หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ วัดบ้านเสือโก้ก สารคาม

หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ วัดบ้านเสือโก้ก สารคามหลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ หรือ “พระครูสุนทรสาธุกิจ” วัดบ้านเสือโก้ก ต.เสือโก้ก อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่เรืองวิทยาคม

เกิดในสกุลประสงคุณ เมื่อปี พ.ศ.2429 ที่บ้านเปลือย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา เหมือนกับชาวอีสานทั่วไป

ต่อมาครอบครัวอพยพย้ายที่ทำมาหากินอยู่ที่บ้านเสือโก้ก ในช่วงวัยเยาว์ได้ช่วยงานครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง ยามว่างจากทำไร่ทำนาจะคอยต้อนวัวออกไปเลี้ยงกลางทุ่งนา

เมื่ออายุได้ 18 ปี ขณะที่กำลังเลี้ยงวัวควายตามปกติ ปรากฏว่ากระดิ่งแขวนคอวัวควายหล่นหาย ท่านเกิดความกลัวว่าบิดาจะลงโทษ ประกอบกับเป็นคนใฝ่รู้และมีใจเอนเอียงเข้าหาพระธรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

จึงได้ขอร้องบิดาของเพื่อนคนหนึ่ง ให้นำไปบรรพชาที่วัดบ้านเสือโก้ก เพื่อหนีความผิด

ครั้น บิดา-มารดา ทราบว่าบุตรชายได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เป็นที่เรียบร้อย จึงร่วมอนุโมทนาบุญด้วย

กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท โดยมีพระอธิการสา เป็นพระอุปัชฌาย์ มุ่งมั่นศึกษาพระธรรมวินัยด้วยความขยันขันแข็ง

ด้วยความเป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย วัตรปฏิบัติสวดมนต์เช้าเย็นไม่เคยขาด หลังจากฉันภัตตาหารเพล จะนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานภายในกุฏิ

นอกจากนี้ หลังออกพรรษาทุกปี จะออกเดินธุดงค์ไปตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อแสวงหาความหลุดพ้นตามป่าเขาลำเนาไพรในภาคอีสาน

รวมทั้งยังได้ไปเรียนวิทยาคมจากสมเด็จลุน พระเกจิชื่อดังจากประเทศลาว ในด้านอักขระโบราณ ทำให้หลวงปู่ซุนมีความรู้สามารถเขียนอักษรลาว-ขอม และอักษรไทยอย่างแตกฉาน

ในเวลาต่อมา ชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรมและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ และปรารถนาวัตถุมงคลตะกรุดโทน และตะกรุดคู่ที่เข้มขลังจากหลวงปู่กันอย่างล้นหลาม

ยุคสมัยนั้น ราคาเช่าวัตถุมงคลตะกรุดหลวงปู่ซุน 1 ดอก เท่ากับทองคำหนักหนึ่งบาท

อย่างไรก็ดี มักจะพร่ำสอนญาติโยมอยู่ตลอดเวลาว่า “อย่าได้ประมาท และอย่าเบียดเบียนกันแล้วชีวิตจะพานพบแต่สิ่งดีงาม”

หลวงปู่ซุนยังเป็นพระนักการศึกษา ตลอดเวลาที่จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านเสือโก้ก ได้ให้ความสำคัญด้านการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ด้วยทราบดีว่าการบวชเรียนเป็นหนทางหนึ่งของคนยากคนจนชาวอีสาน

รับหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดบ้านเสือโก้ก

พระภิกษุ-สามเณร ที่เรียนกับท่านต้องเรียนหนักมาก บางวันเรียนไปจนถึง 3 ทุ่ม ทำให้สำนักเรียนบ้านเสือโก้กยุคนั้นมีชื่อเสียงโด่งดัง

แต่ละปีจะมีภิกษุสามเณรมาจำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัย จำนวน 100 รูป

พ.ศ.2461 หลวงปู่ซุนอยู่จำพรรษาที่วัดเสือโก้ก จนถึงปีพ.ศ.2493 ท่านได้มาทำพิธีสรงน้ำที่ซากกู่เทวสถานสมัยขอม ภายในป่าโคกบ้านสนาม สถานที่ตั้งวัดกู่สุนทรารามปัจจุบัน

ชาวบ้านลือว่าในป่าโคกแห่งนี้ผีดุมาก ไม่มีใครกล้าบุกรุกเข้าไป

หลวงปู่ซุนมีความตั้งใจสร้างวัดขึ้นในบริเวณดังกล่าว จึงขอความร่วมมือจากชาวบ้านในการสร้างวัด

ก่อนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2500 วัดแห่งนี้มีชื่อว่า “วัดกู่สุนทรารามบ้านสนาม”

นับแต่นั้นเป็นต้นมา หลวงปู่ซุนอยู่จำพรรษาที่วัดกู่สุนทรารามบ้านสนาม มาโดยตลอด

บั้นปลายชีวิตของหลวงปู่ซุนสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง อาพาธบ่อยครั้ง

สุดท้ายได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2504 สิริอายุ 76 ปี พรรษา 56

โดย…เชิด ขันตี ณ พล

แชร์เลย

Comments

comments

Share: