เมื่อเราจะเข้ามาบำเพ็ญบารมี เราต้องฝืนอำนาจของกิเลสมารและบ่วงมาร

ป่ามงคลธรรม อ.สีคิ้ว 3 ชม.  ·

เมื่อเราจะเข้ามาบำเพ็ญบารมี เราต้องฝืนอำนาจของกิเลสมารและบ่วงมาร คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นั้นแหละ ต้องฝืนให้ได้ ถ้าฝืนได้เราก็ชนะ

เหมือนชิงแชมป์มวยนั่นแหละ ตอนแรกก็ชนะหน่อยนึง เป็นแชมป์บ้านนอก ถัดมาก็แชมป์มีอันดับของเขาในประเทศ แล้วก็แชมป์ภาค แล้วก็แชมป์ต่างประเทศ แล้วก็จะถึงแชมป์โลก ก็จะมีคู่ต่อสู้ของเราที่หนักๆยิ่งๆขึ้นไปตามลำดับ นี้เป็นของธรรมดา ต้องรู้เท่าทัน เราก็ต้องสู้ อย่านึกกลัว

เพราะว่าสู้หรือไม่สู้ เราก็ต้องตาย ใช่ไหม ต้องตายแหงๆอยู่แล้ว เพราะว่ากายของเราทั้งหมด มารเขาปรุงอยู่แล้ว มีฝ่ายบุญฝ่ายสัมมาทิฏฐิอยู่ส่วนหนึ่ง หน่อยเดียวเท่านั้นเอง นอกนั้นเป็นฝ่ายของมารเขาปรุงขึ้นมาเป็นสังขาร เป็นเบญจขันธ์ เป็นนามรูป จึงต้องมีสภาพที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ถ้าไม่งั้นไม่ต้องตายสิ ที่ต้องตายนี่ มารเขาปรุงขึ้นจากปัจจัยต่างๆ นี่เค้าปรุงแต่งตลอดหมดทั้งภพ 3 ต่อให้เป็นอรูปพรหมมีอายุนานเท่าไหร่ๆ พระพุทธเจ้ามาตรัสตั้งหลายองค์ก็ไม่ตายเสียที ลงท้ายก็ตาย แต่ว่านานกว่าจะตายเท่านั้นเอง

สัตว์โลกทั้งหมดในภพสามนี่มารเค้าปรุงขึ้นทั้งนั้น แต่ว่าเขาปล่อยให้ฝ่ายบุญมาร่วมปรุงด้วย เลยได้เข้าถึงสุคติกันพอสบายหน่อย

เพราะฉะนั้น ใครจะพ้นโลกไปนิพพาน เขาจึงไม่ปล่อยไปง่ายๆ บางทีพระดังๆถ้าเผลอสติก็เสร็จภาคมารเขา ถ้าเห็นผู้หญิง มองตาเชื่อม หรือว่าใช้คำพูดหวานๆกับผู้หญิง ก็เสร็จเขานั่นแหละ ไม่มีปัญหา ถ้าไม่รีบทำให้ดีในชาตินี้ ท่านจะลำบากอีกต่อไปนับภพนับชาติไม่ถ้วน

พระเทพญาณมงคล

อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

…………………………………………………………..

สู้”มีคติเป็น สอง ไม่แพ้ ก็ ชนะ

“หนี”มีคติเดียว คือ แพ้ลูกเดียว

แต่ถ้า “ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป”

มีแต่ ชนะ อย่างเดียว

โอวาทธรรมหลวงพ่อวัดปากน้ำ สด จันทสโร

แชร์เลย

Comments

comments

Share: