จากนิตยสารธรรมกาย เล่มที่ 29 คอลัมน์ ธรรมสภา โดย วิมังสา วิมังสา อิสะวาสุ
หลวงปู่พูด
พระราชนิโรธรังสี หรือ หลวงปู่ เทสก์ เทสรังสี ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๖๒ และอุปสมบท เป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๖ ท่าน
เป็นศิษย์องค์สำคัญรูปหนึ่งของท่าน พระอาจารย์ใหญ่ มั่น ภูริทัตตเถระ บูรพาจารย์พระวิปัสสนาสายพระป่า และด้วยประสบการณ์การปฏิบัติออกธุดงค์อยู่ป่าอยู่เขาอยู่ถ้ำ มาเป็นเวลากว่า ๔๐ ปี ปัจจุบันหลวงปู่เทสก์ได้ถูกยอมรับและยกย่องกันโดยทั่วไปว่า ท่านคือพระมหาเถระชั้นสูงสุดในสายพระป่า ที่ผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมทั้งพระภิกษุสามเณร และฆราวาสชายหญิง ต่างตั้งความปรารถนาว่า ขอตน ได้มีโอกาสกราบนมัสการท่านสักครั้งให้ได้
ด้วยความผูกพันที่เกิดขึ้นในใจ อย่างลึก ๆ กับหลวงปู่มานาน พระ อาจารย์มหาเสริมชัย ชยมงฺคโล เจ้า อาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี มีความดําริมานานที่จะหา โอกาสได้กราบหลวงปู่สักหน และเป็น คราวโชคดีที่ระยะก่อนเข้าพรรษาปี ๒๕๓๖ นี้ ที่พระอาจารย์มหาเสริมชัย ได้มีช่วงว่างเว้นจากภารกิจในการเผย แพร่พระศาสนา จึงได้เดินทางมุ่งสู่ภาค อีสานเมื่อคืนวันศุกร์ที่ ๒๙ ก.ค. ๒๕๓๖ ด้วยรถบัสใหญ่ ๓ คันพร้อมด้วย คณะศิษย์อันมีพระภิกษุสามเณร และ อุบาสกอุบาสิกา รวม ๑๒๐ คน ไป รุ่งเช้าเอาที่จังหวัดสกลนคร และถึงวัด ถ้ำขามในเช้าวันเสาร์ที่ ๒๔ ก.ค. ๓๖ ภายหลังจากได้บิณฑบาตร่วมกันกับ
คณะสงฆ์วัดถ้ำขาม พระอาจารย์มหา เสริมชัย ได้รับความเมตตาเป็นอย่าง สูงจากหลวงปู่เทสก์ ให้นําหมู่คณะพระ ภิกษุ ๑๔ รูป เข้ากราบนมัสการได้ ภาพอันสำคัญและประทับใจเป็น
อย่างมาก แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีผู้ ได้ได้โอกาสถ่ายภาพนั้นไว้ คงมีแต่ใจ อันใสสะอาดของทุกท่านในเช้าวันนั้น ที่จะบันทึกภาพเก็บไว้ภายในตลอดไป เมื่อพระอาจารย์มหาเสริมชัย ชัยมงค
โลน่าหมู่สงฆ์ทำวัตรต่อหลวงปู่ แล้ว กราบลงแทบเท้าของหลวงปู่ ซึ่งท่าน ได้กล่าวตอบ และมีปฏิสันธานด้วย ใบหน้าอันอิ่มเอิบด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยม ด้วยความเมตตาเสียงแนะนําตัวดังขึ้น (จากพระอุปัฏฐากหลวงปู่) พระทรงวุฒิ ธมฺมาโรว่า “ท่านองค์นี้คือพระอาจารย์มหาเสริมชัย เป็นผู้บรรยายเรื่องนิพพานธาตุ” ซึ่งยังความประหลาดใจแก่ พระอาจารย์มหาเสริมชัย เพราะไม่ได้ เคยแจ้งฐานะให้ได้ทราบมาก่อน ทั้งยัง มีผู้จดจําถึงผลงานบรรยายทางวิชาการ เรื่องพระนิพพานเมื่อหลายปีก่อนได้(ทราบว่า มีพระภิกษุผู้สนใจธรรม ปฏิบัติได้นําเทปการบรรยายนั้นไป)
ถวายหลวงปู่เทสก์) หลวงปู่ดูมีสีหน้า เบิกบานยิ่งขึ้นเมื่อได้ทราบฐานะของ ผู้มาเยือนท่านพยักหน้ารับน้อยๆด้วย อาการอมยิ้ม แล้วทุกคนก็ได้ยินคํา พูดจากริมฝีปากท่านที่กล่าวอย่างช้าๆ แต่ชัดเจนว่า “…บรรยายได้ดี…อยาก ฟังมานาน….มีเหตุผลดี” พระอาจารย์
มหาเสริมชัยพนมมือรับและกล่าว เรียนเพิ่มว่า ภายหลังกระผมได้รวบ รวมจัดทำเป็นเล่มขึ้น ชื่อว่านิพพาน ๓ นัย” หลวงปู่มีเสียงหัวเราะอยู่ใน ลำคอ ท่านอมยิ้มน้อยๆ และพยักหน้า
รับทราบ เสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เล็ดลอดออกมาเบาๆ ก่อนที่ท่านจะ ได้กล่าวต่อไปว่า “ของผมมันเป็นเรื่อง เล่า มันไม่เป็นวิชาการ… เพียงเท่านี้
ก็เป็นที่ซาบซึ้งแก่คณะที่เข้ากราบ นมัสการท่านเป็นอย่างยิ่ง ก่อนกราบนมัสการลา พระอาจารย์ มหาเสริมชัยยังได้ขออนุญาตถวาย นวดเท้าหลวงปู่เป็นศิริมงคลอีกด้วย ภาพต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่อาจหาดูจากที่ ใดได้อีก นอกจากในใจของทุกคนที่ได้ อยู่และมีโอกาสสัมผัสบรรยากาศของ เช้าวันนั้น…ที่ วัดถ้ำขาม สกลนคร ท้ายธรรมสภาทน ขออัญเชิญ คํา กล่าวของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี จาก หนังสืออัตตโนประวัติของท่านที่กล่าว ไว้เมื่อคราวเดินทางไปเยี่ยมประเทศ อินโดนีเซีย เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๙ ว่า
“ใน โลกนี้ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ที่จะมีปูชนีย สถานอันน่าเลื่อมใสยิ่งไปกว่าเมืองไทยเรา เราเชื่อ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เลยว่า ถ้าหาก คนไทยศึกษาให้เข้าใจในความหมายของพุทธศาสนาที่แท้จริง แล้วยอมปฏิบัติตามให้ถูกต้อง ลัทธิและการเมือง ใดเล่าในโลกนี้จะมาทำลายพุทธศาสนา ให้สูญสิ้นไปจากเมืองไทยได้ย่อมไม่มี“
อ่านเต็มๆได้ที่ นิตยสารธรรมกาย ฉบับที่ 29
https://drive.google.com/file/d/0B5reTWVk2cAZOW9kcjI3ZmJZY2s/view?usp=sharing
นิตยสารธรรมกาย ทั้งหมดทุกเล่ม ที่นี่ https://drive.google.com/drive/folders/0B5reTWVk2cAZVlREUmtIS3NGdnM