เรื่อง เล่าจากพิธียกยอดฉัตรมหาเจดีย์สมเด็จฯ

เรื่อง เล่าจากพิธียกยอดฉัตรมหาเจดีย์สมเด็จฯ (ตอนที่ 1 )     18/8/62

Credit: คุณสมชาย เทียมบุญประเสริฐ

   ผมได้รับการบอกเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันบรรจุพระยอดฉัตรและยกยอดฉัตร พระมหาเจดีย์สมเด็จฯ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562 จากรุ่นน้องที่ผมได้ชักชวนเข้ามาปฏิบัติธรรมในสายหลวงปู่วัดปากน้ำฯ เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว โดยมีพระอาจารย์จากทั้งวัดหลวงพ่อสดฯและวัดปากน้ำเป็นผู้ชี้แนะ ซึ่งมีผลปฏิบัติธรรมก้าวหน้าเป็นลำดับตามบุญบารมีแห่งตน สิ่งที่รุ่นน้องได้รู้เห็นและเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่ผ่านมา ยังพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เพราะเป็นคุณธรรมที่ว่า “ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ” แปลว่าธรรม(อันผู้บรรลุ)จะพึงรู้เฉพาะตน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ คงพอได้ยินกันมาบ้างแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้หากจะสร้างศรัทธาแก่ผู้อ่าน เพื่อการขวนขวายปฏิบัติธรรมให้ได้รู้ ได้เห็นและเกิดปัญญาในกาลข้างหน้าได้ก็นับว่าเป็นบุญเป็นกุศล ส่วนหากท่านไม่เชื่อเพราะยังพิสูจน์ไม่ได้ ก็ขอให้วางอุเบกขา รอกาลเวลาพิสูจน์ไปก่อน และขอเรียนว่าเรื่องเล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์หรือพระสงฆ์ของวัดหลวงพ่อสดฯ แต่ประการใด เป็นบทความที่ผมนำมาเรียบเรียงจากเรื่องเล่ารุ่นน้องที่ชื่อย่อว่า “ศักดิ์” ครับ   

       วันนี้เป็นวันที่ผมนัดกับศักดิ์และครอบครัวของศักดิ์จะไปเจอกันในงานบุญใหญ่บรรจุพระยอดฉัตรและยกยอดฉัตรที่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายารามกัน ในวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562 ศักดิ์ได้เตรียมตัวมาอย่างดี คือพักผ่อนให้เพียงพอการ​ นอนของศักดิ์จะหลับไปพร้อมกับการบริกรรมภาวนา สัมมาอรหัง​ จนภายในกายใสสว่างก็เข้ากลางองค์พระ​ หรือสวดสวดมนตร์​ อีติปิโสไปเรื่อยๆ จนหลับ เท่ากับว่าจิตมีสติตื่นอยู่ในเวลาหลับ

        ช่วงพิธีพราหมณ์ภาคเช้า 9.00-11.30 น.

        ศักดิ์และครอบครัวได้เข้าร่วมพิธีบวงสรวงตามพิธีพราหมณ์ สาธุชนทยอยมาร่วมพิธี​ ขณะที่ท้องฟ้ามีเมฆครึ้มๆ นิดหน่อยปนฟ้าใส​ พร้อมละอองฝนโปรยปรายจากบนฟ้าเสมือนมีน้ำทิพย์ที่มาช่วยดับความร้อนของแสงแดด ศักดิ์ได้น้อมใจเข้าสมาธิสู่ศูนย์กลางกาย ใจหยุดนิ่ง​ ก็พบความสว่างไสวของอาณาบริเวรมหาเจดีย์ที่เปล่งรัศมีออกไปทั่วจังหวัดราชบุรี ครอบคลุมถึงไปอาณาใกล้เคียง​ มีทั้งกายทิพย์ของเหล่าเทวดา​ ที่ทยอยเข้ามาร่วมกราบบูชามหาเจดีย์จำนวนมากมาย ด้วยความปิติสุขในมหาบุญอันยิ่งใหญ่ในวันนี้ที่บังเกิดในภพมนุษย์       

        ช่วงพิธีบรรจุพระยอดฉัตรและยกยอดฉัตร 13.30-15.00 น
        ถึงแม้พิธีจะทอดเวลาออกไป เพื่อรอความพร้อม ศักดิ์ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไป ได้ใช้เวลานั้นทำสมาธิ ทำใจหยุดนิ่งเข้าศูนย์กลางกายสิ่งที่เห็นในสมาธิคือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงมาอนุโมทนานับพระองค์ไม่ถ้วน​ เปล่งแสงรัศมีฉัพพรรณรังสีออกมาจากศูนย์กลางองค์ของพระพุทธองค์สว่างไสวครอบฟ้าครอบแผ่นดินทั้งโลกธาตุ​ แผ่บุญบริสุทธิ์ผุดผ่องสว่างไสว​ สอดลงกลางศูนย์กลางกาย​ของสาธุชนผู้มีบุญทุกๆ คนที่อยู่ในพิธี เหล่าเทพเทวาที่มาร่วมในพิธี​ก็มีกายสว่างไสว​ผุดผ่องใส เช่นเดียวกัน พิธีบรรจุพระยอดฉัตรเสร็จก็ต่อด้วยเครนที่ดึงยอดฉัตรที่โยงสายสิญจน์ขึ้นสู่ยอดที่ได้นำฐานฉัตรไปรออยู่แล้ว พร้อมกับเสียงสวดมนต์ชยันโตในปรัมพิธี เมื่อยอดฉัตรเคลื่อนลอยสู่ยอด รัศมีแห่งบุญสว่างซ้อนทับลงไปในทุกกายของกายในกายของทุกๆคนทั้ง​ มนุษย์​และ​เทพเทวาโดยเฉพาะเหล่าเทวดาเจ้าของบุญ (ที่ญาติอุทิศให้) กายจะใสละเอียดขึ้นทันที บุญที่เกิดขึ้นมีพลังมากมายมหาศาล​ส่องแสงสว่างบริสุทธิ์ผ่องใส อบอุ่นแสงนวลตา​ ดุจดวงอาทิตย์รวมกันเป็นล้านดวงทีเดียว นับเป็นความอัศจรรย์ที่ศักดิ์เองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน

(โปรดติดตามอ่านตอนที่ 2 )

เรื่อง เล่าจากพิธียกยอดฉัตรมหาเจดีย์สมเด็จฯ (ตอนที่ 2 )   18/8/62

        ดังที่เคยแจ้งไว้ว่าผมได้รับการบอกเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันบรรจุพระยอดฉัตรและยกยอดฉัตร พระมหาเจดีย์สมเด็จฯ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562 จากรุ่นน้องที่ชื่อย่อว่า “ศักดิ์”  เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่ผ่านมา แม้ยังพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เพราะว่าเป็น “ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ” แปลว่าธรรม(อันผู้บรรลุ)จะพึงรู้เฉพาะตน ฉะนั้นเรื่องนี้หากจะสร้างศรัทธาแก่ผู้อ่าน เพื่อการขวนขวายปฏิบัติธรรมให้ได้รู้ ได้เห็นและเกิดปัญญาในกาลข้างหน้าได้ก็นับว่าเป็นบุญเป็นกุสและขอเรียนว่าเรื่องเล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์หรือพระสงฆ์ทางวัดหลวงพ่อสดฯ แต่ประการใด เป็นบทความที่ผมนำมาเรียบเรียงจากผู้ปฏิบัติธรรม

เทวดาต่างทยอยมากราบบูชาพระมหาเจดีย์
        ภายหลังเสร็จพิธี ศักดิ์ได้เดินทางกลับบ้านด้วยความอิ่มเอิบในบุญและสิ่งที่ได้พบเห็น ในค่ำคืนนั้นศักดิ์ได้นั่งสมาธิ ช่วงเวลา 23.00 -​ 24.30 น. จนเมื่อจิตใสสะอาดบริสุทธิ์ดีแล้ว ก็น้อมเข้าศูนย์กลางกายเพื่อดูที่พระมหาเจดีย์สมเด็จฯ ที่ได้ไปทำบุญมา สิ่งที่ได้พบเห็นในสมาธิมีเทวดามากมาย​ ทยอยกันเข้ามากราบบูชาพระมหาเจดีย์สมเด็จฯ ดุจสายน้ำไม่ขาดสาย เทวดา​เมื่อมาถึง​จะเข้ากราบพระเจดีย์​และเวียนประทักษิณแล้ว​ กายจะสว่างใสผุดผ่องรัศมีกาย​ (เหมือนแสงออร่า)​ จะสว่างไสวออกมาประมาณ​ 1​ คืบ พร้อมกับ​เครื่องทรงที่สวมใส่ก็จะ​ผุดผ่องใส​ สว่างไสว​มากขึ้นด้วย งดงาม​ดุจเพชรเมื่อต้องประกายแสงไฟ

กายทิพย์ของเทวดา​แต่ละองค์องค์​ เมื่อ​เข้ากราบบูชามหาเจดีย์สมเด็จฯ  มี​แสงแห่งบุญส่องแสงสุกใสสว่างมาจาก​ ณ.มหาเจดีย์​ปรากฏฉัพพรรณรังสีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศทุกทางด้วย​ พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ​ และ​สังฆานุภาพ​ ของพระมหาเจดีย์ อันไม่มีประมาณเสมือนนำดวงอาทิตย์มัดรวมกันล้านดวงถวายบูชารอบพระมหาเจดีย์ เทวดาทั้งหลายต่างมีจิตที่มีความปิติเบิกบานในมหานิสงฆ์แห่งบุญใหญ่ที่ได้มากราบพระมหาเจดีย์​ฯ และ​กล่าวอนุโมทนาสาธุการ ในหมู่เทวดาที่ศักดิ์ได้เห็นในสมาธิมี คุณแม่ของศักดิ์​ ส่วนคุณพ่อ อากง อาม่า​ หมู่ญาติ  ก็ทยอยมาเข้ากราบพระมหาเจดีย์ฯ​ ตาม​อธิษฐานจิต​ ที่ศักดิ์ได้อุทิศถึงทุกๆ คน​ ตอนที่​ พระสวดอนุโมนาคาถา​ ในตอนบ่าย

บทความที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้อย่างน้อยก็จะขอยืนยันว่า เจ้าภาพผู้สร้างมหาเจดีย์ บรรจุองค์พระ บุญส่วนอื่น​ ทุกๆท่านที่ได้ถวายสำเร็จแล้ว​ ทุกคำอธิษฐาน บุญที่อุทิศ​ถึงหมู่ญาติ คุณครูอุปัชฌาอาจารย์​ ที่ตั้งจิตไว้ดีแล้ว​ นั้นส่งตรงถึงกายทิพย์ของหมู่ญาติตามจิตอธิษฐานและการอุทิศบุญนี้ถึงทุกๆ คน กายทิพย์ของหมู่ญาติของเจ้าภาพแต่ละท่านที่ระบุชื่อ, เทวดาที่มาร่วมอนุโมทนาบุญบางท่านที่บุญเต็มเปี่ยมแล้ว​ เมื่อเข้ากราบมหาเจดีย์และเวียนประทักษิณแล้ว กายเปลี่ยนไปตามกำลังบุญที่สูงขึ้นก็มี ขอให้เจ้าภาพทุกๆท่านทำใจให้ใส​และ​นั่งสมาธิ​ต่อไปอย่าได้ท้อถอย เพราะหนทางแห่ง มรรค ผล นิพพาน รออยู่เบื้องหน้าแล้วครับ

…………………………………………..

เรื่องเล่าจากพระมหาเจดีย์สมเด็จฯ (ตอนที่ 3)

ในขณะที่มหาเจดีย์กำลังก่อสร้าง ตามนุษย์จักมองเห็นเพียงโครง เหล็ก อิฐ หิน ปูน ทราย ที่ก่อรูปสร้างเป็นองค์มหาเจดียฺ์ เพียงเท่านั้น แต่ตาทิพย์ของเหล่าเทพ เทวดา ทุกองค์จะมองเห็นมหาเจดีย์ฯ ที่ผุดผ่องใสเป็นผลึกแก้วจุยเจียที่ใส ส่องสว่างด้วยอนุภาคของมวลสารแก้วตั้งแต่ฐานของพระมหาเจดีย์ ก็เป็นผลึกแก้วจุยเจียใส องค์มหาเจดีย์ก็เป็นผลึกแก้วจุยเจียใส มุขทั้ง 8 ทิศ ก็เป็นจุยเจียแก้วใส ยอดฉัตรก็เป็นจุยเจียแก้วใส พระมหาเจดีย์เปล่งแสงแห่งบุญที่บริสุทธิ์ผุดผ่องสว่างใส  แผ่รัศมีออกมารอบ 360 องศา กว้างไกล สุดสายตา มีพลังงานดุจดวงอาทิตย์ที่มัดรวมกันเป็นล้านดวง ส่องแสงแห่งบุญเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้สรรพสัตว์ได้มากราบไหว้บูชามหาเจดีย์แทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระรัตนตรัยที่มีพุทธานุภาพไม่มีประมาณ  สรรพสัตว์ทั้งมนุษย์  เทวดา พรหม สรรพสัตว์ในอบายภูมิมากมายต่างก็มุ่งแสวงหาความเป็นมงคล ที่จะเป็นบุญแห่งตน

สัตว์โลกที่เวียนว่ายในวัฏสงสารหลายล้านชาติที่ได้เกิดขึ้นมาได้อัตภาพเป็นมนุษย์แล้ว การได้มากราบ บูชาพระมหาเจดีย์ที่ประดิษฐานขององค์พระบรมสาริกธาตุ ของพระสัมมมาสัมพุทธเจ้า พระนั่งเมืองแก้วฯ รูปหล่อหลวงปู่สดและพระพุทธรูปสำเร็จด้วยหินรัตนชาติที่ยอดฉัตร.. จักนับเป็นบุญใหญ่ที่เป็นอัปมานัง… มีอานิสงฆ์มากมาย.. เพราะเสมือนหนึ่งได้เข้ากราบสักการะบูชาพระพุทธองค์จริง ๆ สรรพสัตว์ที่มีบุญเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสได้เข้ากราบสักการะบูชา บางคนรอ พันชาติ หมื่นชาติ แสนชาติ ล้านชาติ ตายแล้วเกิด.. เกิดแล้วตาย จนกระดูกกองเป็นภูเขา ถึงจะได้เข้ากราบบูชาตัวแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ.มหาเจดีย์ ที่ สร้างขึ้้นในมนุษยโลกนี้.

แชร์เลย

Comments

comments

Share: