อะไรก็ตามถ้าไม่มั่นใจอย่านำมาเข้ากลาง

Aungkool Anan 6 ชม.  ·

✏️ลงไว้เพื่อเป็นข้อพิจารณา หลวงพี่เองก็มิได้เก่งขนาดรู้เห็นเอง แต่ได้คุยกับคนที่ได้ธรรมะ จึงลงไว้เป็นความรู้ประกอบการพิจารณา

📌หลวงพ่ออุบลเคยบอกว่า อะไรก็ตามถ้าไม่มั่นใจอย่านำมาเข้ากลาง ของที่จะนึกน้อมเข้ากลางได้ต้องธาตุธรรมสะอาด เป็นของภาคพระจริงๆเท่านั้น

📍ครั้งหนึ่งเคยนำรูปในอินเตอร์เน็ตที่เป็นรูปลักษณ์ของหลวงพ่อสดในมือถือมาให้ผู้ได้วิชชาดู แล้วก็ถามว่าพระชุดนี้ดีมั้ย ก็ได้คำตอบว่า ดูแล้วรู้สึกแปลกๆ ปกติถ้าเป็นรูปลักษณ์ที่ผ่านวิชชาธรรมกาย จะมีวิชชาเป็นอยู่ภายใน วัตถุธาตุจะมีความใสสว่างมาก ดูแล้วใจจะถูกดึงให้ตกศูนย์เป็นอัตโนมัติด้วยวิชชาที่อยู่ ณ ภายใน แต่สำหรับองค์ในรูปนี้ กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น นอกจากจะไม่ดึงใจให้เข้าศูนย์กลางกายแล้ว การเดินวิชชาภายในก็แปลกๆเหมือนไม่ใช่สายเราเลย…นี้คือคำตอบที่ได้รับมา แต่ก่อนหน้าที่จะส่งให้ดูนั้น ก็เคยได้รับข้อมูลเชิงลบกับผู้สร้างพระชุดนี้มาแล้วเหมือนกัน(แต่ไม่ได้บอกข้อมูลนี้กับผู้ที่ดู) เพื่อความชัวร์จึงไปหาหลวงพ่อและยื่นโทรศัพท์ให้ท่านดูว่า หลวงพ่อสดชุดนี้เอามาบูชาได้หรือไม่ ท่านมองแว๊บนึงก็บอกว่า อย่าเอามาเลย วิชชาข้างในเพี้ยน…

❇️ข้อมูลที่ได้รับจากผู้สร้างคือ ผู้สร้างได้ทำวิชาด้วยตนเอง และบอกว่ามีหลวงพ่อสดมาทำความศักดิ์สิทธิ์ในพระให้ด้วย แต่ความจริงคือสิ่งที่เห็นไม่ใช่ของจริง น่าจะโดนสวมสอดร้อยไส้ในกลางจากอีกภาคให้เห็นแบบนั้น สิ่งที่อยู่ภายในจึงไม่ใช่วิชชาของพระพุทธเจ้าหรือของหลวงพ่อสดจริงๆ หากใครทำบุญแล้วรับมาปฏิบัติน้อมเข้ากลางก็จะส่งผลไม่ดีในการปฏิบัติ อาจจะรู้เห็นไม่ตรงจริงตามอำนาจการบังคับภายในของอีกฝ่าย ถือเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังแม้จะเป็นรูปลักษณ์ของหลวงพ่อสดก็ตาม ถ้าเค้าละเอียดกว่าเรา ก็จะหลอกรู้หลอกญาณเอาได้(ไม่ต้องหลังไมค์มาถามว่าเป็นของที่ใดเน้อ)

————————————————————

📣อีกเรื่องคือเพิ่งได้บูชารูปหลวงพ่อวัดปากน้ำ(สด จนฺทสโร) กระดาษหนังไก่ ปี 2514 มา แต่รูปนี้เจ้าของเดิมดันแปะรูปหลวงพ่อสดกับรูปพระที่ไหนอีกองค์ก็ไม่ทราบเลี่ยมอยู่ในกรอบพลาสติกใสสองด้านมาร่วมกัน

🎯ครั้งแรกถ่ายรูปส่งให้ผู้ที่ปฏิบัติธรรมที่พอรู้พอเห็นดูว่า รูปหลวงพ่อสดปี 14 นี้เป็นไงบ้าง ก็ได้รับคำตอบผ่านไลน์ว่า รูปมีความสว่าง แต่จะสว่างนวลๆไม่สว่างมาก และน่าแปลกที่ไม่ดึงเข้าศูนย์กลาง ปกติเคยดูรูปปี 14 มาจะดึงเข้ากลางตลอด จึงถูกถามกลับมาว่า ด้านหลังรูปมีอะไรอยู่รึเปล่า ก็เลยถ่ายรูปส่งให้ดูว่า ด้านหลังมีรูปพระอีกรูปติดอยู่แต่ไม่รู้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ใด

✅พอเช้ามาก็เลยแกะกรอบพลาสติกออก เอารูปแยกออกจากกัน คราวนี้ถ่ายส่งไปให้ดูใหม่ คำตอบที่ได้คือ รูปสว่างมาก สว่างกว่าเมื่อคืนมาก และพาใจตกศูนย์เข้ากลางตลอดเลย เมื่อพิจารณาดูก็ได้คำตอบว่า ที่เมื่อคืนวิชชาไม่พาเข้ากลางนั้นน่าจะเพราะมีบางสิ่งปนเปนที่ไม่ใช่สายวิชชาติดมาด้วย(คืออีกรูปติดอยู่ด้านหลัง) หลวงพ่อสดจึงไม่ทำให้เข้ากลางเพื่อกันเอาไว้ แต่เมื่อนำรูปแยกออกจากกันแล้ว จึงทำให้เห็นเหมือนตามปกติ คือวิชชาดึงเข้าศูนย์กลางได้อัตโนมัติโดยไม่มีอะไรมาปนเปน…

วิษณุเทพประสิทธิ์ ดาวโชคดี

สมัยก่อนผมก็เคยได้พบเจอเรื่องราวคล้ายๆอย่างนี้จากพระอาจารย์ของผมซึ่งท่านก็เชี่ยวชาญในวิชชาธรรมกาย แต่ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว คือ มีอยู่วันหนึ่งมีโยมมาหาท่านและให้ท่านช่วยตรวจดูเรื่องไปเที่ยววัดๆหนึ่งในแถบจังหวัดจันทบุรีหรือระยองนี่ผมก็จำไม่ได้ คือ ตั้งแต่กลับมาจากวัดก็มีอาการพะอืดพะอมวิงเวียนศีรษะอาการไม่ค่อยดีครับ พระอาจารย์ท่านตรวจดูแล้วก็บอกว่า พระพุทธรูปที่เห็นเป็นพระนั้นบางทีข้างในก็เป็นมารนะโยม มันอยู่ที่เขาใส่อะไรเข้าไปข้างในด้วย จังหวะดวงบุญของโยมมันต่ำในช่วงนั้นๆ พอโยมไปกราบไหว้ขอพรก็จะถูกข้างในองค์พระที่เป็นของดำทำแบบนี้ แล้วท่านก็แนะวิธีแก้ไปครับ

Aungkool Anan วิษณุเทพประสิทธิ์ ดาวโชคดี ตามนั้นเลย สิ่งที่เห็นภายนอกกับภายในอาจไม่เหมือนกัน คน คนที่ปฏิบัติธรรมย่อมเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปไม่เห็น

วิมังสา อิสะวาสุ

ขออนุโมทนากับหลวงพี่ด้วยครับ…ด้วยเรื่องเช่นที่ได้กรุณานำมาบอกกล่าวแก่ญาติธรรมทั้งหลายดังกล่าวแล้ว เป็นเรื่องจริงหลังม่านมายา ซึ่งนับเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างคาดไม่ถึง และหากบังเกิดแก่ผู้ใด ก็ยากที่จะแก้ไขได้ทันท่วงที หากตนนั้นเหินห่างจากกุศลธรรม เสมือนบุคคลปราศจากโล่กำบังคุ้มตน ……. พวกเรื่องฉากหลัง คนมีวิชชาชั้นสูงที่เร็วแรง จึงรู้ได้ทัน แต่ก็บางส่วน มิใช่ทั้งหมด ดังนั้น ครูบาอาจารย์ที่ท่านมีความปรารถนาดีกับศิษย์ทั้งหลาย จึงมักกล่าวเตือนเสมอๆว่า “อย่าประมาท ด้วยประการทั้งปวง”

แชร์เลย

Comments

comments

Share: