หลวงตาอึดอัดใจ ขอชี้แจงเรื่องการสร้างพระของขวัญ

หลวงตาอึดอัดใจ
ขอชี้แจงเรื่องการสร้างพระของขวัญ
ให้ญาติโยมทราบและทำความเข้าใจดังนี้.

🔔 ก่อนจะถึงพิธีทอดผ้าป่า ก็อยากจะขอเจริญพรญาติโยมให้ทราบอยู่เรื่องหนึ่ง ก็คือ เรื่องโยมอยากได้บุญ วัดเราทำพระ เป็นพระที่สำเร็จด้วยเหล็กไหลบ้าง แล้วก็สำเร็จด้วยโลหะผสมเหล็กไหลบ้าง นี่วัดเราทำ ก็ด้วยเจตนาว่า เพื่อจะให้เป็นที่ระลึก เป็นที่ตั้งแห่งสติ เพื่อบำเพ็ญบุญกุศล แล้วก็บูชาพระรัตนตรัย แล้วทำพระขึ้นมาก็เพื่อให้เป็นพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ แก่ญาติโยมที่มีไว้ในครอบครอง ก็ตั้งใจทำ หมดวัดนี่แหละเราตั้งใจกันทำ

ทีนี้ ก็ทำมาพอประมาณ แต่ว่า ก็มีโยม ที่พอมาเรียนรู้วิธีทำพระ ทำเหล็กไหลบ้างอะไรบ้าง ก็มีเจตนาดีด้วยใจบุญกุศล อยากจะทำแล้วก็มาถวายหลวงป๋า เพื่อที่จะให้ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วก็แจกญาติโยมเหมือนกับที่วัดทำ เหมือนกับที่วัดทำ ก็เป็นเจตนาที่ดีนะ อยากได้บุญ แต่ว่า จะบอกทุกท่านให้ทราบ การเจตนาทำสิ่งอันเป็นมงคล ด้วยวัตถุธาตุที่พิเศษ อย่างเช่นเหล็กไหล โดยเฉพาะเรื่องเหล็กไหลก่อน การทำนี้ด้วยเจตนาความคิดอ่านของพระที่มีใจเป็นพระ เมื่อทำไปแล้วเนี่ย เมื่อหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ไป ใส่ในน้ำมันที่เดือด เป็นน้ำมันขี้ผึ้ง แล้วก็หล่อเป็นองค์พระ หมายความว่ามีขี้ผึ้งปั้นเป็นรูปองค์พระ ก็ละลาย แล้วเมื่อตั้งจิตอธิษฐานให้เชิญเหล็กไหลลง เหล็กไหลนั้นก็เป็นไปจากธาตุของครูบาอาจารย์ที่ตั้งเจตนาไป มันไปจากธาตุน้ำดินไฟลม ผสมเข้ากับ เขาเรียกโสตธาตุ ก็น้ำดินไฟลมนั่นแหละ แต่ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่พระหรือบูรพาจารย์ท่านตั้งจิตอธิษฐานด้วยมนต์ ทั้งพุทธมนต์ พรหมมนต์ เทพมนต์ และเวทมนต์ ซึ่งก็หลั่งไปจากเจตนาความคิดอ่านของพระที่ทำ ที่ทำมาทั้งหมดนี่ มาจากเลือดเนื้อเชื้อไขของหลวงป๋า

ถามว่าคนอื่นทำได้ไหม ได้ เพราะครูป๋าก็เป็นโยม ลูกศิษย์ลูกหาที่รู้วิธีก็เป็นโยมก็มีเป็นพระก็มี แต่จะบอกเคล็ดลับให้ ว่าใครทำอะไร เจตนาความคิดอ่านทำไปนั้น โสตธาตุของผู้ทำเนี่ย มันไปจากธาตุของผู้ทำ คือพระ ที่ตั้งใจศึกษาสัมมาปฏิบัติ เนี่ยให้รู้เคล็ดลับไว้ เพราะฉะนั้น เจตนาทั้งหมดที่เป็นบุญกุศลเป็นไปจากพระรวมกับโสตธาตุของธรรมชาติ จากโลกุตตระลงมาถึงพรหม-เทพและมนุษย์โลก รวมเทวโลก ไปจนถึงอำนาจต่างๆที่เป็นบูรพาจารย์มาแต่เก่าก่อน ที่เราชุมนุม คือพระที่ทำเนี่ย ชุมนุมอยู่ในใจ ซึ่งไม่มีใครทราบ แล้วเมื่อหลั่งออกไปนั่นน่ะ รวมเข้าไปเป็นโสตธาตุรวมกับธาตุน้ำดินไฟลมของหลวงป๋า และของพระที่ร่วมพิธี หรือแม้แต่โยมที่ร่วมพิธี ก็หลั่งเข้าไปในนั้น เพราะฉะนั้นเจตนาที่บริสุทธิ์ที่ดีเนี่ย มันก็คิดว่าสูงสุด ก็ทำเพื่อแจกโยมนะ ไม่ได้เจตนาอื่น โยมทำบุญมาก็แจก นี้เป็นหลักของวัดเรา ไม่ได้ขายพระ ไม่มีการขาย มีแต่แจก ตามสมควร แก่ผู้ทำบุญ

ที่นี้ ก็มีโยมลูกศิษย์อยากจะได้บุญมั่ง ก็รู้วิธีทำ ฝึกมาจากครูบาอาจารย์ หรือจาก แม้แต่จากหลวงป๋าไปก็แล้วแต่ ก็เอาไปทำมั่ง นี่โยมนะ เอาไปทำมั่ง อยากจะทำ อยากจะได้บุญ แล้วก็มาขออนุญาตหลวงป๋าบ้าง ไม่ขอบ้าง ทีนี้ ท่านคิดดูว่าโยมเนี่ยเขามีใจบุญน่ะ แล้วมาขออนุญาติน่ะ หลวงป๋าจะว่ายังไง เอาใจหลวงป๋าไปใส่ใจโยม จะขัดข้องหรือจะอนุญาติ ถ้าจะกล่าวความจริง ก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของแต่ละคนที่จะทำได้ แต่ควรหรือไม่ควรเป็นอีกประเด็นหนึ่ง ทำไม เพราะโสตธาตุของโยม เจตนาแม้เจตนาของโยมดี ก็ไม่ว่ากัน แต่ว่าเจตนาของโยมก็เป็นอีกต่างหาก เจตนาของพระก็อีกต่างหาก โยมที่มีจิตละเอียดอ่อน ทำจิตให้ละเอียดอ่อนแล้วคิดดู

แม้โยมจะมีเจตนาดี อุตส่าห์ทำมาให้ด้วยความเสียสละ แล้วก็มาขอให้หลวงป๋าอธิษฐาน แล้วก็ยกให้ หรือจะแจก หรือจะอะไรก็แล้วแต่ แม้นั้นก็ตาม มันไม่ใช่เจตนาของหลวงป๋านะ เพราะฉะนั้น โสตธาตุที่หลวงป๋าอันเชิญมาจากโลกุตตระ ลงมาถึงพรหม-เทพ มาถึงมนุษย์โลก แล้วก็เอาโสตธาตุของหลวงป๋าเนี่ยที่เป็นพระเนี่ยรวมเข้าไปด้วย กับของโยมทำเนี่ยมันต่างกันตรงไหน พูดเท่านี้โยมคงเข้าใจ

เพราะฉะนั้นหลวงป๋าจึงไม่แฮปปี้ ที่ใครจะมาขอทำพระ แล้วก็มาขอให้หลวงป๋าอธิษฐานเพื่อให้หลวงป๋าแจกโยม หรือจะเอาไปใช้เอง ถ้าเอาไปใช้เองไม่ว่ากัน แต่ให้หลวงป๋าแจกโยมเนี่ย กับที่หลวงป๋าทำเองเนี่ย อันไหนหลวงป๋าควรจะสบายใจมากกว่ากัน ท่านเอาใจของหลวงป๋าไปใส่ใจท่าน ความตั้งใจของหลวงป๋ามันก็อีกต่างหาก ต้องรวบรวมคุณธรรมของบูรพาจารย์ มีเท่าไหร่ก็ต้องรวบรวมมา แล้วก็มาอธิษฐานนะ ไม่ใช่สักแต่ทำเฉยๆ ไม่ใช่ แม้แต่หลวงป๋าเดิน-นั่ง-นอน นั่งรถนั่งเรือไปไหนก็อธิษฐานไปได้ตลอด โยมเข้าใจนะ

แต่ไม่ใช่ว่าโยมทำไม่ได้ โยมทำได้ เหล็กไหลก็เชิญได้อะไรได้ เพราะคนเขาเชิญเหล็กไหลก็เป็นโยม เป็นพระน่ะมาเรียนจากโยมซะด้วยซ้ำไป ไม่ได้ว่ากัน และแม้แต่จะมาทำพระทำอะไรก็เหมือนกันน่ะ พระก็คนน่ะ พระทำได้โยมก็ทำได้ แต่ว่ามันไม่ใช่เจตนาของหลวงป๋านี่ หลวงป๋ารู้กาละเวลาที่ควรจะทำเพื่อแจกโยม ไม่ใช่มาทำพร่ำเพรื่อ นี่ก็เป็นประเด็นสำคัญ

งั้นโยมให้เข้าใจนะ และให้เห็นใจและเข้าใจหลวงป๋าด้วย ไม่ใช่ว่าใครอยากจะได้บุญก็ทำมาๆ เอามาๆ เอ้า มาให้ๆ เอ้ะ มันไม่ใช่ไปจากหลวงป๋าน่ะ หลวงป๋าแจกไปเนี่ย เอ้ะ มันของลูกศิษย์ทำน่ะ แล้วจะให้หลวงป๋าคิดยังไง แล้วถ้าโยมรู้อย่างนี้โยมจะคิดยังไง ถ้าเอาหลวงป๋าเอานี้แจก ก็หลวงป๋าก็แจก

เพราะฉะนั้น ใครอยากได้บุญเนี่ยขอให้คิดให้ดี เห็นใจหลวงป๋าบ้าง มาขอโน่นขอนี่ ขอทำอย่างโน้น ขอทำอย่างนี้ ก็หลวงป๋าก็ทำเองอยู่แล้วน่ะ อยากได้บุญก็มาสมทบทุน เอาปัจจัยมาสมทบทุน ไม่ว่า แต่มันออกไปจากหัวใจป๋ามันจะดีกว่าไหม หลวงป๋าก็อึดอัดใจ ต้องเออๆข่ะๆไปเพราะเขาขออนุญาต แล้วหลวงป๋าบอกว่าอย่าทำเลยต้องฉันทำคนเดียว มันก็ฟังไม่ได้เหมือนกัน แต่โยมก็ต้องเข้าใจด้วย เจตนา พูดอย่างง่ายๆว่าอย่างโยมที่จะรับเนี่ย ถ้าเขารู้ว่าไอ้นี่หลวงป๋าทำ ไอ้นี่โยมทำแล้วมาขอให้หลวงป๋าอธิษฐานจิตให้ เมื่อจะแจกเนี่ย ถามว่าโยมอยากจะเอาอันไหน มันตื้นๆอย่างนี้ทำไมคิดไม่ออก

แต่โยมอยากได้บุญง่ายนิดเดียว อย่าไปคิดทำเอง หลวงป๋ามีผู้ที่จะช่วยคิดคือคณะสงฆ์ ก็จะช่วยเป็นแผนกๆทีเดียว มีผู้ชำนาญการในการทำพระ ผู้ที่ช่วยทำพระ ธรรมกาย เจริญวิชชาด้วย ทุกอณูที่เขาบดเขาตำเขาประกอบ ธรรมกายนะ วัดเราเนี่ย แต่หลวงป๋าไม่โม้ไม่คุย มันแต่งตัวบางทีก็มีหนวดมีเคราไปตามประสาศิลปิน แต่มันธรรมกายหมดครอบครัวเลย พ่อมันก็เป็น ลูกก็เป็น เพราะฉะนั้น หลวงป๋าเลือกคนที่จะมาช่วยทำ

แม้แต่เหล็กไหลโยมก็ทำได้ เพราะครูก็เป็นโยม แต่พระทำกับโยมทำ ถ้าโยมรู้เนี่ย ถามจริงๆเถ้อะโยมจะเอาของใคร

มันต้องเข้าใจนะ เรื่องของพระ หน้าที่ความรับผิดชอบของพระ ก็ขอให้พระทำ โยมอยากได้บุญง่ายนิดเดียว เอาเงินไปบริจาค ไปหนึ่งล้าน สองล้าน ไปบริจาคเลย หรือแสนสองแสน อยากจะร่วมบุญกับหลวงป๋า ไม่เป็นไร อย่างนี้ไปบริจาคไว้ได้ ถึงเวลาหลวงป๋าก็ทำเอง ทุนนั้นมาท่านก็ได้บุญ แต่เดี๋ยวนี้มันโยมมันอยากจะทำแล้วเอามาให้ป๋าอธิษฐาน แล้วก็จะเอาให้ป๋าแจก หรือจะเอาไปแจกเองก็ไม่รู้นะ เพราะฉะนั้น อันนี้น่ะ โยมคิดให้ดีนะ ผู้ที่ทำได้น่ะ ก็ขอให้คิดให้ดี ว่าเห็นหัวอกหลวงป๋าว่า เอ๊ะ หลวงป๋าจะทำยังไง

พอห้าม เอ๊ะ เราไปมีสิทธิ์อะไรไปห้ามเขาน่ะ เมื่อใครมาขออนุญาตก็เออๆทั้งนั้นแหละ ไปห้ามเขายังไงล่ะ มีสิทธิ์อะไรไปห้ามเขา แต่ความรู้สึกสบายใจไหม ไม่สบายใจ เพราะทำแล้วในนามของวัด ในนามของหลวงป๋า เพราะฉะนั้นขอให้เข้าใจนะ ลึกๆละเอียดๆ ใจให้ละเอียดอ่อนหน่อยก็จะเข้าว่า ทำไมหลวงป๋าจึง เมื่อขออนุญาติก็ต้องให้น่ะ เพราะว่าไปมีสิทธิ์อะไรไปห้ามเขาน่ะ ใช่ไหม ต้องเห็นใจหลวงป๋าบ้าง แต่ด้วยความสบายใจ ไม่สบายใจ แต่ว่าทำให้ ก็เอาไว้แจกโยมน่ะ หรือจะแจกพระก็แล้วแต่

แต่โยมทำพระแจกพระ โยมคิดดูนะ ว่ามันฟังแล้วมันทะแม่งๆ คนทำพระก็ต้องเป็นพระ ให้โยมคิดเอาไว้ โยมทำได้ไหม ได้ โยมทำก็แจกเอง ไม่มีใครห้ามมันไม่ผิดกฎหมายน่ะ แต่ถามว่าควรไม่ควร ตรงนี้ต่างหากล่ะ เพราะอะไร ต้องคิด แต่โยมว่าเออ!อยากได้บุญ โอ! มันก็ใช่ ไม่ว่ากัน อยากได้บุญไม่ยากนี่ไปบริจาคเอาไว้ บอกนี่จะร่วมสมทบทุน เมื่อไหร่หลวงป๋าทำพระก็อ่ะนี่สมทบทุนนะหลวงป๋า หรือมาที่หลวงป๋าก็ได้ ถึงเวลาหลวงป๋าทำก็เอาเงินของท่านทำ ท่านก็ได้บุญเต็มเหมือนกันถ้าทำอย่างนี้ แล้วดีซะอีก เพราะว่า พระที่ทำโดยพระ แล้วก็แจกโดยพระ ใช่ไหม โยมที่รับไปก็เออ!รับไปจากพระ อย่างนี้เป็นต้น แล้วก็พระทำไม่ใช่โยมทำ นี่ ความรู้สึกมันแตกต่าง

เพราะฉะนั้น เรื่องของพระนี่มันเรื่องของพระ โยมอย่าแย่งหน้าที่พระ เข้าใจไหม อันนี้ที่หลวงป๋าพูดนี่ เพราะมันอึดอัดมานาน อึดอัดมานาน เห็นใจที่โยมอยากได้บุญก็เห็นใจนะ ไม่ใช่ไม่เห็นใจ แต่ว่ามันต้องรู้กาละเทศะ รู้จักบุคคล รู้จักสถานที่ สัตบุรุษต้องรู้จักเขารู้จักเรา รู้จักพระ รู้จักโยม นั่นสัตบุรุษ รู้จักบุคคล รู้จักสถานที่ รู้จักชุมชน รู้จักเหตุ รู้จักผล สัตบุรุษ ธรรมะสำหรับสัตบุรุษ นี่..ต้องรู้อย่างนั้น ไม่ใช่ว่าอยากจะได้บุญก็เอ้า!! ก็ไม่ว่า มันห้ามไม่ได้ แล้วก็ หลวงป๋าก็ต้องอนุโมทนาด้วยนะ แต่ก็ฝืนใจ พยายามทำใจน่ะ แต่ยังไม่เด็ดขาด ใจมันยังไม่เด็ดขาดเพราะว่า อยากจะทำด้วยน้ำมือของตัวเอง แล้วก็แจกโยม ทำแล้วหยุด ไม่ใช่ทำพร่ำเพรื่อ นี่หยุดแล้ว ไม่ทำอีกแล้วจนกว่าจะมีความจำเป็นจะทำอีกค่อยทำ บอกโยมนะ ว่าหลวงป๋าน่ะหยุดทำก่อน ไม่ถึงหยุดเด็ดขาด เด็ดขาดหรือป่าวไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่อยากทำ พอแล้ว ก็ให้โยมอย่าไปหมกมุ่นในเรื่องนี้ให้มากนัก เอาแต่พอสมควรก็พอแล้ว ของที่มีอยู่นี่เพียงพอ โยมห้อยไปเถอะ ถ้าเอามากกว่านั้น ก็เดี๋ยวก็โยมก็ห้อยอย่างนี้ เดี๋ยวตกน้ำแล้วมันขึ้นมาไม่ไหว นะ แค่นี้ก็พอแล้ว ทำให้เนี่ยพอแล้วนะ

ให้เป็นที่เข้าใจนะ ใครที่อยากได้บุญน่ะ ถ้าอยากได้บุญบอก ไม่ยาก ไปทำบุญกับโน่นประชาสัมพันธ์น่ะ หรือจะมาพระสังฆาธิการก็ได้ มาที่หลวงป๋าก็ได้ บอกขอทำบุญร่วมกับหลวงป๋าเรื่องนี้เถอะ จะเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน ก็ไม่ว่า ถึงเวลาน่ะ หลวงป๋าจะขออนุญาติหลวงพ่อทำเอง ครูบาอาจารย์มี จะขออนุญาตทำเอง เข้าใจหรือยังลูกหลานทั้งหลาย อย่าโกรธหลวงตานะ

แต่ว่า นี่ก็อธิษฐานให้ ก็ตั้งใจอธิษฐานเต็มที่แหละ แต่ว่ามันติดใจอยู่นิดนึงว่า ถ้าเผื่อมีคนทำอย่างเนี้ย โยมนึกนะ ไม่ใช่โยมทำได้คนเดียวนะ คนอื่นก็ทำได้ คนนั้นก็ทำมาคนนี้ก็ทำมาให้หลวงตาอธิษฐาน แจก หรือจะให้ทำบุญ หรือว่า หรือว่า เหลือแล้วก็ให้คนทำบุญว่าต้นทุนทำของเรา ก็ได้ ส่วนตัว แล้วใครจะรู้จะเห็นล่ะ ก็เลยกลายเป็นว่าแสวงหาลาภสักการะ คนเรายังไงมันตัดกิเลสไม่ได้หมดน่ะ ไอ้ความโลภมันอาจจะ มันอาจจะเกิดได้ แต่หลวงป๋าไม่มีเจตนาที่จะทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อพระศาสนา ก็ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้มันบริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้กระทั่งเป็นพระผงเนี่ย ผู้ที่ตำพระผงน่ะคือธรรมกายนะ อย่างนี้เป็นต้น นี่เราทำอย่างนี้ แต่ไม่ได้บอกใครเดี๋ยวจะว่าเป็นคุยโม้ ดี มีพุทธานุภาพอะไรๆเย้อะ แต่ก็ไม่ได้เอามาประกาศอะไรมากมาย

ก็ให้รู้ว่า”ธฺมโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ” ถือฉบับนี้ไว้
“ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ” “ธรรมแลคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม” เป็นพระพุทธพจน์ เท่านี้แหละ เอาไว้ในใจ จบ อย่างนี้นะ

แล้วโยมที่เอามานี่ก็อย่าเสียใจ ก็บอกว่า ทำแล้วก็ให้มันเป็นบุญเป็นกุศลไป แต่ว่ามันไม่สบายใจอยู่ที่ตัวหลวงป๋านี่ เพราะมันไม่ใช่ไปจากโสตธาตุของหลวงป๋า เข้าใจไหม นี่เรื่องทั้งหมด เรื่องละเอียดอ่อน บอกใครไม่เข้าใจ ถ้าฟังง่ายๆโอ๊ยใครก็ทำได้ ไม่เห็นมีปัญหา มนต์คาถาก็อันเดียวกันทำได้ ก็ใช่ไม่ผิดหรอก ว่าอย่างนั้นใช่เลย แต่เจตนาความคิดอ่านความรู้สึกนึกคิดทั้งหลาย ตั้งเจตนาไปมันก็มันคนละคน นี่พระทำ นี่โยมทำ โยมเข้าใจหรือยังล่ะทีนี้

พูดให้ชัดเจนเสียที ไม่ได้พูดก็โยมก็ไม่เข้าใจ หลวงป๋าก็อึดอัด ไอ้จะบอกปฏิเสธก็ไม่ได้ มันมีสิทธิ์อะไรไปปฏิเสธเขา ทีนี้ ใครๆก็ถือว่าอ้าวหลวงป๋าอนุญาติแล้วไง ก็จะให้ฉันขัดข้องยังไงล่ะ เอาใจหลวงป๋าไปใส่ใจเธอสิ แล้วเธอจะรู้ ว่าไม่สบายใจ เพราะถึงเวลาหลวงป๋าจะทำ ทำเอง อยากจะสมทบทุนมาเลย ฝากไว้ก่อนก็ได้ เข้าใจนะ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ แต่ก็ขออนุโมทนากับโยมที่ตั้งเจตนาดี แต่มันดีอยู่ในระดับหนึ่ง หลวงป๋าเองเนี่ยก็จะทำให้โยมเหมือนกัน โยมลองนึกดูว่า หลวงป๋าทำเอง กับโยมทำให้หลวงป๋าอธิษฐาน แล้วแจก โยมจะเอาอันไหนน่ะ ง่ายๆตื้นๆ เอาใจเขามาใส่ใจเรา โยมจะรู้ได้เลย อยากได้บุญน่ะหลวงป๋าเข้าใจนะ ทุกคนอยากได้บุญ ก็ทำในช่องที่มันได้

#บุญอะไรจะเกินบุญสร้างพระมหาเจดีย์ไม่มี
เพราะพระมหาเจดีย์นี่เป็นที่ตั้งของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หมดครบไตร รัตนตรัยเลย พระพุทธเจ้าตั้งอยู่ที่นั่น พระบรมสารีริกธาตุก็จะตั้งอยู่ที่นั่น….

_______________
เทศนาธรรมจาก

พระเทพญาณทงคล
หลวงตาเสริมชัย ชยมงฺคโล
#วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
อ.ดำเนินสะดวก
จ.ราชบุรี
_______________
เทศนาธรรมเมื่อ
๐๘/๑๒/๖๐
_______________
เพจอมตวัชรวจีหลวงป๋า
ขอบพระคุณภาพประกอบธรรมะ.

แชร์เลย

Comments

comments

Share: