หลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม จ.นครสวรรค์

หลวงพ่อสุพจน์ จันทูปโม พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ ท่านมีพื้นเพเดิมเป็นคนจังหวัดสมุทรปราการ นามเดิมของท่านคือ สุพจน์ นามสกุล จาริบูลย์ โยมบิดาชื่อ นายมานิตย์ จาริบูลย์ โยมมารดาชื่อ นางจําเนียร จาริบูลย์ หลวงพอสุพจน์ท่าน               เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2488 ซึ่งตรงกับวันอังคาร เดือนยี่ ปีระกา ที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ท่านเป็นลูกชายคนเดียวของนายมานิตย์และนางจําเนียร ซึ่งมีลูกทั้งหมด 3 คน มีรายนามตามลำดับดังนี้

1. นางศรีสุดา

2. นายสุพจน์ จาริพิบูลย์ หรือ หลวงพ่อสุพจน์ จันทูปโม ในปัจจุบัน

3. นางวิยะดา

ในวัยเด็ก เด็กชายสุพจน์ก็อาศัยอยู่กับครอบครัวท่าน ณ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการจนต่อมาโยมบิดาของท่านซึ่งเป็นพนักงานรถไฟ ได้ย้ายมาทำงานที่มักกะสันและได้พักที่บ้านพักพนักงานรถไฟ ย่านมักกะสัน จึงได้ย้ายครอบครัวมาอยู่พร้อมหน้ากันที่นั่นเด็กชายสุพจน์จึงได้เข้าเรียนโรงเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนใกล้ๆบ้านพักรถไฟมักกะสัน อยู่โรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนกระทั่ง จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (มศ.3) ซึ่งเป็นระดับการศึกษาชั้นสูงสุดของท่าน ภายหลังจกเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว  หลวงพ่อสุพจน์ ได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท เมื่อว ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2508 ณ พัทธสีมาวัดโปรดเกศเชษฐาราม ตําบลบางฝึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการโดยพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระศีลคุณาลังการ เมื่อครั้งยังเป็นพระครูวิธานธรรมวัตร เจ้าอาวาสวัดโปรดเกศเชษฐารามและเจาคณะตําบลบางผึง เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ มี พระมาแช่ม วัดโปรดเกศเชษฐาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และมีพระมหาภักดี วัดโปดเกศเชษฐาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ตั้งมคธนาม หรือ ฉายาทาง พระภิกษุให้ว่า จันทูปโม (ผู้เปรียบด้วยพระจันทร์,ผู้เปรียบดุจพระจันทร์) ภายหลังจากบวชได้ 2 พรรษาและมีความรู้ทางปริยัติได้ นักธรรมชั้นโท พระภิกษุสุพจน์ ได้เริ่มแสวงหาพระอาจารย์ผู้รู้ทางพุทธศาสตร์ พระภิกษุสุพจน์ ไปกราบขอฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปูอินทร์เทวดา หลังจากออกพรรษาที่ 3 พระภิกษุสุพจน์ ได้ออกธุดงค์ไปจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อไปฝากตัวขอศึกษากับ หลวงปู่รอด วัดหนองกระทิง และได้ฝากตัว เป็นศิษย์พ่อเฒ่ามืด สุดยอดมหาอุด เมื่อหลวงพ่อสุพน์ มีพรรษาเกือบ 10 พรรษา ท่านคิดจะสร้างวัดมี     ญาติโยมมานิมนต์ให้ไปสร้างวัดที่บ้านทุ่งธรรม หลวงพ่อสุจน์ เริ่มสร้างวัดจากสำนักสงฆ์ในปี พ.ศ. 2522 และพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งนามให้วัดแห่งนี้ว่าวัดศรีทรงธรรม ภายในวดก็มีเสนาสนะ ครบถ้วนตามความจําเป็น

หลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม จ.นครสวรรค์ ท่านเป็นพระสมถะ ฎิบัติดี มีพลังจิตสูง ท่านชอบช่วยเหลือชาวบ้าน และอุปถัมภ์โรงเรียนในแถบนั้น ผมได้รู้จักท่านหลายปีแล้วจากการแนะนำของน้องท่านหนึ่งได้เจอกับท่านทางสมาธิและบอกให้ผมไปกราบท่านเพราะท่านเป็นพระอริยะบุคคลและยังบอกให้ผมทราบว่าอดีตชาติท่านก็ได้เคยเป็นพยายมอยู่ในขุมที่ 5 ด้วย และผมมีคลิปที่เขาทดลองยิ่งวัตถุมงคลของท่านอยู่หลายคลิปที่ยิงไม่ออกแต่มีอยู่คลิปหนึ่งที่น่าทึ่งมาก ลองชมดูครับ นอกจากนี้ผมยังมีรูปที่ได้มาหลายปีแล้วแต่ไม่ได้มีการเผยแพร่กันเป็นรูปเทียนที่ไฟยังติดอยู่ใต้น้ำ ในพิธีปลุกเสกที่จังหวัดกำแพงเพชร

หลวงพ่อสุพจน์ท่านเมตตาทางวัดหลวงพ่อสดฯ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี มากครับ ท่านมาช่วยเสกพระด้านมหาอุดเป็นพิเศษครับ

ประวัติ หลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ( โดยย่อ )

นามเดิมของท่าน คือ สุพจน์ จาริพิบูลย์ โยมบิดา-มารดาชื่อ นายมานิตย์-นางจำเนียร จาริพิบูลย์ ท่าน เกิดเมื่อ วันที่ 25 มกราคม 2488 ที่อ. พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีพี่น้อง จำนวน 3 คน ท่านเป็นคน ที่ 2

ท่านได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท เมื่อ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2508 ณ.พัทธสีมา วัดโปรดเกศเชษฐาราม ต.บางผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยมีท่าน เจ้าคุณพระศีลคุณาลังการ เมื่อครั้งยังเป็น พระครูนิทานธรรมวัตร เจ้าอาวาส วัดโปรดเกศเชษฐารามและ เจ้าคณะตำบลบางผึ้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาแช่ม วัดโปรดเกศเชษฐาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาภักดี วัดโปรดเกศเชษฐาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายาว่า จันทูปโม..

พระอาจารย์ ที่หลวงพ่อสุพจน์ ได้ร่ำเรียน ทางธรรม และ พุทธาคม เท่าที่หลวงพ่อได้บอกเล่า ให้รับทราบมีดังนี้

1. พระมหาแช่ม วัดโปรดเกศเชษฐาราม

2. หลวงปู่อินทร์เทวดา วัดบางกะบัว

3. หลวงพ่อรอด วัดหนองกระทิง

4. พ่อเฒ่ามืด สุดยอดมหาอุด

หลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม จ.นครสวรรค์ ก่อนบวชเป็นนักเลงไม่กลัวใคร ชอบไสยศาสตร์ พอบวชแล้วเดินธุดงค์เรียนวิชาทุกชนิดทั้งไสยขาวไสยดำ สมาธิ วิปัสสนากรรมฐานจนรอบรู้หมด

วิชาไหนท่านเรียนแล้วไม่ขลังใช้ไม่ได้ผลไม่จำ เลือกชนิดหัวกะทิเห็นผลเท่านั้น สำเร็จวิชาคงกะพันตั้งแต่ 5 พรรษาแรก ต่อยอดด้วยวิชาชาตรี วิชาสักจนมาต่อวิชากับปู่รอดเสือ ปู่อินทร์เทวดา ปู่ทัต วังพระนอนและพ่อเฒ่ามืด(ผู้เฒ่าพิศดารใช้ชีวิตแปลกประหลาดผิดจากคนปกติ)

จนสุดท้ายมาได้เทวดามาบอกให้จนเชี่ยวชาญแม่นยำเห็นผล จากนั้นเริ่มสร้างวัดศรีทรงธรรมด้วยตัวเองตั้งแต่ผสมปูนก่ออิฐทำทุกอย่าง ท่านอยู่แบบสมถะองค์เดียว(คิดดูเถิดถ้าไม่เก่งจริงไม่มีอะไรดี จะสร้างวัดอยู่องค์เดียวได้หรือและใครจะมาเป็นลูกศิษย์ แต่ไม่เลยหลวงพ่อสุพจน์มีศิษย์มากมาย เมื่อได้รู้จักท่านไม่ใช้ของท่านเป็นไม่มี)

*ทุกวันคนไปลองยิงตะกรุดที่รับจากมือท่านที่วัดยิงไม่ออก ออกแต่ไม่ถูก ปืนแตกก็มาก*

*ลูกสาวหนีไปเป็นปีมาให้ท่านเรียกกลับ ท่านบอก 7วันรู้เรื่อง ภายใน 7วันลูกสาวก็ทนไม่ได้กลับมาดังคำพูดหลวงพ่อจริง*

*ดำน้ำทำตะกรุดใต้น้ำปล่อยตะกรุดลอยขึ้นมาเอง และเสกจนน้ำระเบิดมาแล้ว คนบึงปลาทูอายุเกิน 50 เห็นทุกคน*

*ทุกวันนี้วัตถุมงคลของหลวงพ่อที่ท่านปลุกเสกแล้วกล้าให้ทดลองทุกชนิด เพราะมั่นใจในอาคม พลังจิตและคุณวิชาว่ามีสุดประมาณ*

*เป็นอาจารย์สัก อาจารย์ดูหมอ ที่พึ่งของชาวบ้านมาตลอดชีวิต ได้เงินมาสร้างวัดหมด เงินส่วนตัวมีสลึงเดียว*

*หนังสือศักดิ์สิทธิ์เคยมาลองยิงเหรียญและตะกรุดท่าน ยิงยังงัยก็ยิงไม่ออก สุดท้ายขอขมาด้วยการเอารูปท่านขึ้นปกหนังสือลงเรื่องของท่าน*

*สมัยก่อนนั่งเขียนวิชามหาอุตม์กับหลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู อัดพลังมหาอุตม์กับหลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน ธรรมดาที่ไหน

cr: https://s-amulet.com/th/products/431819-หลวงพ่อสุพจน์-วัดศรีทรงธรรม

หลวงพ่อสุพจน์ จนฺทูปโม วัดศรีทรงธรรม จ. นครสวรรค์

ชื่อหลวงพ่อ สุพจน์ ดังกระฉ่อนทั้งนครสวรรค์จนทั่วประเทศมานานแล้ว เพราะของท่านดังลองได้ หลวงพ่อเองยังท้าให้ลองด้วยซ้ำไป ขอให้ตั้งจิตให้ดีอธิฐานให้มั่น หลวงพ่อดูจะเป็นพระนักเลงในสายตาของชาวบ้าน แต่แท้จริงท่านเป็นพระจริงไม่กลัวใคร ใจใหญ่ยิ่งกว่ามหาสาคร หลวงพ่อเป็นศิษย์ครูเก่งที่โลกไม่ลืม เรียนวิชามหาอุดแคล้วคลาดมีอำนาจเสือสมิงจากหลวงปู่รอด ( เสือ ) วัดหนองกระทิง เรียนวิชามหาเสน่ห์มหานิยมลุ่มหลง สาวแก่ แม่หม้าย เดินตาม จากปู่อินทร์เทวดา เรียนวิชาปืนปัดปืนปิดพิชัยพิชิตชัยสงครามจากหลวงพ่อ เย่อ วัดอาษาสงคราม เรียนวิชามหาอุดมหากันกำบังปืนจากพ่อเฒ่ามืด ขุนเขาห้าลูกขนาดโยนผ้าขาวม้าให้ยิงยังยิงไม่ออก เรียนวิชากำบังจิตเสกหุ่นพยนต์ล่องหนหายตัวจากพ่อเฒ่าโชติ เมืองอู่ทอง

สมัยหนุ่ม ๆ หลวงพ่อสุพจน์ร้อนวิชาอยู่ตามป่าเขา ตามถ้ำ แน่ไม่แน่ก็มาสร้างวัดศรีทรงธรรมอยู่รูปเดียว ชาวบ้านขึ้นซะด้วย มาอยู่นครสวรรค์ใหม่ ๆ เคยฝากตัวเรียนวิชาสายเจ้าถิ่นนครสวรรค์ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธ์ กับหลวงปู่ฮวด วัดหัวถนนใต้ วิชาบางอย่างในสายหลวงพ่อเดิม จากหลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู ถึงขนาดเคยลองวิชาเสกปลัดว่ายน้ำ ในอ่างน้ำมนต์แข่งกัน หลวงปู่พิมพาเสกขึ้นเร็วแต่ว่ายช้าไปเรื่อย ๆ ส่วนของหลวงพ่อสุพจน์เสกขึ้นห็นกับตาว่า ทุกวันนี้หลวงพ่อสุพจน์ไปไหนมาไหนเดินเท้าเปล่า ขึ้นเขาลงห้วยย่ำกลางทุ่ง หนามเศษหินเศษแก้วบาดท่านไม่ได้ด้วยความขลัง ขนาดมีงานวัดเด็กทำแก้วแตก ท่านเดินเท้าเปล่าผ่าดงเศษแก้วไปอุ้มเด็กได้

หลวงพ่อเลี้ยงเด็กนักเรียน ทำบุญวันเกิดท่านสั่งครูและผู้ใหญ่บ้านให้ดูเด็กทางทิศเหนือจะมีเรื่องกัน ผู้ใหญ่บ้านและครูก็อยู่ทางทิศนี้เพียบเลย สุดท้ายมีเรื่องกันจริง ๆ แต่ระงับเหตุทันเพราะคอยระวังอยู่แล้ว น่าคิดว่าท่านรู้ล่วงหน้าได้อย่างไร

• อีกาตัวหนึ่งบินมาเกาะหลังคาศาลาร้องเสียงดังมากหลวงพ่อบอกลุงหลอว่าขอข้าว 3 ปั้น ท่านรับข้าวมาเสกหว่านลงบนพื้นดิน นกกระจอก นกพิราบ รวมทั้งอีกา บินมากินกันใหญ่ สักพักอีกาบินมาเกาะโต๊ะไม้ที่ท่านนั่งอยู่ ท่านยื่นมือไปลูบหัวและจับอีกาตัวนี้มาเลี้ยง เรื่องนี้พิสูจน์ได้เพราะปัจจุบันอีกาตัวนี้ยังอยู่ในวัดศรีทรงธรรม วิชาของหลวงพ่อนี้ยอดมากเลย

• วัยรุ่นในบึงปลาทู เอาแผ่นทองแดงมาให้หลวงพ่อลงตะกรุด ท่านจะรีบไปธุระในเมือง ท่านรับและลงให้ม้วนให้แล้ววางไว้บนรูปปั้นหลวงปู่ทวด บอกว่า พรุ่งนี้มึงมาเอา แล้วท่านก็นั่งรถออกไป วัยรุ่นใจร้อน 2 คนเดินไปหยิบตะกรุดที่ตักหลวงปู่ทวดเอาไปลองยิงกันหลังวัดปืนแตกเลย พ่อแม่ต้องมากราบขอขมาหลวงพ่อ เรื่องของหลวงพ่อสุพจน์ยังมีอีกมากมายเล่าไม่จบ
ที่มา.www.assajanprakreang.com

เจอมาครับเลยมาช่วยเพิ่มเติม

“ท่านเป็นพระหนุ่มรูปเดียวที่เคยนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลร่วมกับพระเถระรุ่นเก่า อาทิ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย, หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ, หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า เป็นต้น”

หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู เคยชมว่า “ถ้าแก่กว่านี้อีกหน่อยสมาธิกล้า ใครก็สู้ท่านไม่ได้ พระเก่งวิชาสัก รุ่นเก่าจะเสกของขึ้นมีตัวจริง” หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน บอกตอนเสกพระกับอาจารย์สุพจน์ว่า “มหาอุดหยุดปืนอาจารย์พจน์ลงนะ ส่วนผมเอาเมตตามหาลาภเอง”

ผมบูชาแล้วครับ
ตะกรุดหลวงพ่อสุพจน์ขึ้นชื่อ 1 ใน 4 ตะกรุดขลัง ตะกรุดโทน”
ที่ท่านสืบจากพ่อเฒ่ามือเขาเก้าลูก โยนผ้าให้ยิงก็ยิงไม่ออก ปีนี้ ท่านทำตะกรุดมหาอุดเหนือ
ชั้นชื่อ คงมหากาฬ ลงจารตำรับ “คง” ที่ขึ้นชื่อ ที่อุดปืน หยุดอาวุธ ลงยันต์มหาอุดที่แผ่นตะกั่ว
น้ำนม ม้วนพิเศษ ด้วย นารายณ์ด้นธรณี (เรื่องทุกเรื่องแก้ไขได้ ดุจพลิกฝ่ามือ) ถักเชือกลาย
เอกลักษณ์ของสำนักหลวงพ่อ เวลาเสกท่านลงมหาอุด ตำรับ “คง” (ก่อนและใช้สายสิญจน์
ชักยันต์เป็นยันต์มหากาฬ คลุมตะกรุด ยันต์มหากาฬนี้ เป็นยันต์มหาวิเศษที่ รวมด้านบู้ ทั้งหมด
เหนือดวง ชนะอุปสรรค์ทั้งหมด ชนะเคราะห์ชนะภัยทั้ง หมด ทำยากอย่างนี้ อำนาจของตะกรุด
ดลบันดาลให้ผู้ครอบครองเป็นใหญ่เหนือคนทั่วไป คงทนเขี้ยวงาอาวุธหยุดโรคร้ายเภทภัยนานา
เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ทั้งยังเป็นมหาสะท้อน คือใครคิดร้ายกับเราใครจะทำร้ายเราภัยที่จะเกิด
จะสะท้อนไปสู่ผู้นั้นเอง ระงับภัยทั้งทางบกทางน้ำ ทางอากาศ หลบหลีกภัยได้ แล้วยังกันอาถรรพ์
จำพวกที่ เรามองไม่เห็น

ผมไปกราบท่านมาร่วม 10 ครั้งได้เพราะห่างจากวัดท่านแค่10กิโล ถ้าท่านใดจะไปกราบท่านแนะนำไปตอนเช้าครับ ก่อนเที่ยงเพราะท่านจะไปกิจธุระตอนบ่าย ถ้าโชคดีไปบ่ายก้อาจเจอท่านครับ ส่วนตัวผมไปตอนเช้าครับเพราะเจอแน่นอน ไปทีนึงท่านก็สอนหลักธรรมข้อคิดดีดี ครับนอกจากตระกรุด  เหรียญก็ไม่แพ้กันครับ

cr: http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=12137.0

แชร์เลย

Comments

comments

Share: