เหรียญพระภาวนาวิสุทธิคุณ (หลวงป๋า) รุ่นดับไฟใต้ ปี 2547
เล่าเรื่อง เหรียญดับไฟใต้ เล่าโดยคุณเก้า @Preecha Ekaranpong
วันนี้ เล่าเรื่องเหรียญดับไฟใต้ ให้หลวงป๋าฟัง หลวงป๋าบอกว่าให้เอาไปลงไว้ในหนังสือ … เลยเอามาเล่าให้ท่านอื่นฟังไว้ ณ ที่นี้
เหตุการณืนี้ เกิดขึ้นหลังจากมัสยิดกรือเซะ ถูกวางระเบิด 3-4 เดือน มีอยู่วันหนึ่ง ผม (ปรีชา / ชื่อเล่น เก้า) ไปวัดหลวงพ่อสด เมื่อถึงวัดก็เดินขึ้นประชาสัมพันธ์ เพื่อขึ้นไปทำบุญ … พอขึ้นไปถึงบนศาลา เห็นตำรวจทั้งในเครื่องแบบ และชุดครึ่งท่อน คือ ใส่เสื้อยืด กับกางเกงสีกากี เกือบร้อยนาย จนเต็มศาลาไปหมด
ในเวลานั้น ผมคิดว่า คงมีเหตุร้าย หรือมีโจรมีงัดของมีค่า แล้วทำร้ายพระที่นอนเฝ้า … จึงเดินไปถามตำรวจนายหนึ่งว่า
ผมถาม : พี่ มาทำอะไรกัน … มีเหตุร้ายอะไรหรอ
นายตำรวจตอบ : มาเช่าพระเหรียญดับไฟใต้
ผมถาม : มีดีกว่านั้นอีก ผมแนะนำเพิ่มเงินอีกนิด ได้พระเหล็กไหล หรือแหวนเหล็กไหลก็ได้
นายตำรวจตอบ : ไม่เอา ผมจะเอาเหรียญดับไฟใต้เท่านั้น
ผมถามต่อแบบกวน ๆ ว่า : เหรียญนี้ มีดีอะไร
นายตำรวจเล่ายาวเลยคราวนี้ … แล้วบอกว่า วันที่มัสยิดกรือเซะ ถูกวางระเบิด เป็นเวลาประมาณ สองทุ่ม นายตำรวจท่านนี้ เป็นกลุ่มแรกที่เข้าไปตรวจดูสถานการณ์ (ตำรวจตะเวนชายแดน จะเป็นกลุ่มแรก เมื่อเหตุการณ์เรียบร้อย ทหารจึงเข้าไปเคลียร์พื้นที่ต่อไป)
ในเวลานั้น เมื่อเกิดระเบิด ไฟดับจนมืดสนิท เมื่อตำรวจตระเวนชายแดนกลุ่มนี้เดินเข้าไประยะหนึ่ง ก็มีเสียงปืน M16 ยิงเข้ามารอบด้าน (เห็นแต่แสงไฟจากกระบอกปืน และเสียงเท่านั้น)
สักครู่ มีกระสุนยิงมาโดนหน้าอกด้านซ้าย บริเวณหัวใจ … ด้วยสัญชาติญาณว่าถูกยิง จึงล้มทั้งยืน แล้วคิดว่า เราถูกยิง อีกสักครู่คงจะตาย จึงนอนอยู่ในท่านั้น
เมื่อเสียงปืนสงบลงสักครู่ ก็มีแต่เสียงโอดครวญของตำรวจที่ถูกยิง จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงคนพูดภาษายาวี เข้ามาพลิกศพตำรวจทีละนาย แล้วใช้ปืนพกยิงศรีษะตำรวจที่ยังไม่ตายทีละนาย
นายตำรวจท่านนี้ รู้ทันทีว่า มันเข้ามายิงซ้ำ … จึงดึงศพที่อยู่ข้าง ๆ มาทับตนเองไว้ แล้วแกล้งนอนนิ่ง ๆ เหมือนคนตาย … โจรกลุ่มนั้น จึงเดินไปที่ตำรวจที่ร้องครวญคราง แล้วยิงคนที่ยังมีชีวิตจนหมด ยกเว้นนายตำรวจท่านนี้ เพราะคิดว่าตายไปแล้ว
เวลาผ่านไปนานพอสมควร (ประมาณตีสี่) นายตำรวจท่านนี้ ได้ยินเสียงทหารไทย เข้ามาตรวจพื้นที่ จึงขยับตัว แล้วตะโกนเบา ๆ ว่า “ช่วยด้วย“ จากนั้น ทหารนายหนึ่งเห็นว่ามีคนรอด จึงคว้าตัวขึ้นมา แล้วเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย เห็นเหรียญดับไฟใต้ จากนั้นกระชากเสื้อจนกระดุมหลุด แล้วเปิดหน้าอก ปรากฏว่า ไม่มีเลือด ไม่มีรอยกระสุน มีเพียงแค่รอยช้ำเป็นรูปเหรียญ แต่ที่เหรียญ ไม่มีความเสียหายจากกระสุนปืน M16 เลย ทั้ง ๆ ที่กระเป๋าเสื้อด้านหน้าทะลุเป็นรูกระสุนปืน
ในเหตุการณ์นี้ มีตำรวจตระเวนชายแดนท่านนี้รอดเพียงนายเดียว
นายตำรวจท่านนี้เล่าให้ผมฟังว่า ปกติแล้ว เค้าจะนับถือพระมาก เมื่อได้พระมา จะนำไปไว้ที่สูง หรือไม่ก็บนหิ้งพระ … แต่วันที่หลวงป๋า เอาพระไปแจกนั้น เค้าบอกว่า ไม่รู้จัก และไม่ค่อยสนใจ เมื่อได้รับพระมา ก็เอาใส่กระเป๋าเสื้อไว้จนลืม แล้วพระก็อยู่ในเสื้อตลอดเวลา
เมื่อกลับไปถึงที่พัก ทหาร และตำรวจในค่าย ต่างมาถามหาของดี ก็ไม่มีอะไรเลย มีเพียงแค่เหรียญดับไฟใต้เพียงองค์เดียว หลังจากนั้น เมื่อผลัดเปลี่ยนกำลังพลกลับส่วนกลาง … ทหาร และตำรวจชุดนั้น ได้พากันมาหาเหรียญดับไฟใต้ ที่วัดหลวงพ่อสดฯ
ในสมัยนั้น เหรียญดับไฟใต้ (ด้านหน้าเป็นรูปหลวงป๋า) มีคนทำมาให้หลวงป๋า เพื่อนำไปแจกทหาร ตำรวจ ที่ถูกลอบยิงเป็นจำนวนมาก หลวงป๋าเห็นแล้วสงสาร จึงนำเหรียญนี้ไปแจก เพื่อให้รอดจากภัยจากศาสตราวุธ
ในเวลานั้น ผมเห็นเหรียญ ก็ไม่สนใจ เพราะไม่สวย แถมทำแบบประหยัด เพราะแจกฟรี แล้วก็ทำไม่เรียบร้อย คือ บางองค์มีรอยคม บางองค์มีเศษโลหะโผล่ขึ้นมา แล้วบาดมือ … อีกทั้ง หลวงป๋าทำวิชชาแบบพื้น ๆ คือ ไม่เน้นอะไรมาก เพียงแค่อธิษฐานจิตเล็ก ๆ น้อย ๆ และรีบเร่ง เพราะจะรีบนำไปแจก ผมจึงไม่สนใจที่จะมีเก็บไว้
เมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้ว ทำให้ผมคิดว่า ขนาดเหรียญที่ธรรมดา ๆ แบบนี้ ยังมีพุทธคุณสูงขนาดนี้ (ด้วยวิชชาธรรมกาย) แล้วเหรียญรูปเหมือนหลวงป๋า ที่กำลังทำเป็นเนื้อวัชรธาตุ / สุริยันราชา / หรือช่อทิพย์เงินยวง จะแรง และดีกว่าขนาดไหน
วันนี้ ที่เรือนรับรอง หลวงป๋า บอกว่า ห้อยแค่เหรียญหลวงป๋า เนื้อวัชรธาตุ กับกริ่งสัมมา อะระหัง แค่นี้ก็พอแล้ว
หมายเหตุ … วันนี้ (28 ต.ค. 2558) พี่อู๋ นำพระเหรียญรูปเหมือนหลวงป๋า เนื้อวัชรธาตุ จำนวน 300 องค์ มาถวายหลวงป๋า เพื่อให้หลวงป๋านำไปอธิษฐานจิตในวันอาทิตย์นี้ ในพิธีหล่อพระเหล็กไหล 19 นิ้ว 3 เนื้อ 3 องค์