เมื่อเวลาปฏิบัติธรรม พอจิตเริ่มเป็นสมาธิจะเห็นความสว่างเกิดขึ้นบริเวณท้อง เป็นความสว่างโล่งๆ จะต้องทำอย่างไรต่อไป ?
ตอบ:
เมื่อเวลาปฏิบัติธรรม เห็นความสว่างเกิดขึ้น อาจเหมือนดวงจันทร์ หรือความสว่างพอสมควร นั่นแสดงว่าเริ่มใช่แล้ว ใจเริ่มหยุดใกล้ๆ กับฐานที่ตั้งของใจ ตรงกำเนิดธาตุธรรมเดิม จึงปรากฏมีความสว่างขึ้น อาจเห็นข้างหน้า
หรือรอบๆ ตัว เป็นของจริงทั้งนั้นแต่ยังไม่แท้ จะแท้ก็ต่อเมื่อใจหยุดนิ่งตรงกลางกำเนิดธาตุธรรมเดิม (ฐานที่ 7) จะเห็นดวงใสสว่างขึ้นมา เป็นดวงปฐมมรรค นั่นแหละของแท้ แต่เป็นของแท้โดยสมมุติ คือ เป็นดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ซึ่งยังจัดเป็นสังขารนิมิตอยู่
ถ้าเห็นอย่างที่กล่าวมา ให้กำหนดนึกหยุดนิ่งที่ศูนย์กลาง หรือกำหนดตั้งศูนย์กลางไว้ พร้อมอธิษฐานขอให้เห็นศูนย์กลางที่ใส และขยายศูนย์กลางออก แต่อย่าเพ่งแรง พอศูนย์กลางขยาย ในไม่ช้าก็จะเห็นดวงใสสว่างขึ้นมา แต่ถ้าเราเผลอง่วงหรือเผลอสติ ความมืดจะเข้ามาแทนที่เป็นธรรมดา นั่นคือกิเลสนิวรณ์ เพราะฉะนั้นขอให้มีสติว่า กิเลสนิวรณ์จะเกิดขึ้น วิธีแก้โดยการนึกให้เห็นจุดเล็กใสตั้งขึ้นมาใหม่ แล้วอธิษฐานขยายศูนย์กลางจุดเล็กใสนั้น ดวงก็จะปรากฏใสสว่างขึ้น ให้หมั่นนึกเข้ากลางของกลางจุดเล็กใสนั้นไว้เรื่อยๆ ให้ใจหยุดในหยุดกลางของหยุดอย่างสม่ำเสมอ อย่าเพ่งแรง นึกเข้ากลางของกลาง หยุดในหยุดอย่างต่อเนื่อง ก็จะเห็นศูนย์กลางใสขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งความมืดหมดไป (ที่เรียกว่า ธัมโม ปทีโป ความสว่างของธรรมที่สว่างเปรียบประดุจ ดังประทีปหรือดวงอาทิตย์)
หลักสำคัญ กำหนดใจให้เห็นจุดเล็กใสตรงศูนย์กลางกาย แล้วค่อยๆ อธิษฐานขยายจุดเล็กใสขึ้น อย่าให้ใจเคลื่อนจากศูนย์ ความมืดก็จะหายไป ความสว่างก็จะปรากฏขึ้นแทนที่ อย่าใช้สายตาเนื้อ เพราะจะปวดตา และไปแย่งหน้าที่ของตาใน หมั่นจดใจอยู่เสมอทุกขณะ เดิน ยืน นั่ง นอน ก็จะเห็นดวงในดวง แล้วต่อไปก็จะเห็นกายในกายต่อไปเอง