เรื่องเล่าหลวงปู่ทองทิพย์ “พระพุทธเจ้าเสด็จมารับบิณฑบาต”

Wits Mohrarsii ผู้ชื่นชอบพระของขวัญวัดหลวงพ่อสดฯ แลกเปลี่ยนความรู้-สอบถาม-บูชา-ประมูล

เรื่องเล่าหลวงปู่ทองทิพย์ “พระพุทธเจ้าเสด็จมารับบิณฑบาต” (ปัจจุบันคือพื้นที่ข้ามฝั่งสะพานพุทธฯมายังพระบรมรูปพระพุทธยอดฟ้า)
:: ปรารภเหตุ
ท่านเล่าให้ฟังว่า….คนสมัยก่อนบรรลุธรรมง่าย เพราะว่า “เป็นคนมีบุญ คนมีบุญจะว่าง่ายสอนง่าย” คนสมัยนี้ ว่าอยากสอนยาก คิดว่าตัวเองเก่ง ให้สังเกตพวกคนจีนในไทยปัจจุบันนี้ เกิดมาร่ำรวย เพราะในอดีตพระพุทธเจ้าได้ให้พรไว้ ส่วนคนไทย-ลาวจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก เพราะทำ(บุญ)มาน้อย
ท่านว่า…
ตอนนั้น พระพุทธเจ้าจะเสด็จข้ามแม่น้ำ (แม่น้ำเจ้าพระยามายังบริเวณสะพานพุทธ) คนกลุ่มที่หนึ่ง ได้เห็นพระพุทธเจ้ากำลังจะเสด็จข้ามฝั่งแม่น้ำมา จึงขวนขวายช่วยกันหาเรือให้ข้าม โดยได้ชักชวนคนที่อยู่แถวๆ นั้น อีกพวกหนึ่งบริเวณใกล้ๆ กัน (ซึ่งกำลังทำไร่ไถนาอยู่ด้วยกัน) ให้มารับเสด็จพระพุทธเจ้าด้วย คนกลุ่มที่สองนี้ ไม่ขวนขวายที่จะช่วย พากันพูดว่า
“เดี๋ยวก่อนๆๆ ไถนาอยู่ ปลดไถอยู่” “เดี๋ยวก่อนๆๆๆ หาปลาอยู่” ฯลฯ
คนกลุ่มที่หนึ่งได้พากันนำเสด็จพระพุทธองค์ข้ามแม่น้ำมาแล้ว จึงชวนกันนิมนต์ให้ทรงประทับนั่ง แล้วถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้า (บริเวณที่พระพุทธองค์ทรงประทับนั่ง ปัจจุบัน คือ บริเวณพระบรมรูปพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) และได้ชักชวนให้คนกลุ่มที่สองมาถวายภัตตาหารด้วยเช่นกัน ว่า
“เพื่อนเอ้ยมาใส่บาตรด้วยกัน พระพุทธเจ้ามาโปรดพวกเราแล้ว”
คนกลุ่มที่สอง พูดว่า “เดี๋ยวก่อนทำธุระยังไม่เสร็จ”
เมื่อพระพุทธองค์กระทำภัตตกิจเสร็จแล้ว คนกลุ่มที่สองจึงได้นำข้าวมาถวายบ้าง (อาหารไม่ประณีต มีแต่โคลนมีแต่ตม)
ด้วยอานิสงส์นี้ คนกลุ่มแรก (คนจีนในปัจจุบัน) จึงเจริญด้วยปัจจัยสี่ ส่วนคนกลุ่มที่สอง (คนไทย-ลาว) มีอาชีพทำไร่ไถนาดำรงชีพ (ไง้ขี่ดินหาอยู่หากิน) การได้พบพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งประเสริฐ คนกลุ่มแรก เมื่อได้เห็นพระพุทธเจ้า ไม่ลังเลสงสัยในการทำบุญ และยังได้ทำบุญถูกเนื้อหาบุญอันดีด้วย ส่วนคนกลุ่มที่สองเห็นพระพุทธองค์เหมือนกัน แต่ไม่ขวนขวายที่จะทำความดี (คาต๊ะยาก ขามีแต่ขี่ตม) ผ่านมา 2 พันกว่าปี … กลุ่มคนทั้งสองกลุ่มนั้น ยังคงมาเกิดบริเวณในพื้นที่ๆ เดียวกัน แต่ความเป็นอยู่และอัธยาศัยยังคงแตกต่างกัน

แชร์เลย

Comments

comments

Share: