เล่าประสบการณ์พระของขวัญ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

ธัชชัย ศรีอาจ

เล่าประสบการณ์พระของขวัญ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

“ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ

ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม”

ข้าพเจ้าได้เคยบวชเรียน(เป็นสามเณร) ที่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายราม ตั้งแต่ปี40-43 หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็สึกออกมา ใช้ชีวิตฆารวาสแบบวัยรุ่นทั่วๆไป ได้เข้าเรียนต่อมัธยมปลาย ที่โรงเรียนสายธรรมจันทร์ ตอนนั้นก็ยังได้ใช้วัตถุมงคลของหลวงป๋าติดตัวมาตลอด แต่ยังไม่พบประสบการณ์ด้านอิทธิ ปาฏิหารย์อย่างชัดเจน จนเมื่อปี2546 เพื่อนสนิทข้าพเจ้าที่ชื่อว่า นายบัญชา รัตนสาคร และนายเชิดศักดิ์ อดทน (อดีตสามเณรเชิดศักดิ์) ประสบเหตุการณ์ ปาฏิหารย์ เกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงป๋าก่อน กล่าวคือในวันนั้น นายบัญชา ได้เป็นผู้ขับรถมอเตอร์ไซด์ และนายเชิดศักดิ์นั่งซ้อนท้ายมา ขณะนั้นฝนตกจนมองไม่เห็นทาง พวกเขาได้ชนเข้าจังๆกับ หญิงชราที่เดินออกมาจากร้านหมูกะทะ เพื่อนทั้งสองของข้าพเจ้า ได้กระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง เมื่อลุกขึ้นมาสำรวจแล้วปากฏว่า เขาทั้งสองมิได้เป็นอะไรมาก แต่อนิจจา หญิงชรานั้นเจ็บขั้นโคม่า ในภายหลังได้ผ่าตัดสมอง ถึงสองครั้ง จึงหายดี วันนั้นนายบัญชา รัตนสาคร ได้สวมใส่พระวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม พิมพ์หยดน้ำเล็ก ก็แบบในรูปครับ พิมพ์นี้ก็ทำบุญที่วัดมาองค์ละ50บาทครับ อุบัติเหตุครั้งนั้นจากหนักก็เป็นเบา แต่ก็คงเป็นกรรมร่วมกันมา นายบัญชาต้องชดใช้ค่าพยาบาล ขึ้นโรงขึ้นศาล หญิงชราก็เจ็บหนัก แต่เรื่องนั้นก็จบลงด้วยดี

ข้าพเจ้าเห็นว่า วัตถุมงคลวัดหลวงพ่อสดนี้ คงมีความศักดิ์สิทธิจริง ดั่งเหตุที่เพื่อนข้าพเจ้าทั้งสองประสบ จึงมั่นใจและเอาขึ้นคอมาตลอด จากวันนั้นเหตุการณ์ปาฏิหารย์ ก็ยังไม่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าจังๆสักที ล่วงเลยมาเป็นเวลา3ปี และข้าพเจ้าจึงได้พบประสบการณ์จนได้

เหตุการณ์แรก ณ.ขณะนั้นข้าพเจ้าเรียนจบมัธยมปลายแล้ว แต่ยังไม่มีเงินเรียนต่อมหาวิทยาลัย (ทางบ้านขัดสน) ข้าพเจ้าจึงหางานทำเล่นๆ เพื่อที่จะได้เงินใช้ด้วย จึงขึ้นมาอยู่กรุงเทพแถวราม2 ก็ได้ไปเลือกงานเสิร์ฟร้านอาหารก่อน แต่เงินก็ไม่ค่อยดี เพื่อนในร้านก็แนะนำครับ ให้ไปเสิรฟ์ ในคอกเทลเล้าท์ตรงแยกอุดมสุขสิ ก็นับว่าเป็นอาชีพที่สนับสนุนคนให้มัวเมานะครับ อยู่ในเล้ามาสามเดือน ได้รู้จักกับวินมอเตอร์ไซดคนหนึ่ง(ผมขับรถใดๆไม่เป็นเลยครับ) เขาจะรับตอนที่เลิกงานครับ บางวันเราก็ไปนั่งกินข้าวนั่งก๊งด้วยกัน และผมก็เปลี่ยนงาน มาเป็นเด็กเสริ์ฟในผับครับ (จูรี่ผับ) นับว่าชีวิตวัยรุ่นช่วงนั้น มัวเมาเต็มที่ครับ เรื่องเหล้าเบียร์ ข้าพเจ้าก็เป็นหนึ่งในตองอูเหมือนกัน ใครให้กินก็กิน ใครท้าทายก็ต้องเอาให้มันสลบไปข้างหนึ่งซะ แต่ข้าพเจ้าถือธรรมะในใจ ระลึกไว้ในใจเสมอ ว่าจะไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน (หลวงป๋าให้เอาดีสักด้านหนึ่ง เหมือนในโพสต์ธรรมะก่อนนี้) มีวันหนึ่งเลิกงานมาแล้วข้าพเจ้าก็ไปก๊งต่อที่คาราโอเกะ และพาพี่วินคนนั้นไปด้วย เรียกว่ากินกันได้ที่ครับ ขากลับพี่วินก็อาสาไปส่ง เขาก็เมา เราก็เมา ต่างคนต่างประมาทในใจ ก็ขับรถไปเส้นทางเข้าราม2 ที่ตัดเข้าตรงวัดทุ่งเศรษฐี ขับไปด้วยความเร็วพอประมาณครับ ถนนก็มืด ทันใดนั้น ก็เกิดตกหลุมจังๆ ข้าพเจ้ากระเด็นไปทางหนึ่ง ตัวไถลไป หน้าไปวัดกับขอบปูนถนน ส่วนพี่วินมอเตอร์ขาดื่ม หน้าไปวัดกับพื้นอย่างจังๆ ถึงกับนอนแผ่หรา อยู่สักสิบนาที พอลุกขึ้นนั่งได้ เลือดท่วมหน้า ปากก็เจ่อเป็นพญาครุฑ นิ้วก็หัก แผลเต็มตัว ส่วนข้าพเจ้านั้น ไม่เป็นไรเลย ทั้งๆที่ร่วงไปด้วยกัน จะมีก็เพียงแผลถลอกเล็กน้อย ในตอนนั้น ข้าพเจ้าก็แขวนพระรุ่นหยดน้ำนี่แหละครับ แขวนตามนายบัญชานี่แหละครับ รอดมาได้แบบงงๆครับ

เหตุการณ์ที่สองนี้ นับว่าเหตุการณ์ ที่ข้าพเจ้าประสบกับปาฏิหารย์ พระของขวัญวัดหลวงพ่อสดมาจังๆ เป็นเหตุการณ์ ที่มิอาจจะลืมได้ลง เป็นเรื่องของการโดนรุมทำร้ายครับ หลังจากชีวิตข้าพเจ้าออกจากวงการมัวเมาแล้ว ปี2550 ข้าพเจ้าก็ได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครปฐม ในภาคกสพป. เรียนวันเสาร์-อาทิตย์ครับ ช่วงวันปกติจันทร์-ศุกร์ก็รับงาน เป็นรปภ.กะกลางคืน ที่ล้งมะพร้าวแห่งหนึ่ง ในอำเภอดำเนินดวก(ขอสงวนชื่อไว้) ชีวิตการงานตอนนั้น ก็ไม่ได้ลงรอยกับหัวหน้าคนงานสักเท่าไหร่ อาจจะมีหลุดปากท้าทายให้เขาได้ยินว่า เขาไม่กล้าทำอะไรเราหรอก มีอยู่วันหนึ่ง ขณะเข้ายามกะกลางคืน ตอนประมาณสาม-สี่ทุ่ม ได้มีคนร้านสองคน ใช้ไม้สนไม้กระถิน ท่อนเท่าข้อแขน ฟาดศรีษะข้าพเจ้า นับครั้งไม่ถ้วน จนไม้นั้นหัก จึงขึ้นรถหนีไป ขณะที่ข้าพเจ้าโดนฟาดนั้น ได้รู้สึกตกใจ และนึกถึงหลวงป๋า การฟาดของเขาแต่ละครั้งนั้น ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกชาๆ แต่ไม่เจ็บปวด ไม้ของพวกเข้านั้นหัก อีกคนจึงหยิบไม้พาเลทชิ้นหนึ่ง มาฟาดต่อจนหักระเนระนาด เต็มป้อมไปหมด ยามคนหนึ่งได้ยินเสียงจึงรีบวิ่งเข้ามาดู และยามคนนั้น เป็นผู้ระบุตัวผู้ร้ายให้ข้าพเจ้ารู้ กล้องวงจรปิดก็มี เหตุการณ์นั้น กินเวลาประมาณสองนาทีจะได้มั้ง ข้าพเจ้าได้แจ้งความที่ โรงพักดำเนินสะดวก และหลังจากนั้นสองวัน ตำรวจได้เรียกข้าพเจ้าไป พบตัวผู้ต้องสงสัย ผมจำหน้าเขาได้ เขาชื่อนายเผือก เขาได้ให้การว่า ทำร้ายผิดตัว แต่จริงๆแล้วข้าพเจ้าเชื่อว่ามีเบื้อหลังแน่นอน วันนั้นเขาได้ขอร้องข้าพเจ้าว่าอย่าเอาเรื่องเขาเลย เพราะเขาตีผิดตัว และข้าพเจ้าก็ไม่ได้เจ็บบวมอะไรเลย ผลเอ็กซ์เรย์สมอง ก็มิได้เป็นอะไรเลย อย่าเอาเรื่องเขาเลย ครอบครัวเขาไม่มีจะกิน และเขาจะไปบวชที่วัดหลักหกแล้ว คำนี้แหละต้นเหตุที่ผมให้อภัย เป็นอภัยทานครับ ข้าพเจ้าสาวถึงคนบงการไม่ได้ ไอ้ผู้ร้ายก็จะไปบวชอีก อืมมมม จบกันไปตามยื้อต่อไปก็เหนื่อยก็ยุ่ง วันรุ่งขึ้นแม่ข้าพเจ้าได้ทำกับข้าว และพาข้าพเจ้าไปสะเดาะเคราะห์ ก็เอากับข้าวใส่ปินโตไปถวายเพล กับหลวงพ่อธนกรนี่แหละ (หลวงพ่อกมล) ท่านฉันเสร็จให้พรเสร็จ ก็สะเดาะเคราะห์ ด้วยการเขกกระโหลกข้าพเจ้า เออออ ครั้งนี้ทำไมรู้สึกเจ็บจริงนะ แค่โดนเขกกระโหลกเอง ท่านให้โอวาทว่า ไม่ควรไปหมิ่น รึท้าทายเขา เพราะจะทำเรื่องเดือดร้อน ให้ตัวเอง ส่วนพระที่ข้าพเจ้าแขวนวันที่โดนตีนั้น คือพระผงรุ่น ธนจักพรรดิ์ ด้านหลังฝังพญาเหล็กเม็ดข้าวสาร รอดตายมาได้ก็เพราะบารมี หลวงป๋านี่แหละครับ

เหตุการณ์ที่สาม เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว(2562) ข้าพเจ้าได้ทำงาน เป็นผู้จัดโต๊ะบรวงสรวง ให้อาจารย์พรามหณ์ท่านหนึ่ง ในวันนั้นข้าพเจ้าต้องไปจัดโต๊ะตั้งแต่เช้า ช่วงหกโมงเช้าข้าพเจ้า ก็ขึ้นวินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอย เพื่อไปทำงาน ไอ้วินเจ้ากรรมก็พาข้าพเจ้า แหกไฟแดงสิครับ หมวกกันน็อคก็ไม่ได้ใส่ กลางแยกเหม่งจ๋ายเลยครับ ปรากฏว่าโดนรถมอเตอร์ไซด์PCX ชนเข้าลำอย่างจัง คนขับวินและข้าพเจ้าได้กระเด็นกระดอนไป ไถลไปตามพื้นถนน มอเตอร์ไซดของวินนั้น ถังน้ำมันแตก น้ำมันสีดำๆไหลนอง เต็มถนน มอเตอรไซด์คู่กรณี แตกยับเยิน คนขับบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นแผลมีเลือดอยู่หลายจุด แต่ข้าพเจ้าและวินกลับไม่เป็นอะไรเลย ตำรวจกลางแยกนั้น ออกมาจากป้อม5-6นาย มาเคลียร์เหตุการณ์นี้ครับ ข้าพเจ้ารอดมาอีกแล้ว ในวันนั้นข้าพเจ้าแขวนพระผงพุทธชัยมงคล ที่ด้านหลังฝังพญาเหล็กเม็ดข้าวสารไว้ครับ

ทุกเหตุการณ์ ยังอยู่ในความทรงจำของข้าพเจ้าได้ดี หลวงป๋าเคยสอนข้าพเจ้าว่า ให้เอาดีสักอย่างหนึ่ง จะรักษาศีล รึจะยึดถือคุณธรรมไว้ก็ดี ต้องเอาสักอย่างหนึ่งก่อน ชีวิตจึงรอดปากเหยี่ยวปากกา แต่ถ้าได้ทั้งสองอย่าง คือมีภายดีนอก และดีภายใน ชีวิตก็จะเจริญรุ่งเรือง สาธุ คำสอนนั้นลูกหลานคนนี้ยังจำได้ดี และจะยึดถือเป็นอุดมการณ์ต่อไป สาธุ

ด้วยความรักและศัทธาในหลวงป๋า ตลอดไป

รักหมดใจ ใจหมดรัก องค์พระหยดน้ำองค์เล็กหลวงป๋ามอบให้ ตอนบวชสามเณร ครับ กำกับคาถา ไว้ให้ สัมมาอรหัง 9ครั้ง สาธุๆ

แชร์เลย

Comments

comments

Share: