หลวงเดช

นับย้อนหลังจากนี้ไปร้อยก่วาปี ในบ้านแมดตำบลบ้านเขืองอำเภอธวัธบุรีจังหวัดร้อยเอ็ด(บ้านเกิดหลวงปู่เองครับ)ชึงปัจจุบันเปลียนเป็นกิ่งเชียงขวัญ แล้วครับบ้านแมดปัจจุบันเป็นหมู่บ้านค้อนข้างใหญ่ถ้ามาทางอำเภอจังหารต้องผ่านบ้านคุยขนวนแล้วมาถึงบ้านดอนแดงจะมีแยกเลี้ยวช้ายไปบ้านแมดก่อนจะถึงบ้านเขืองแต่ถ้าผ่านมาทางอำเภอธวัธบุรีจะถึงบ้านเขืองก่อนแล้วบ้านดอนแดงแยกเลี้ยวขวาไปบ้านแมด ช่วงระหว่างบ้านคุยขนวนก่อนถึงบ้านดอนแดงจะมีหนองน้ำขนาดใหญ่มองไกลสุดลูกตามีชื่อว่าบุ่งเชียงขวัญ หลวงเดชเป็นคนบ้านแมด เป็นผู้มีวิชาอาคมสามารถหายตัว ย่นระยะทางได้มีอาวุธเป็นดาบสีออกเขียวที่มีอานุภาพมาก ก่อนท่านจะตายได้พาลูกเมียไปที่บุ่งเชียงขวัญ ก่อนที่ท่านจะลงน้ำและได้สั่งว่าหากยังไม่ขึ้นมาอย่าได้ไปไหน ท่านหายไปนานมากแล้วขึ้นมาพร้อมกับคำประมาณ2ถุงปุ๋ยชึ่งหลวงปู่ว่า คำก้อนนิดเดียวสามารถผสมกับปรอทได้เป็นทองคำมากมาย(คำ ก็คือทองคำที่บริสุทธิ)จากนั้นไม่นานท่านก็เสีย โดนยิงตายคนที่ยิ่งน่าจะเป็นบ้านเขืองก่อนตายไม่นานท่านได้สั่งลูกเมียไว้ว่าเมื่อท่านตายไปแล้วจะไปเกิดเป็นจรเข้อยู่ที่บุ่งเชียงขวัญ หลังจากท่านตายไปแล้วไม่นานลูกเมียญาติพี่น้องไปร้องเรียกท่านที่บุ่งเชียงขวัญก็มีจรเข้ขึ้นมาจริงๆแต่แปลกตรงที่จรเข้ตัวนี้ไม่ทำร้ายใครเด็กขึ้นขี่หลังเล่นก็ได้(ผมเคยถามคนรุ่นพ่อผมดูเขาเล่าว่าเรื่องนี้มีจริง) ดาบของหลวงเดชหลวงปู่คำสี(ทองทิพย์)ได้นำมาหล่อเป็นพระพุทธรูป มีปีหนึ่งตอนนั้นพระพุทธรูปองค์ที่ว่าเกิดร้าวที่แขน(ตอนนั้นผมก็อยู่ในที่เกิดเหตุ)ชาวบ้านฝันเห็นม้าวิ่งรอบหมู่บ้านแล้วต่อมาก็เกิดข่าวลือเรื่องผีแม่ม่ายชึ่งตอนนั้นวิธีแก้ที่เขาทำกันคือให้ไปหาด้ายเจ็ดสีแล้วให้แม่ม่ายเป็นคนผูกให้ มีคนล้มตายลงเป็นอันมากจนหลวงปู่ต้องลงจากหนองคายไปที่นั้นท่านไปพักอยู่กลางทุ่งนา เหตุต่างๆจึงสงบลง และมีตำราของหลวงเดชอยู่อีกเล่มหนึ่งหลวงปู่บอกว่าน่าจะอยู่กับเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันแต่หลานหลวงปู่(อ.ปราง เคยไปถามดูท่านบอกไม่อยู่) ปัจจุบันชาวบ้านได้เปลี่ยนพระพุทธรูปองค์นั้นแล้ว(ไม่รู้ว่าถูกทำลายหรือสร้างใหม่แทน)

หลวงเดช2
ตอนหลวงปู่ทองทิพย์มีชีวิตอยู่วันหนึ่งมีโอกาศเล่าความฝันให้ท่านฟัง หลวงปู่ครับผมฝันเห็นหลวงพ่อพุธ ฐานิโยท่านมาบอกว่ามีพระธรรมราชและพระอนุตรศีรทันดรมาเกิดแล้วครับและต่อมาก็เห็นจระเข้แต่แปลกนิ้วกับใส่แหวนด้วยพอพูดถึง พระอนุตรศีรทันดรสังเกตุเห้นร่างร่างท่านจะกระเพื่อมเล็กน้อยแต่ท่านไม่ได้ตอบอะไรท่านกับเอ่ยถึงเรืองคนโบราณชื่อหลวงเดชท่านเล่าว่าขุนเดชเป็นคนบ้านแมด(บ้านเดียวกับท่านเอง)เป็นคนมีวิชาถ้าเทียบยศสมัยนั้นน่าจะระดับเจ้าเมื่องเลยทีเดียวหลวงเดชสามารถย่นระยะทางได้ต่อมาก่อนหลวงเดชจะเสียชีวิตท่านได้พาเมียพาลูกมาที่บุ่งเชียงขวัญ(ชื่ออำเถอเชียงขวัญก็เกิดจากชื่อบุ่งนี้ละครับ)แล้วบอกให้รออยู่บนฝังอย่าพึงไปไหน หากยังไม่ขึ้นมา ท่านหายไปนานกว่าจะขึ้นมาพร้อมกับคำ2ถุง(คำคือทองบริสุทธิ คำเท่ากำมือหนึ่งสามารถผสมกับปรอทได้ทองเป็นกระสอบจากปากคำของหลวงปู่)ลูกเมียก็ได้ทองนั้นละมาสร้างบ้านเรือนและใช้สอยต่อมาก่อนจะตายท่านได้สั่งลูกและเมียว่าหลังจากตายไปแล้วท่านจะไปเกิดเป็นจระเข้อยู่ที่บุ่ง3เดือนพอท่านเสียไปลูกเมียก็เอาข้าวอาหารไปให้แล้วก็เรียกมากินพอเรียกอยู่สักพักก็มีจระเข้ขึ้นมากินจริงๆแปลกตรงที่จระเข้ตัวนี้ไม่ทำร้ายใครเด็กๆก็ขึ้นขี่หลังได้พอหลังจาก3เดือนไปแล้วก็ไม่เห็นจระเข้นั้นอีกเลยและดาบหลวงเดชหลวงปู่ทองทิพย์ท่านเอามาหล่อเป็นพระพุทธรูปเป็นเนื้อปูนองค์สีขาวไว้ที่วัดบ้านแมดหน้าตักกว้างประมาณ3เมตร นับย้อนจากนี้ไป30ปี ปีนั้นเกิดรอยร้าวขึ้นช่วงไห่ลแขนข้างขวาขององค์พระชาวบ้านฝันเห็นมีม้าวิ่งรอบหมู่บ้านแทบทุกคืนเกิดเหตุการณ์คนล้มตายกันเป้นจำนวนมากชาวบ้านลือกันเรืองผีแม่ม่ายใครเป็นผู้ชายก็พากันไปให้แม่ม่ายผูกด้ายให้ได้ครบเจ็ดคนเจ็ดสีหลวงปู่ทองทิพย์ ท่านรู้ข่าวท่านเลยกลับไป ไปพักอยู่ปลายนาชึ่งเป็นที่นาท่านเองแต่ยกให้พี่สาวเป็นคนดูแล ตอนนี้ทีนาส่วนหนึ่งนั้นได้สร้างเป็นวัด(ขณะนี้ยังเป็นสำนักสงฆ์อยู่)โดนลูกของพี่สาวท่านเอง(หลวงพ่อปรางค์)พอหลวงปู่ไปถึงเหตุการณ์ต่างๆจึงสงบลงแต่ตรงที่ท่านไปพักนั้นตอนกลางคืนมีคนเห็นลูกแก้วลูกใหญ่วิ่งขึ้นลงตรงที่ไกล้ๆท่านพักบ่อยๆ ส่วนตำราวิชาของหลวงเดชท่านบอกว่าน่าจะอยู่กับเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันแต่เห็นหลวงพ่อปรางค์เคยไปถามแต่เจ้า อาวาสบอกไม่มี….ครับ

ส่วนตำราวิชาของหลวงเดชท่านบอกว่าน่าจะอยู่กับเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันแต่เห็นหลวงพ่อปรางค์เคยไปถามแต่เจ้า อาวาสบอกไม่มี….ครับ[/FONT]

แชร์เลย

Comments

comments

Share: