หลวงพ่อสดตามพระคู่บารมีเนื้อทองคำและนากมาให้หลวงป๋า โดย ทวีวัฒน์ เติมฤทธิ์ (อู๋) 9 ก.ย. 2559
จะมีใครรู้บ้างว่ามีพระสำคัญในโบสถ์ของวัดหลวงพ่อสดอยู่ 2 องค์ คือพระทองคำและพระนากนั้นได้มาเพราะหลวงพ่อสดวัดปากน้ำภาษีเจริญ สมัยหลวงพ่อสดยังมีชีวิตอยู่ท่านได้ใช้ญาณพระธรรมกายตรวจดูว่าในโลกนี้ยังมีพระที่สำคัญอยู่นอกประเทศไทยหรือไม่ ก็พบว่ามีพระสามพี่น้อง คือ ทองคำ นาก และเงิน กระจัดกระจายอยู่ที่นครเชียงตุง อาณาเขตรอยต่อระหว่างพม่าและจีน ท่านจึงได้ใช้วิชชาธรรมกาย “ตะล่อม” พระทั้งสามองค์นี้ให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเพื่อให้เทพประจำองค์พระทั้งสามองค์นี้ทำนุบำรุงพระศาสนาในประเทศไทย เรื่องพระสามพี่น้องนี้ได้มีการพูดกันในหมู่ผู้ที่ได้ธรรมกายชั้นสูง โดยบอกต่อๆ กันไปว่าหากใครมีเบาะแสพบเจอก็ขอให้ส่งข่าวให้กันหรือถ้าสามารถอัญเชิญมาได้ก็ยิ่งดี แต่ก็ไม่ทราบว่าใครจะมีบุญเป็นเจ้าของพระทั้งสามองค์นี้
การณ์ต่อมาพระสามพี่น้องนี้จึงได้เริ่มทะยอยเข้ามาอยู่ในประเทศไทยทีละองค์ โดยองค์พี่ใหญ่เนื้อทองคำนั้นปรากฏว่าได้ไปอยู่กับน่ายทหารคนหนึ่งในจังหวัดลำปาง โดยสมัยนั้นนายทหารผู้นี้ได้ไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เขตเชียงตุง แล้วได้ไปได้ลูกสาวของชนเผ่าในเขตนั้น เมื่อจะเดินทางกลับประเทศไทยพ่อของฝ่ายหญิงจึงมอบพระทองคำนี้มาให้เป็นของขวัญ แต่ไม่มีใครรู้ว่าพระองค์นี้เป็นพระเนื้อทองคำซึ่งมีขนาดหน้าตักประมาณ 16 นิ้ว นากขนาดประมาณ 9 นิ้ว และเงิน (ไม่ทราบขนาดน่าจะประมาณ 7 นิ้ว) เพราะคนในสมัยโบราณเขาเอายางไม้มาเคลือบผิวองค์พระไว้ เมื่อดูจากภายนอกจึงเป็นพระสีดำด้านๆ ไม่มีความสวยงามอะไร
ส่วนองค์นาคนั้นได้เข้ามาอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ไปตั้งขายไว้อยู่ในร้านขายพระเครื่องที่เปิดร้านอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง และพระเนื้อเงินองค์สุดท้องไปอยู่กับป้านพลูกศิษย์ของคุณยายทองสุข สำแดงปั้น แม่ชีลูกศิษย์ที่สำคัญคนหนึ่งของหลวงพ่อสดที่ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์
เรื่องพระศักดิ์สิทธิ์สามพี่น้องนี้ หลังจากที่หลวงพ่อสดมรณภาพ ก็ได้มีการพูดเล่ากล่าวขานกันในหมู่ผู้ที่ได้ธรรมกายว่าใครจะสามารถติดตามให้พระเหล่านี้เข้ามาอยู่ในแวดวงวิชชาธรรมกายได้ ก็ปรากฏว่าได้มีพระองค์หนึ่งที่ได้ธรรมกายชั้นสูงได้มาบอกหลวงป๋าซึ่งตอนนั้นยังเป็นฆราวาสว่าให้ไปตามพระศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามองค์นี้มาให้ได้ ท่านคงจะตรวจดูแล้วว่าหลวงป๋าน่าจะมีบุญสัมพันธ์กับพระทั้งสามองค์หรืออาจจะเคยสร้างพระเหล่านี้มาในอดีตชาติ
เรื่องพระทั้งสามองค์นี้จึงอยู่ในจิตสำนึกของหลวงป๋าว่าจะต้องไปตามหาให้พบ ในขณะที่หลวงป๋าต้องออกทำงานสำรวจวิจัยในต่างจังหวัดพอดี ท่านก็เคยจำได้ว่าได้เคยไปพักโรงแรมที่ในจังหวัดเชียงรายแล้วเคยเห็นพระเก่าๆ สีดำตั้งขายอยู่ในโรงแรม คืนนั้นท่านพักอยู่ที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่ง (น่าจะเป็นโรงแรมในจังหวัดลำปาง) ท่านบอกว่าในคืนนั้นท่านนอนไม่หลับเลย คิดถึงแต่เรื่องพระสามองค์นี้ แล้วก็ปรากฏว่าท่านได้ยินเสียงดนตรีทิพย์ปี่พาทย์กลองชัยบรรเลงเสียงดังตุ้มๆ อยู่ทั้งคืน พอถึงตอนเช้าตรู่ก็สะดุ้งตื่นเห็นพระสามพี่น้องมาอยู่ที่ตรงปลายเตียง แล้วได้ยินพระพูดขึ้นว่า “ตื่นเร็ว เดี๋ยวจะไปขึ้นรถไม่ทัน”
หลวงป๋าท่านรู้ขึ้นมาทันทีว่าจะต้องไปเอาพระนากที่จังหวัดเชียงรายเดี๋ยวนี้เลย ท่านเลยรีบไปที่ท่ารถก็พอดีรถกำลังจะออกไปจังหวัดเชียงรายพอดี ในวันนั้นถ้าท่านไปไม่ทันรถเที่ยวนี้ก็จะต้องรอเที่ยวต่อไปในวันรุ่งขึ้นเพราะมีรถไปเพียงวันละเที่ยวเท่านั้น พอท่านไปถึงโรงแรมที่จังหวัดเชียงรายก็เลยรีบตรงไปที่ร้านไปขอเช่าพระองค์เนื้อนากนี้ได้ในราคาที่ไม่แพง เพราะเจ้าของเขาก็ไม่รู้ว่าพระองค์นี้เป็นเนื้อนากทั้งองค์
เมื่อได้พระนากมาแล้ว ท่านก็ไปตามหาพระเนื้อทองคำองค์พี่ใหญ่ซึ่งทราบมาจากผู้ที่ได้ธรรมกายชั้นสูงว่าท่านไปอยู่ที่จังหวัดลำปาง หลวงป๋าเลยไปสอบถามกับคนในจังหวัดลำปางก็ทราบว่าเคยได้ยินว่ามีนายทหารท่านหนึ่งที่อยู่ในกรมทหารมีพระเก่าลักษณะแบบพระพม่านี้ ตอนนี้ได้ยินข่าวว่าภรรยาของนายทหารท่านนี้บอกขายพระองค์นี้ไว้ หลวงป๋าท่านเลยรีบเดินทางไปที่บ้านของภรรยานายทหารท่านนี้ ปรากฏว่าพระองค์นี้เธอเก็บเอาไว้ที่หลังบ้านเพราะเห็นว่าเป็นพระไม่สวยผิวดำๆ ด้านๆ หาความสวยงามไม่ได้ แต่เมื่อหลวงป๋าท่านเห็นก็ทราบทันทีว่าพระองค์นี้แหละคือพระทองคำที่ท่านกำลังตามหาอยู่ ท่านเลยขอเช่าได้มาในราคาที่ไม่แพงเช่นกัน
ตอนนี้ก็เท่ากับหลวงป๋าได้พระมา 2 องค์แล้ว ขาดแต่พระเนื้อเงินองค์สุดท้องเท่านั้น ซึ่งผู้มีญาณทัศนะก็บอกอีกว่าพระเนื้อเงินองค์นี้ไปอยู่กับ “ป้านพ” ลูกศิษย์ของคุณยายทองสุก สำแดงปั้น หลวงป๋าท่านจึงขึ้นไปดูพระที่ปากน้ำโพ ป้านพท่านก็ยอมให้ดูแต่ไม่ยอมขายพระให้เพราะรักและหวงพระองค์นี้มาก แม้ทุกวันนี้ท่านได้ตายไปแล้วแต่ลูกหลานของท่านก็ยังเก็บรักษาพระองค์นี้ไว้ เมื่อหลวงป๋าเห็นว่าเป็นเวลาเนิ่นนานแล้วพระเนื้อเงินก็ยังไม่ได้มา ท่านจึงหล่อพระเนื้อเงินขึ้นมาใหม่เมื่อตอนที่ท่านสร้างวัดหลวงพ่อสดแล้ว
เมื่อหลวงป๋าได้พระทองคำและนากมาแล้ว ท่านก็นึกอยากถวายพระให้แก่พระองค์หนึ่งที่ท่านเคารพและก็เป็นผู้ที่คอยบอกให้ไปหาพระทั้งสามองค์นี้มาให้ได้ หลวงป๋าท่านจึงได้ถวายพระนากให้ไปก่อน 1 องค์ พระท่านั้นจึงใช้ให้ลูกศิษย์ทำการขัดผิวเอาคราบดำออกก็ปรากฏว่าเป็นพระเนื้อนากสวยงามทั้งองค์จริง ตรงตามนิมิตที่ได้เห็นตั้งแต่แรก แต่มีเรื่องประหลาดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่ลูกศิษย์ของท่านกำลังทำการขัดผิวองค์พระเพื่อให้พระดูงดงามขึ้น ขณะที่คนนั้นกำลังขัดพระอยู่เพลินๆ ปรากฏว่านิ้วมือและนิ้วเท้าของหลวงพ่อนากท่านกระดุกกระดิกได้เอง คนนั้นเขาไม่ทันตั้งตัวเลยตกใจสุดขีด ดีดตัวเองลอยออกไปทางหน้าต่างของห้องนั้นแบบลืมคิดชีวิต ดีที่ห้องนั้นเป็นกุฏิชั้นเดียวถ้าสูงหลายชั้นคงเจ็บหรือตายแน่ องค์พระนากนี้ท่านศักดิ์สิทธิ์และขี้เล่น เรื่องนี้ก็โจษกันในหมู่ลูกศิษย์ว่าพระองค์นี้ท่านศักดิ์สิทธิ์จริง สมกับที่หลวงพ่อสดได้เคยบอกไว้
ทางด้านผู้ที่ได้พระไปนั้นท่านก็ได้นำเอาลูกแก้วกายสิทธิ์บรรจุเข้าไว้ในองค์พระนาก เพื่อเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่องค์พระอีกด้วย แต่ต่อมาพระท่านนั้นก็ได้ส่งพระนากองค์นี้กลับคืนมาให้หลวงป๋า โดยท่านบอกว่าเป็นพระคู่บารมีของหลวงป๋าก็ควรที่จะอยู่กับหลวงป๋า
สำหรับองค์ทองคำนั้นหลวงป๋าท่านลองขัดดูเฉพาะในส่วนของพระเมาลี ก็ปรากฏว่าเป็นเนื้อทองคำจริง ตรงกับญาณทัศนะที่หลวงพ่อสดได้เคยกล่าวเอาไว้ว่าเป็นพระศักดิ์สิทธิ์สามพี่น้อง ทองคำ นาก และเงิน และเมื่อหลวงป๋าออกบวชและสร้างวัดหลวงพ่อสดขึ้นมา พระทองคำและพระนากจึงได้มาประดิษฐานไว้ในอุโบสถของวัดมาจนทุกวันนี้ (โยมแม่ป้อมที่เป็นภรรยาของหลวงป๋าได้นำพระทั้ง 2 องค์นี้จากบ้าน มาถวายเพื่อเป็นสมบัติของพระศาสนา) สักวันหนึ่งข้างหน้า ก็หวังว่าพระเนื้อเงินองค์น้องจะได้มาอยู่ที่วัดหลวงพ่อสด เพื่อให้พระทั้งสามพี่น้องได้มาอยู่พร้อมหน้ากันเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา…เรื่องนี้หลวงป๋าก็ได้เล่าให้พระที่มานั่งฟังสวดพระปาฏิโมกข์ฟังด้วยประมาณ 2-3 เดือนก่อนที่ท่านจะละสังขาร เป็นการมาเล่าให้ลูกๆ ของท่านได้ฟังกันเป็นครั้งสุดท้าย
ที่บางคนชอบพูดว่าพวกที่นั่งสมาธิแล้วเห็นโน่นเห็นนี่ ไม่รู้ว่าคิดเห็นไปเองหรือเปล่า แต่ถ้าเขาเหล่านั้นได้มาทราบเรื่องที่หลวงพ่อสด ได้ตรวจไปถึงพระสำคัญที่ควรจะมาประดิษฐานในประเทศไทย แล้วยังได้รู้ว่าพระที่หลวงป๋าสร้างไว้นั้นยังอยู่ในโลก ท่านยังสามารถทำวิชชาให้พระเดินทางมาจากนอกประเทศให้เข้ามาในไทย เพื่อที่หลวงป๋าจะสามารถเดินทางขึ้นไปรับมาได้ ญาณทัศนะและสิทธิอำนาจในวิชชาธรรมกายจึงเป็นของจริงที่ทั้งรู้และทั้งเห็น ทั้งสามารถทำได้จริงอีกด้วย
มาในชาตินี้หลวงป๋าท่านก็ยังได้พระ 3 พี่น้อง 3 เนื้อ ขนาดหน้าตัก 19 นิ้วทั้งสามองค์ เป็นพระสามพี่น้องชุดใหม่ในชาตินี้ แต่ครั้งนี้ผม (อู๋) และเหล่าญาติมิตรได้เป็นคนสร้างถวายท่าน โดยสร้างขึ้นมาด้วยเนื้อธาตุกายสิทธิ์คือวัชรธาตุ (พระชัยมงคลเลิศฤทธิ์) ช่อทิพย์เงินยวง (พระชัยมงคลเลิศหล้า) และสุริยันราชา (พระชัยมงคลเลิศรัตน์) และได้นำถวายท่านไปแล้วเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2559
(เพิ่มเติม) วันหนึ่งมีสามเณรรูปหนึ่งได้เข้าไปนั่งสวดมนต์นั่งสมาธิในโบสถ์ของวัดหลวงพ่อสด ตอนนั้นคงจะเป็นเวลาบ่ายแก่ๆ สามเณรนั่งสมาธิไปนานเข้าก็เริ่มง่วงตามประสาเด็ก นั่งโงกไปโงกมาจะหลับแหล่มิหลับแหล่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เพราะมีพระองค์หนึ่งมายืนอยู่ข้างหน้าสามเณรแล้วเอามือเขกศีรษะเณรดังโป๊ก เณรหายง่วงเลยลืมตาขึ้นมาดูว่าพระที่ไหนมาเขกศีรษะ มองขึ้นไปยิ่งตกใจใหญ่เพราะเห็นเป็นหลวงพ่อนากซึ่งอยู่ในตู้กระจกของโบสถ์ ท่านออกมายืนอยู่ตรงหน้าได้อย่างไร สามเณรองค์นั้นถึงกับร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับหงายหลังล้มลงไปเลย พอลุกขึ้นมาได้ก็วิ่งโกยออกจากโบสถ์ไปด้วยความตกใจสุดขีด พอไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังคนฟังก็อดขำไม่ได้ถึงความขี้เล่นของหลวงพ่อนากองค์นี้