีนี่ มีพระมั้ย..มี ค่อยๆรู้ไป พระนั้นคือธรรมกาย นี่แหละ เราจะสร้างพระในใจตน แล้วช่วยสร้างพระในใจผู้อื่น เข้าใจนะ
________________
เทศนาธรรมจาก
พระเทพญาณมงคล
หลวงตาเสริมชัย ชยมงฺคโล
วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
อ.ดำเนินสะดวก
จ.ราชบุรี
_________________
ที่มา
เทศนาธรรมช่วงอบรมพระวิปัสสนาจารย์
รุ่นปลายปี ๒๕๕๙
_________________
เพจอมตวัชรวจีหลวงป๋า.