*🚩 #วิญญาณกตัญญู
“ท.เลียงพิบูลย์” ตอนสมัยอายุ ๓๖ ปี ท่านยังหนุ่มอยู่ มาคุยกับอาตมาเสมอ บอกว่า “หลวงพ่อครับ ผมเองประสบมา ผมไม่เชื่อกฎแห่งกรรมเลยนะ ไม่เชื่อผี ไม่เชื่อปีศาจราชทูต แต่ผมเจริญกุศลภาวนาแล้วพอจะเชื่อกฎแห่งกรรมบ้าง ผีช่วยได้”
สมัยก่อนนานมาแล้ว ประมาณ ๓๗ – ๓๘ ปี มีเด็กสาวคนหนึ่ง เรียนธรรมศาสตร์ ผิดหวังเรื่องแฟน เรื่องสอบ เดินทางโดยรถไฟไปพักที่ลำพูน กินยาตายในห้องโรงแรม เขียนหนังสือบอกไว้ พ่อแม่ทราบก็มารับศพลูกไปบำเพ็ญกุศล เขาบอกว่าจะกระโดดตรงถ้ำขุนตาล พวกรถมาดึงไว้ทัน เลยมาพักที่โรงแรม กินยาตาย ด้วยอำนาจจิตเป็นอกุศล ต้องเป็นอสุรกายตรงนั้น
“ท.เลียงพิบูลย์” เล่าว่า “ผมไปทำธุรกิจทางภาคเหนือ ถามหาห้องพักในโรงแรม” บ๋อยบอกว่า “ลุงพักห้องนี้ไหม ไม่เอาตังค์” ก็ถามว่า “ห้องไม่ดี ไม่มีที่นอนหรือยังไง” บ๋อยบอกว่า “เหมือนกันหมด มีของบริการเหมือนกันหมด แต่ไม่เอาตังค์” และก็ไม่บอกว่ากระไร
“ท.เลียงพิบูลย์” เป็นผู้มีปัญญาก็คิดว่า “เอ! ถ้าจะผีดุ” นึกไว้ในใจ แล้วบอกว่า “ตกลงลุงพักห้องนี้ จะให้เท่าราคาเลย” เขาก็ไปพัก ดูสะอาดสะอ้านดี สวดมนต์ไว้พระเสร็จแล้วก็นอน ตี ๑ ออกมาแล้ว แต่ “ท.เลียงพิบูลย์” มีกรรมฐานสูง ไม่กลัว กำหนดแผ่เมตตา เป็นสาวสวยยกมือไหว้ เขาร้องไห้แล้วบอกว่า “คุณน้าคะ หนูมาอยู่ห้องนี้นานแล้ว”
“ท.เลียงพิบูลย์” ก็ถามว่า “หนูเป็นใคร”
“หนูมากินยาตายที่ห้องนี้ ถ้วยยังอยู่ใต้เตียง เขาไม่เก็บ เรียนธรรมศาสตร์ ผิดหวังเรื่องแฟน หนูผิดไปแล้ว หนูจะกระโดดรถไฟที่ถ้ำขุนตาล แต่การ์ดรถเขามาดึงไว้ได้ เพราะมีตาแป๊ะแก่นั่งอยู่ตรงนั้น เขาไปบอกการ์ดรถว่าเด็กคนนี้จะโดดให้รถไฟทับ การ์ดรถเลยรีบปิดประตูให้นั่ง เดี๋ยวจะเสียชื่อรถไฟ เลยคุมตัวไปลงสถานี ตามตั๋วที่ตีไว้จนได้”
แล้วบอกต่อไปว่า “ใครมาพักที่นี่ หนูก็ออกมาอย่างนี้ ออกมาให้ช่วยถวายสังฆทาน แล้วแผ่เมตตาให้หน่อย แต่ไม่มีใครแผ่ได้เลย หนูขอกราบเท้าคุณน้า กรุณาช่วยหนูด้วย หนูขอขอบพระคุณ”
“ท.เลียงพิบูลย์” บอกว่า “จะให้น้าช่วยอย่างไร” เขาบอกว่า “ถ้าหากคุณน้านั่งกรรมฐาน แผ่เมตตาและถวายสังฆทานให้หนูแล้ว หนูจะไปจากที่นี่ได้” เวลากินยาตาย เกิดโทสะเป็นอสุรกาย ไม่ใช่เปรตนะ
อุทิศส่วนกุศลด้วยการเจริญกรรมฐานดีที่สุด ไม่ต้องเอาสตางค์ไปถวายพระ ขอให้สวดมนต์พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากา เสร็จแล้วสวดมนต์อะไรก็ได้ แล้วเจริญกุศล ใช้สติปัฏฐาน ๔ แล้วรวมทุนบุญกุศลแผ่ให้คนนั้น ให้เปรต ให้อสุรกาย ให้มีความสุขความเจริญดังที่กล่าวมา ได้ผลแน่
“ท.เลียงพิบูลย์” บอก “เอาละ น้าจะช่วยจัดการให้”
เขากราบเท้าเลย “ขอบพระคุณคุณน้ามาก หนูจะได้ไปจากที่นี่เสีย”
“ท.เลียงพิบูลย์” ก็ตั้งสติ ไม่เคยกลัว นักกรรมฐานไม่มีกลัว มีสติ ไม่กลัวใคร จากนั้น “ท.เลียงพิบูลย์” ก็เริ่มสวดมนต์ ก่อนสวดก็เข้าไปอาบน้ำใหม่ อาบน้ำให้สะอาด เริ่มสวดมนต์ทำวัตร แล้วสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วนั่งเจริญกรรมฐานประมาณ ๑๕ นาที ขอแผ่เมตตาให้เด็กสาวคนนี้ มโนภาพออกมา แล้วบอกว่า “ขอหนูจงมีความสุขความเจริญ ขอเจ้าจงไปสู่สุคติเถิด” ด้วยอำนาจกรรมฐานเป็นได้ทันที ชั่วพริบตาเดียว
พอตี ๕ “ท.เลียงพิบูลย์” ก็อาบน้ำแต่งตัวใหม่ เดินลงจากโรงแรม พวกโรงแรมถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง” ก็บอกว่า “ไม่เห็นเป็นอะไร” แต่ไม่เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง แล้วก็เดินทางไปตลาด ไปซื้อปิ่นโต ๒ เถา ใส่อาหารคาว ๑ เถา หวาน ๑ เถา เข้าไปในวัด ไปบอกหลวงตาว่าจะถวายสังฆทาน อุทิศให้คนตาย แต่ก็ไม่ได้บอกว่าใคร พระท่านก็รับสังฆทาน
กลางคืนตี ๑ ออกมาอีกแล้ว แต่งตัวสวย มีผ้าขาว กราบไหว้ “ท.เลียงพิบูลย์” อย่างสวยงาม กล่าวว่า “หนูมาขอกราบขอบพระคุณ และขอกราบลา หนูจะไปแล้ว มีทางไปแล้ว หนูก็ทำบุญวาสนามามาก แต่ต้องไปรับกรรมในป่าอีกชั่วคราว หนูซาบซึ้งน้ำใจมาก ที่คุณน้าช่วยหนูออกมาจากนรกในวันนี้”
กรรมฐานนี่แผ่ได้เลย ถ้ามีญาติพี่น้องฆ่าตัวตาย มีทางเดียวที่จะแผ่เมตตาให้ คือ กรรมฐาน ถ้าทำบุญให้ไม่ถึง ผูกคอตาย ยิงตัวตาย ทำบุญให้ไม่ถึง มีตำราอยู่ที่หลายราย เด็กสาวคนนั้นก็บอกว่า “หนูจะไม่ลืมพระคุณ หนูจะตามช่วยคุณน้าต่อไป”
จากนั้น “ท.เลียงพิบูลย์” ก็เดินทางไปเชียงใหม่ ทำธุรกิจเสร็จแล้ว ไปตีตั๋วรถยนต์ผ่านทางอำเภอเถิน ทางยังไม่ดี สมัยก่อนนี้ต้องผ่านเขา ตีตั๋วตอนเย็นๆ รถออกพรุ่งนี้เช้า จากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ ตอนนั้นมีรถแดง หลังคาต่ำๆ รถบัสยังไม่มี พอกลางคืน ตี ๑ ออกมาอีกแล้ว สวยกว่าเก่าอีก
“หนูจะมาช่วยคุณน้า”
“ช่วยอะไร ไม่ต้องช่วยจ้ะ”
“ไม่ใช่ค่ะ เชื่อหนูหน่อยได้ไหมคะ พรุ่งนี้อย่าไป”
“อ้าว! ตีตั๋วแล้ว”
“คุณน้าไปดูหน้าโชเฟอร์ ถ้ามีแผลเป็นตรงนี้ ใส่หมวก อย่าไปนะ หนูต้องรีบไปแล้ว หนูขอกราบลา คุณน้าเชื่อหนูนะคะ” แล้วก็หายวับไปกับตา
“ท.เลียงพิบูลย์” ก็ไปคืนตั๋ว ผีมาบอกจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมรับคืน เขาบอกว่าคืนไม่ได้ เสียที่นั่ง “ท.เลียงพิบูลย์” ก็กลับมาที่โรงแรม ตอนบ่ายได้ข่าวแล้ว รถไฟตกเขาที่อำเภอเถิน ตายหมด ๔๐ ศพ คนที่มีแผลเป็นตายคาที่ มีคนเขาร่ำลือกันและมาบอกว่า “คุณน้าครับ รถที่คุณน้าจะไป คว่ำไปแล้วตาย ๔๐ ศพ”
“ท.เลียงพิบูลย์” กลับมาโรงแรมแต่งตัวใหม่ นุ่งชุดขาวสวดมนต์ นึกในใจว่า “แหม! หนูเอ๋ย ถ้าน้าไม่เชื่อ คงเหลือแต่กระดูกแล้ว” และสวดมนต์ให้เด็กคนนั้นอีก ขอฝากไว้ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล
ที่มา : แก้วนำเนื้อหาในส่วนนี้มาจากเรื่อง “ทางสายเอก” อยู่ใน “หนังสือกฎแห่งกรรม – ธรรมปฏิบัติ” (เล่มที่ 5)
แก้วเสียงธรรม