วิชชาธรรมกายเป็นวิชชาที่มีความมหัศจรรย์อันไม่มีประมาณ แชร์มาจากคุณ ธัญยวิสิษฐ์ วัชราธรบรมประสิทธิ
ทำให้คนที่ไม่ได้มาศึกษา มักจะกล่าวหาว่า หลวงพ่อสด อวดอุตริมนุสธรรม แต่หลวงพ่อสด ท่านก็ไม่หวั่นไหว และยิ่งไปกว่านั้น.. ท่านยังทำการสอน และเผยแผ่วิชชาธรรมกายจนกลายเป็นที่ยอมรับ และมีคนหันมานับถือศรัทธาท่านเป็นจำนวนมหาศาล
แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่ง ที่รู้สึกไม่พอใจหลวงพ่อสด ถึงขนาดพูดเหยียดหยามถึงขั้นรุนแรงว่า “ใครอยากเป็นอสุรกาย จงไปเรียนธรรมกาย ที่วัดปากน้ำ” ซึ่งข่าวนี้ก็ได้ทราบถึงหลวงพ่อสด จึงทำให้ท่านได้พูดว่า
“คนเช่นเราไม่ใช่ไร้ปัญญา ชั่วก็รู้ ดีก็เห็น เราจะฆ่าตัวเราเองเพราะความปรารถนาทำไม ที่เขาพูดหาว่าเราอย่างนั้น บางคนคงจะไม่รู้จักคำว่า “ธรรมกาย” มีอยู่ที่ไหน หมายเอาใคร เขาอาศัยความไม่รู้มาว่าเราผู้ตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เมื่อผู้ไม่รู้มาติเตียนเรา ความไม่รู้ของเขาจะลบล้างสัจธรรมของพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ถ้าจะกลบก็กลบได้เพียงชั่วคราว ไม่ช้าดวงแก้วของพระพุทธศาสนาก็จะเปล่งรัศมีให้ผู้มีปัญญาเห็นด้วยสายตาของตนเอง…”
ด้วยความที่มีคนไม่เข้าใจหลวงพ่อสดหลายเรื่อง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิดขึ้น คือ เกิดอาชญากรรมขึ้นในวัด ซึ่งวันนั้นพระกมล ศิษย์ที่ถูกใจของหลวงพ่อสดในด้านเทศนา ใช้ปฏิภาณ และด้านปฏิบัติชั้นดี เทศนาหัวข้อธรรมเกี่ยวกับพระกรรมฐาน ซึ่งหลวงพ่อก็ฟังอยู่ด้วย และเมื่อเทศน์เสร็จแล้ว ในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ต่างคนก็ต่างแยกย้ายเตรียมกลับที่พักของตน
แต่ทันใดนั้นเอง.!!! มีผู้ร้ายเข้ามาลอบสังหารหลวงพ่อวัดปากน้ำที่หน้าศาลาการเปรียญ ขณะที่หลวงพ่อกำลังออกมาจากศาลาเพื่อกลับกุฏิ โดยผู้ร้ายได้ใช้ปืนยิงหลวงพ่อ ทำให้กระสุนถูกจีวรท่านทะลุ 2 รู และผู้ร้ายก็เอาปืนยิงนายพร้อม ซึ่งเป็นอุปัฏฐากผู้ติดตาม ทำให้กระสุนถูกปากนายพร้อมทะลุแก้ม เป็นแผลสาหัส แต่ไม่ถึงแก่กรรม
ครั้นภายหลังก็จับผู้ยิงได้ชื่อนายรอด แต่หลวงพ่อท่านก็เมตตาไม่ถือโทษโกรธ ไม่เอาเรื่องเอาความอะไรเลย แต่เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีด้านกฎหมายไม่ยอม จึงกราบเรียนหลวงพ่อว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะหากไม่ทำตามกฎหมาย อีกหน่อยกฎหมาย จะไม่ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนายรอดที่ลอบยิงหลวงพ่อก็ติดคุกอยู่นาน จนกระทั่งถึงกำหนดวันที่นายรอดจะต้องออกจากคุก ซึ่งหลวงพ่อท่านได้เห็นในที่ และทักขึ้นว่า “วันนี้นายรอดออกจากคุก แต่จะไม่รอด” ซึ่งก็จริง ๆ คือ เมื่อนายรอดออกจากคุกมาแล้ว ก็โดนคู่อริยิงตายทันที
นับจากนั้น… ชื่อเสียงของหลวงพ่อก็โด่งดังขึ้นไปอีก จนมีศิษยานุศิษย์หันมาให้ความเคารพนับถือท่านอย่างล้นหลาม แต่คนไม่ชอบท่านก็ยังมีอยู่ จึงทำให้มีคนลอบวางยาพิษหลวงพ่อโดยแอบใส่ในภัตตาหารของท่าน แต่หลวงพ่อท่านก็เห็นในญาณท่านจึงรู้ล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง และถ้าสำรับอาหารไหนมียาพิษ หลวงพ่อท่านจะเอาช้อนเงินจุ่มลงไปเพื่อพิสูจน์ให้ดู แล้วช้อนเงินก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำทันที สิ่งที่น่าทึ่งมากก็คือ ผู้ที่แอบลอบวางยาพิษเพื่อทำร้าย หลวงพ่อไม่เคยทำสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งยังไม่มีใครทำอะไรท่านได้เลย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หลวงพ่อมีชื่อเสียงขจรขจายเลื่องลือขึ้นไปอีก คือ ดังอย่างไม่ต้องโหมโรง ทำให้ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ จนมีแต่คนบอกว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำศักดิ์สิทธิ์จริง แต่หลวงพ่อกลับบอกว่า “ธรรมกายต่างหากล่ะ..ที่ศักดิ์สิทธิ์”
ในช่วงหลวงพ่อทำวิชชาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่าอยู่ ๆ ก็มีลูกระเบิดตกลงกลางวงฉัน ทำให้ทุกคนตระหนกตกใจกันมาก แต่หลวงพ่อท่านก็นิ่ง ๆ แล้วบอกว่า
“ไหนให้ลองเอาระเบิดลูกนี้ไปพิสูจน์ดูสิว่า มันด้านรึเปล่า..?” ซึ่งปรากฏว่ามัน ไม่ด้าน..!! จึงเป็นเหตุทำให้เกิดความฮือฮาและแปลกใจกันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชว่า แล้วทำไมมันถึงไม่ระเบิด!!!
“ก็บุญและอานุภาพวิชชาธรรมกายล่ะซิ..” จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และ หลังจากนั้นวิชชาธรรมกายก็ได้เผยแผ่อย่างกว้างไกลขึ้นไปอีก จนมีผู้หันมาสนใจนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมกันมาก และเข้าถึงพระธรรมกาย จนเกิดพยานทางศาสนาขึ้นอย่างมากมาย และกลายเป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่บัดนั้น…
ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า หากวิชชาธรรมกายของหลวงพ่อเป็นของเทียม คือมิใช่ของแท้หรือไม่ประกอบด้วยเหตุและผล หรือไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติแล้ว ถึงแม้จะโด่งดังได้..ก็จะโด่งดังเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แล้วก็จะดับไปในที่สุด แต่ตรงกันข้ามวิชชานี้กลับสืบทอดกันมาเป็นมรดกอย่างช้านาน อีกทั้งยังรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ ทำให้มีผู้สนใจและปฏิบัติธรรมตามอย่างท่านมายาวนานกว่า 100 ปีแล้ว (เริ่มนับตั้งแต่ พ.ศ. 2460 ซึ่งเป็นปีที่หลวงพ่อบรรลุธรรม ค้นพบวิชชาธรรมกาย)
ทำให้คนที่ไม่ได้มาศึกษา มักจะกล่าวหาว่า หลวงพ่อสด อวดอุตริมนุสธรรม แต่หลวงพ่อสด ท่านก็ไม่หวั่นไหว และยิ่งไปกว่านั้น.. ท่านยังทำการสอน และเผยแผ่วิชชาธรรมกายจนกลายเป็นที่ยอมรับ และมีคนหันมานับถือศรัทธาท่านเป็นจำนวนมหาศาล
แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่ง ที่รู้สึกไม่พอใจหลวงพ่อสด ถึงขนาดพูดเหยียดหยามถึงขั้นรุนแรงว่า “ใครอยากเป็นอสุรกาย จงไปเรียนธรรมกาย ที่วัดปากน้ำ” ซึ่งข่าวนี้ก็ได้ทราบถึงหลวงพ่อสด จึงทำให้ท่านได้พูดว่า
“คนเช่นเราไม่ใช่ไร้ปัญญา ชั่วก็รู้ ดีก็เห็น เราจะฆ่าตัวเราเองเพราะความปรารถนาทำไม ที่เขาพูดหาว่าเราอย่างนั้น บางคนคงจะไม่รู้จักคำว่า “ธรรมกาย” มีอยู่ที่ไหน หมายเอาใคร เขาอาศัยความไม่รู้มาว่าเราผู้ตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เมื่อผู้ไม่รู้มาติเตียนเรา ความไม่รู้ของเขาจะลบล้างสัจธรรมของพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ถ้าจะกลบก็กลบได้เพียงชั่วคราว ไม่ช้าดวงแก้วของพระพุทธศาสนาก็จะเปล่งรัศมีให้ผู้มีปัญญาเห็นด้วยสายตาของตนเอง…”
ด้วยความที่มีคนไม่เข้าใจหลวงพ่อสดหลายเรื่อง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิดขึ้น คือ เกิดอาชญากรรมขึ้นในวัด ซึ่งวันนั้นพระกมล ศิษย์ที่ถูกใจของหลวงพ่อสดในด้านเทศนา ใช้ปฏิภาณ และด้านปฏิบัติชั้นดี เทศนาหัวข้อธรรมเกี่ยวกับพระกรรมฐาน ซึ่งหลวงพ่อก็ฟังอยู่ด้วย และเมื่อเทศน์เสร็จแล้ว ในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ต่างคนก็ต่างแยกย้ายเตรียมกลับที่พักของตน
แต่ทันใดนั้นเอง.!!! มีผู้ร้ายเข้ามาลอบสังหารหลวงพ่อวัดปากน้ำที่หน้าศาลาการเปรียญ ขณะที่หลวงพ่อกำลังออกมาจากศาลาเพื่อกลับกุฏิ โดยผู้ร้ายได้ใช้ปืนยิงหลวงพ่อ ทำให้กระสุนถูกจีวรท่านทะลุ 2 รู และผู้ร้ายก็เอาปืนยิงนายพร้อม ซึ่งเป็นอุปัฏฐากผู้ติดตาม ทำให้กระสุนถูกปากนายพร้อมทะลุแก้ม เป็นแผลสาหัส แต่ไม่ถึงแก่กรรม
ครั้นภายหลังก็จับผู้ยิงได้ชื่อนายรอด แต่หลวงพ่อท่านก็เมตตาไม่ถือโทษโกรธ ไม่เอาเรื่องเอาความอะไรเลย แต่เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีด้านกฎหมายไม่ยอม จึงกราบเรียนหลวงพ่อว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะหากไม่ทำตามกฎหมาย อีกหน่อยกฎหมาย จะไม่ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนายรอดที่ลอบยิงหลวงพ่อก็ติดคุกอยู่นาน จนกระทั่งถึงกำหนดวันที่นายรอดจะต้องออกจากคุก ซึ่งหลวงพ่อท่านได้เห็นในที่ และทักขึ้นว่า “วันนี้นายรอดออกจากคุก แต่จะไม่รอด” ซึ่งก็จริง ๆ คือ เมื่อนายรอดออกจากคุกมาแล้ว ก็โดนคู่อริยิงตายทันที
นับจากนั้น… ชื่อเสียงของหลวงพ่อก็โด่งดังขึ้นไปอีก จนมีศิษยานุศิษย์หันมาให้ความเคารพนับถือท่านอย่างล้นหลาม แต่คนไม่ชอบท่านก็ยังมีอยู่ จึงทำให้มีคนลอบวางยาพิษหลวงพ่อโดยแอบใส่ในภัตตาหารของท่าน แต่หลวงพ่อท่านก็เห็นในญาณท่านจึงรู้ล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง และถ้าสำรับอาหารไหนมียาพิษ หลวงพ่อท่านจะเอาช้อนเงินจุ่มลงไปเพื่อพิสูจน์ให้ดู แล้วช้อนเงินก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำทันที สิ่งที่น่าทึ่งมากก็คือ ผู้ที่แอบลอบวางยาพิษเพื่อทำร้าย หลวงพ่อไม่เคยทำสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งยังไม่มีใครทำอะไรท่านได้เลย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หลวงพ่อมีชื่อเสียงขจรขจายเลื่องลือขึ้นไปอีก คือ ดังอย่างไม่ต้องโหมโรง ทำให้ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ จนมีแต่คนบอกว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำศักดิ์สิทธิ์จริง แต่หลวงพ่อกลับบอกว่า “ธรรมกายต่างหากล่ะ..ที่ศักดิ์สิทธิ์”
ในช่วงหลวงพ่อทำวิชชาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่าอยู่ ๆ ก็มีลูกระเบิดตกลงกลางวงฉัน ทำให้ทุกคนตระหนกตกใจกันมาก แต่หลวงพ่อท่านก็นิ่ง ๆ แล้วบอกว่า
“ไหนให้ลองเอาระเบิดลูกนี้ไปพิสูจน์ดูสิว่า มันด้านรึเปล่า..?” ซึ่งปรากฏว่ามัน ไม่ด้าน..!! จึงเป็นเหตุทำให้เกิดความฮือฮาและแปลกใจกันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชว่า แล้วทำไมมันถึงไม่ระเบิด!!!
“ก็บุญและอานุภาพวิชชาธรรมกายล่ะซิ..” จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และ หลังจากนั้นวิชชาธรรมกายก็ได้เผยแผ่อย่างกว้างไกลขึ้นไปอีก จนมีผู้หันมาสนใจนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมกันมาก และเข้าถึงพระธรรมกาย จนเกิดพยานทางศาสนาขึ้นอย่างมากมาย และกลายเป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่บัดนั้น…
ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า หากวิชชาธรรมกายของหลวงพ่อเป็นของเทียม คือมิใช่ของแท้หรือไม่ประกอบด้วยเหตุและผล หรือไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติแล้ว ถึงแม้จะโด่งดังได้..ก็จะโด่งดังเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แล้วก็จะดับไปในที่สุด แต่ตรงกันข้ามวิชชานี้กลับสืบทอดกันมาเป็นมรดกอย่างช้านาน อีกทั้งยังรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ ทำให้มีผู้สนใจและปฏิบัติธรรมตามอย่างท่านมายาวนานกว่า 100 ปีแล้ว (เริ่มนับตั้งแต่ พ.ศ. 2460 ซึ่งเป็นปีที่หลวงพ่อบรรลุธรรม ค้นพบวิชชาธรรมกาย)