เทพประจำองค์พระอรหันต์จกบาตร เล่าโดย ทวีวัฒน์ เติมฤทธิ์ (อู๋) 9 มิย 2559
เทพที่อยู่ในองค์พระอรหันต์จกบาตรก็น่าจะเป็นอดีตทหารที่ตายในสงครามเก้าทัพนั่นเอง ครูบาอาจารย์ในสมัยโบราณท่านก็เลยมีเมตตาช่วยเหลือวีรชนที่ยอมเสียสละชีวิตป้องกันประเทศชาติเหล่านี้ ด้วยการอุทิศบุญกุศลให้พร้อมกับเทศนาสั่งสอนให้แจ้งในธรรมะจนเขาเหล่านั้นได้เกิดใหม่เป็นเทวดา ภายในองค์พระอรหันต์จกบาตรนี้ผู้สร้างจึงได้บรรจุผงกระดูกของนักรบไว้ในองค์พระนั้น ท่านพวกนี้เป็นเทพไปแล้วนะครับ แต่ก็ยังมีความหวงแหนในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อรักษาให้ประเทศไทยดำรงอยู่ได้ ดังนั้นเมื่อเราทำบุญเราก็สมควรที่จะตอบแทนแบ่งส่วนบุญให้ท่านเหล่านี้ด้วย ใครที่แขวนพระอรหันต์จกบาตรนี้ก็ไม่ต้องกลัวเหล่าวิญญาณร้าย-ผีเกเร (โดยเฉพาะในโรงพยาบาลและตามโรงแรมเก่าๆ) เพราะท่านเทพอดีตนักรบจะถือดาบฟาดฟันเหล่าวิญญาณร้าย-ผีเกเรให้เอง
บางท่านกำหนดจิตดีๆ ก็สามารถพูดคุยกับเทพเหล่านี้ได้ ขอโชคขอลาภก็ยังได้ ผมมีน้องคนหนึ่ง (สมมุติว่าชื่อน้องไก่) เขาได้พระอรหันต์จกบาตรจากเพื่อนผมไป 1 องค์ เมื่อเดือนธันวาคม 2555 ที่ผ่านมานี้เอง คุณไก่คนนี้เขาก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้วเพราะเขาได้ธรรมกายชั้นสูง เมื่อได้พระไปก็อธิษฐานทดลองความศักดิ์สิทธิ์ของพระเลย โดยเขาอธิษฐานว่าทราบมาว่าพระนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ถ้าเป็นจริงก็ขอให้ถูกหวยรวยเบอร์เพราะว่าตอนนี้เงินสดขาดมือ ท้าทายพระไปขนาดนั้นเลย น้องไก่เล่าว่าเมื่อกำหนดจิตไปแบบนั้นก็ปรากฏว่าเห็นพระอรหันต์จกบาตรที่อยู่บนหิ้งพระ ท่านขยายขนาดโตขึ้นมาจนเท่ากับคนธรรมดาแล้วก็ลุกเดินมาหาแล้วนั่งลงที่ตรงหน้า พูดคุยกันได้เหมือนคนธรรมดา ถามว่าจะเอาเงินไปทำอะไร
ท่านก็ให้หวยสมใจเพราะน้องไก่ถูกหวยไป 300,000 บาท แล้วก็ยังได้เปอร์เซ็นต์จากการขายที่ให้เพื่อนอีก 300,000 บาท ตกลงภายในเวลาเพียง 2-3 อาทิตย์ พระองค์นี้ให้โชคคุณไก่ไป 600,000 บาทครับ เงินที่ได้มา 600,000 บาทนั้น คุณไก่ก็นำไปเป็นเงินค่าหล่อพระยืนสูง 3.8 เมตร ประมาณ 4 แสนบาท และก็ได้นำพระยืนองค์นี้ไปถวายวัดเรียบร้อยแล้ว ส่วนเงินที่เหลือก็เอาไปทำบุญอย่างอื่นๆ จนหมด ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้คงไม่ได้เกิดเป็นได้กับทุกคนนะครับ แล้วแต่วาสนาบุญบารมีของแต่ละคนด้วย แต่เรื่องการคุ้มครองตัวและเทพสังหรณ์นั้นมีได้กับทุกคนที่เป็นเจ้าของแน่นอนครับ
พระอรหันต์จกบาตรลงยันต์ให้ที่ตัวเจ้าของ
พระอรหันต์จกบาตรนั้นเชื่อกันว่าเป็นพระที่เสกโดยหลวงปู่เทพโลกอุดรยังมีความพิเศษต่างจากพระองค์อื่นๆ อีกคือ ผม (อู๋) ทราบเรื่องนี้โดยไม่มีใครบอกมาก่อน หลวงปู่ท่านมาลงยันต์ที่ตัวให้ผมเองโดยที่ผมก็ไม่ได้คาดคิด หากใครมีความสามารถสัมผัสพลังพระได้ก็ให้นั่งสมาธิแล้วกำพระไว้ในมือ พระท่านจะเหนี่ยวนำมือของเราโดยนิ้วชี้ของเราจะถูกบังคับเหนี่ยวนำให้เขียนยันต์ไปที่ตัวของเรา
เริ่มตั้งแต่กลางกระหม่อม กลางหน้าผาก ตา หู (แยงเข้าไปในหู) จมูก ปาก ลิ้น (ลงจารเข้าไปในปากที่ลิ้นเลย) ตามแขนแล้วมาลงจารที่กลางฝ่ามือ หัวใจ สะดือ ก้นกบ ลงไปจนถึงกลางฝ่าเท้า ท่านจารให้ทั้งตัวโดยท่านจับผมนอนยาวบนพื้น โอ้โหเกิดมาก็เพิ่งได้ลงยันต์ทั้งตัวก็ครั้งนั้นแหละครับ แต่ใช้เวลานานราว 15-20 นาที พอลงเสร็จผมก็นอนหมดแรงเลย …ที่จริงแล้วผู้ที่มาลงยันต์ให้ท่านก็คือหลวงปู่เทพโลกอุดรนั่นเอง
นอกจากนั้นพระอรหันต์จกบาตรก็ยังเลือกเจ้าของอีกด้วย ถ้าใครไม่มีศีลได้ไปก็เอาพระไว้ไม่ได้เพราะมีเรื่องเล่ากันมาว่า เขาจะเห็นเป็นทหารโบราณเดินถือดาบอยู่หน้าบ้าน เดินไปเดินมาทั้งคืนหน้าตาดุดันน่าเกรงขามจนเขาต้องนำพระไปถวายวัดไม่กล้าเอาไว้ที่บ้าน ผิดกับผู้ที่มีศีลจะเห็นเป็นเทวดาแต่งชุดชาวเรียบร้อยหน้าตาใจดีมาขออยู่ด้วยเพื่อสร้างบารมีร่วมกัน
บางคนมาถามผมว่าผมไม่กลัวนักรบพวกนี้หรือ ผมก็ตอบไปว่า “จะบ้าหรือ เขาเหล่านี้ยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อให้พวกเราได้มีชาติ ได้มีประเทศอยู่อาศัยมาจนทุกวันนี้ แล้วผมจะลืมพระคุณของนักรบเหล่านี้ได้อย่างไร” ผมกลับรู้สึกอุ่นกายอุ่นใจเพราะมั่นใจว่าท่านมาช่วยคุ้มครองป้องกันภัยให้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็น Bodyguard ชั้นหนึ่งเลยทีเดียว
หมายเหตุ : พระองค์ในรูปตอนนี้ไม่ได้อยู่กับผมแล้ว เพราะหลวงปู่สรวง “เทวดาเล่นดิน” ได้ขอพระองค์นี้กับผม ผมจึงตัดสินใจถวายท่านไปแล้ว
เพิ่ม ป๋าหน่อย
คนที่พี่อู๋พูดถึงว่าคุณไก่ได้พระ จากเพื่อนผมนั่นก็คือตัวผมเอง ผมปล่อยให้กุ๊กไก่ ไปราคา 15,000 บาทเท่าที่เช่ามา ในตอนนั้น