อุปฐากยุคแรกและโจรผู้กลับใจ

Sri Chai Ya

……..อุปฐากยุคแรกและโจรผู้กลับใจ……
…ในช่วงที่หลวงปู่ทองทิพย์ ข้ามโขงจากฝั่งลาวมาไทย บังเอิญมีชายผู้หนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ในขณะที่หลวงปู่กำลังข้ามโขง แกชื่อ “พ่อตู้แสง”…อยู่บ้านสีกายติดแม่น้ำโขง แกแทบจะไม่เชื่อสายตา ถึงกับอุทานกับตัวเองว่า..”พระที่ไหน ลอยข้ามโขง..” (แท้จริงแล้วการที่หลวงปู่ลอยข้ามโขง ก็ด้วยว่า..พญานาคอยากจะทำบุญกับพระมหาโพธิสัตว์ จึงอาสาเป็นพาหนะให้หลวงปู่เหยียบข้ามแม่น้ำโขงนั่นเอง)..เมื่อถึงฝั่งไทยหลวงปู่ท่านก็ได้แสวงหาที่วิเวก เป็นบริเวณป่ารกชัฏที่มีต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด..
(ปัจจุบันคือ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร…บ้านสังคมพัฒนา)…
…..ส่วนพ่อตู้แสงหลังจากประสบเหตุการณ์เหลือเชื่อดังกล่าว ก็ได้เดินทางดั้นด้นสืบเสาะตามหา จนกระทั่งมาเจอหลวงปู่ปักกลดบริเวณดังกล่าว และได้ปวารณาเป็นโยม
อุปฐากถวายจังหันข้าว น้ำแก่หลวงปู่นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้มมาจนกระทั่งบั้นปลายชีวิต
…..ในสมัยก่อนยุค 2500 ตามต่างจังหวัดห่างไกลความเจริญมักจะมีโจรผู้ร้ายชุกชุม
คอยปล้นสดมภ์ชาวบ้านที่ทำการค้าขายไปๆมาๆ…ตามสองฝั่งโขง ไทย ลาว โดยจะปล้นทั้งทรัพย์สินและวัว ควาย หากขัดขืนก็จะทำร้ายให้ถึงแก่ชีวิต…หนึ่งในพวกโจรนั้นชื่อ”ตาฝน”..บ้านอยู่โพนพิสัย มักจะคอยมาด้อมๆมองๆ เห็นมีศรัทธาชาวบ้านไกลๆที่รู้ข่าวว่ามีพระธุดงค์(หลวงปู่) มาปักกลดบริเวณป่า ก็พากันมาทำบุญ ถวายปัจจัย ข้าวสาร อาหารแห้ง ฯลฯ ตาฝนจึงคิดว่าพระธุดงค์องค์นี้น่าจะมีทรัพย์สิน ของมีค่าเป็นจำนวนมาก…เกิดจิตอกุศลหวังจะมาปล้นชิงทรัพย์ พอตกดึกจึงลอบเข้ามาหวังจะฆ่าหลวงปู่….โดยใช้ปืนยิงด้านหลังท่าน ปรากฏว่ามีเสียงดัง…ป๊อก…ป๊อก หลวงปู่ท่านก็รู้
จึงเอ่ยขึ้นว่า..” ใครมาหักลำปอ(กิ่งไม้) แถวนี้ “…(เสียงดังป๊อกๆ คล้ายเสียงหักกิ่งไม้)
….ตาฝนเห็นว่าปืนยิงไม่ออก กระสุนด้านหมด แกก็ตกใจวิ่งเผ่นหนีแบบไม่คิดชีวิต…
…จากนั้นไม่นาน แกคงคิดได้ จึงเดินทางกลับมาหาหลวงปู่อีกครั้ง เพื่อกราบขอขมากรรมที่ได้ทำล่วงเกินท่าน หลวงปู่ทองทิพย์ท่านก็เมตตาเทศน์อบรมสั่งสอนตาฝน ให้รู้
ถึงบาป บุญ คุณ โทษ ตาฝนเมื่อได้ฟังคำสอนหลวงปู่ก็ได้กลับจิตกลับใจ เลิกเป็นโจร
ตั้งแต่บัดนั้น…หันมาเป็นลูกศิษย์ดูแลปรนนิบัติพัดวีหลวงปู่ทองทิพย์ คอยนำอาหารข้าวน้ำมาถวายหลวงปู่มิได้ขาด…ดังนั้นผู้ที่เป็นอุปฐากหลวงปู่ทองทิพย์ในยุคแรกๆก็คือ “พ่อตู้แสง “ บ้านสีกาย…และ”ตาฝน” (โจรกลับใจ) บ้านโพนพิสัย…ทั้งสองท่านน่าจะเคยมีบุญสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ท่านมาแต่ในอดีต ในชาตินี้ทั้งสองจึงได้มาพบเจอกับหลวงปู่อีกครั้งจนเกิดศรัทธาปสาทะดูแลคอยรับใช้ท่านอีกในชาตินี้จนถึงบั้นปลายชีวิต…น่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญโดยแน่แท้….

แชร์เลย

Comments

comments

Share: