โลกนี้จะมีซักกี่คนที่หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านประทานอาหารมาให้ เล่าโดย ทวีวัฒน์ เติมฤทธิ์ (อู๋) 1 พ.ย.59
เมื่อราวๆ 20 ปีที่ผ่านมา คืนหนึ่งผม (อู๋) มีนิมิตที่แปลกประหลาดและมหัศจรรย์มาก ในนิมิตนั้นผมไม่รู้ว่าไปยืนอยู่ในสถานที่แห่งใดแต่คงไม่ใช่ดินแดนของมนุษย์แน่ เพราะในที่แห่งนั้นมันเป็นที่โล่งเตียนไปจนสุดลูกหูลูกตา เป็นดินแดนที่ไม่สว่างแต่ก็ไม่มืด บนท้องฟ้าเห็นเป็นกลุ่มเมฆลอยอยู่เป็นหย่อมๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า “เราคือหลวงปู่เทพโลกอุดร เราจะเอาอาหารมาให้เจ้า เลือกเอาว่าอยากจะกินอะไร”
เสียงที่พูดออกมานั้นทรงอำนาจมาก เป็นเสียงที่ไม่รู้ว่าดังมาจากตรงไหนของท้องฟ้ากว้าง แต่เสียงนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าทุกอย่างที่อยู่รอบตัวมันสั่นสะเทือนไปหมด นี่เองที่คนโบาราณเขาบอกว่า “เสียงกัมปนาท” คือมันดังก้องไปทั่วแล้วเสียงนั้นก็ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน ไม่มีใครที่จะไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือนเมื่อได้ยินเสียงนี้
ทันใดนั้นบนท้องฟ้าด้านหนึ่งก็ปรากฏว่ามีถาดกลมๆ ใส่อาหารลอยมาช้าๆ ถาดอาหารเหล่านี้มันลอยเรียงแถวกันมาอย่างกับขบวนรถไฟ เว้นระยะห่างเท่าๆ กันพอสวยงาม บนถาดกลมนั้นก็จะมีอาหารของแต่ละชาติแต่ละท้องถิ่น ทั้งอาหารไทย อาหารจีน อาหารใต้ อาหารอีสาน ฯลฯ ตามจริงแล้วการที่เรายืนอยู่บนพื้นเมื่อมองขึ้นไปบนฟ้าก็ไม่น่าจะเห็นว่าเป็นอาหารอะไร น่าจะเห็นแต่ก้นถาดกลมๆ แต่ในนิมิตนั้นมันกลับมองเห็นว่าในถาดนั้นมีอาหารอะไรบ้างได้อย่างชัดเจน
ผมไปสะดุดตาเข้ากับอาหารถาดหนึ่ง ในถาดนั้นเป็นอาหารแบบของชาวเหนือคือมีน้ำจิ้มและผักต่างๆ ทั้งผักต้ม ผักสด น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม ข้าวเหนียว ฯลฯ เป็นถาดอาหารแบบขันโตก เมื่อจิตเรานึกชอบอาหารนั้น ก็ปรากฏว่าถาดใบนั้นก็ลอยแยกตัวออกมาจากแถว ค่อยๆ ลอยลงมาหาผม ผมก็ยื่นมือออกไปรับถาดอาหารนั้นเพื่อนำมาทาน แล้วผมก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาในราวๆ ตีห้าของวันใหม่ ฝันนี้ผมจำได้แม่นยำเพราะเป็นฝันในตอนรุ่งอรุณคือฝันเสร็จก็ตื่นขึ้นมาเลย และผมก็ยังคงจำความฝันนี้ได้อย่างชัดเจนไม่เคยลืมเลยแม้เวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม เป็นฝันที่ผมจะจดจำไปจนวันตาย
นับเป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ท่านพูดออกมาเองว่า “เราคือหลวงปู่เทพโลกอุดร” ทำให้ผมไม่ต้องเดาอีกต่อไปว่าหลวงปู่องค์ไหนคือผู้ที่เฝ้าดูแลรักษาผม ท่านเมตตาส่งทั้งอาหารคาวหวาน ข้าวเหนียวดำไพรดำ พระอรหันต์จกบาตร และญานทัศนะมาให้ลูกศิษย์คนนี้เพื่อเป็นกำลังให้ผมได้สร้างบุญบารมี ในชีวิตของผมก็ได้พึ่งพิงพระเพียง 3 รูปเท่านั้น คือหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ (เกิดมาก็เจอท่านเลย) หลวงปู่เทพโลกอุดร (ท่านคุ้มครองผมมาตั้งแต่เป็นเด็ก) และหลวงป๋าวัดหลวงพ่อสดที่ใช้ญานตามหาผมจนมาได้เจอกันตั้งแต่ผมอายุได้เพียง 20 กว่าปีเท่านั้น
ทันใดนั้นบนท้องฟ้าด้านหนึ่งก็ปรากฏว่ามีถาดกลมๆ ใส่อาหารลอยมาช้าๆ ถาดอาหารเหล่านี้มันลอยเรียงแถวกันมาอย่างกับขบวนรถไฟ เว้นระยะห่างเท่าๆ กันพอสวยงาม บนถาดกลมนั้นก็จะมีอาหารของแต่ละชาติแต่ละท้องถิ่น ทั้งอาหารไทย อาหารจีน อาหารใต้ อาหารอีสาน ฯลฯ ตามจริงแล้วการที่เรายืนอยู่บนพื้นเมื่อมองขึ้นไปบนฟ้าก็ไม่น่าจะเห็นว่าเป็นอาหารอะไร น่าจะเห็นแต่ก้นถาดกลมๆ แต่ในนิมิตนั้นมันกลับมองเห็นว่าในถาดนั้นมีอาหารอะไรบ้างได้อย่างชัดเจน
ผมไปสะดุดตาเข้ากับอาหารถาดหนึ่ง ในถาดนั้นเป็นอาหารแบบของชาวเหนือคือมีน้ำจิ้มและผักต่างๆ ทั้งผักต้ม ผักสด น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม ข้าวเหนียว ฯลฯ เป็นถาดอาหารแบบขันโตก เมื่อจิตเรานึกชอบอาหารนั้น ก็ปรากฏว่าถาดใบนั้นก็ลอยแยกตัวออกมาจากแถว ค่อยๆ ลอยลงมาหาผม ผมก็ยื่นมือออกไปรับถาดอาหารนั้นเพื่อนำมาทาน แล้วผมก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาในราวๆ ตีห้าของวันใหม่ ฝันนี้ผมจำได้แม่นยำเพราะเป็นฝันในตอนรุ่งอรุณคือฝันเสร็จก็ตื่นขึ้นมาเลย และผมก็ยังคงจำความฝันนี้ได้อย่างชัดเจนไม่เคยลืมเลยแม้เวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม เป็นฝันที่ผมจะจดจำไปจนวันตาย
นับเป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ท่านพูดออกมาเองว่า “เราคือหลวงปู่เทพโลกอุดร” ทำให้ผมไม่ต้องเดาอีกต่อไปว่าหลวงปู่องค์ไหนคือผู้ที่เฝ้าดูแลรักษาผม ท่านเมตตาส่งทั้งอาหารคาวหวาน ข้าวเหนียวดำไพรดำ พระอรหันต์จกบาตร และญานทัศนะมาให้ลูกศิษย์คนนี้เพื่อเป็นกำลังให้ผมได้สร้างบุญบารมี ในชีวิตของผมก็ได้พึ่งพิงพระเพียง 3 รูปเท่านั้น คือหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ (เกิดมาก็เจอท่านเลย) หลวงปู่เทพโลกอุดร (ท่านคุ้มครองผมมาตั้งแต่เป็นเด็ก) และหลวงป๋าวัดหลวงพ่อสดที่ใช้ญานตามหาผมจนมาได้เจอกันตั้งแต่ผมอายุได้เพียง 20 กว่าปีเท่านั้น