ThaisAmulets
หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ…หน่อพุทธางค์กูร
รูปถ่ายกวางทอง (พระตรากวาง) หลัง รูปไม้เท้าพระเจ้า 5 พระองค์ ยุคแรก
รูปภาพกวางทอง เป็นรูปที่แสดงถึง “อธิษฐานบารมี” รูปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากหลวงปู่ได้เมตตาเล่าเรื่องในอดีตของที่ให้ลูกศิษย์ฟัง ว่าชาติหนึ่งหลวงปู่เคยเกิดเป็นกวางทองโพธิสัตว์ ถูกนางยักษ์ สาป ที่ขัดขืนไม่ยอมเป็นสามีนาง ให้กลายเป็นกวางทอง และเป็นอยู่ได้ ๗ วัน ร่างกวางทองก็คืนสภาพเป็นร่างคนดังเดิม
ขณะที่ท่านเล่าอยู่นั้นได้มีลูกศิษย์คนหนึ่งได้ถ่ายภาพหลวงปู่ เมื่อล้างออกมาปรากฏเป็นรูปกวางทอง หลวงปู่บอกว่า “แค่รูปกวางทอง…ก็เหลือกินแล้ว” ให้ดูแสงตรงศีรษะหลวงปู่ คือมงกุฎของกษัตริย์
“แค่รูปกวางทอง…ก็เหลือกินแล้ว”
รูปกวางทอง ที่เราเห็นกันอยู่นี้ ถ้าสังเกตุให้ดี จะมีลูกศิษย์ท่านปรากฎในภาพด้วย สามคน ท่านหนึ่งเป็นป่าไม้หนองคาย ในขณะนั้น อีกท่านเป็นคุณลุงผู้เล่า อีกคน เป็นบุตรบุญธรรม(อยู่ที่ จ.หนองคาย)นั่งอยู่ด้านหลัง รูปกวางทอง คุณลุงท่านนี้ อยู่ที่บ้านโคก อำเภอโพนพิสัย จ.หนองคาย เล่าให้เด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ศรัทธาปู่ทองทิพย์ฟังว่า “เท่าที่ลุงจำได้ ป่าไม้จังหวัด นิมนต์หลวงปู่ ไปโคราช และสถานที่ในรูปกวางทอง น่าจะเป็นที่เขาใหญ่”
ขณะนั้นเอง หลวงปู่ท่านได้เล่าเรื่องในกาล ในสมัยหนึ่ง นางยักษ์กินคนไปเรื่อย จะถึงเมืองที่หลวงปู่ ปกครองสมัยก่อน นางยักษ์ชอบใจหลวงปู่อยากจะให้หลวงปู่ มาเป็นสามีนาง
หลวงปู่ฯขัดขืน ไม่ยอมเป็นสามี นางยักษ์ใจร้าย ได้สาปหลวงปู่ ให้กลายเป็นกวางทอง และเป็นอยู่ได้ ๗ วัน ร่างกวางทอง ก็คืนสภาพเป็นร่างหลวงปู่ดังเดิม ซึ่งในขณะที่หลวงปู่ กำลังเล่าอยู่นั้น
บังเอิญลูกชายวัยกำลังซน ของท่านป่าไม้ ไปเล่นกล้องตั้งสามขา ซึ่งหันหน้ากล้อง มาทางหลวงปู่พอดี มือไปถูกปุ่มกดเข้า จึงถ่ายติดรูปนี้ออกมา มีรูปกวางทอง แล้วถ้าสังเกตุดีๆ ที่ศรีษะหลวงปู่ จะเป็นคล้ายมงคล แต่แท้จริงก็คือมงกุฎของกษัตริย์ ที่ถูกนางยักษ์สาป เป็นกวางทอง นั่นเอง
พอล้างรูปออกมา ก็ปรากฎเป็นรูปเช่นนี้ ทำให้ลูกศิษย์พากันตกตะลึงไปตามๆกัน และได้คะยั้นคะยอ บอกหลวงปู่ว่า จะนำรูปนี้ลงหนังสือพิมพ์ แต่หลวงปู่ ท่านได้ทัดทานห้ามไว้ เพราะท่านไม่ชอบดัง เหมือนคำท่านว่า”ดีบ่อดัง ดังบ่อดี” และท่าน ยังไดักำชับบุคคลที่อยู่ในรูปว่า
“รูปนี้ มีรูปเฮา และ ก็มีรูปสู คนเขาได้ไป ก็นำไปกราบไหว้ ดังนั้น เมื่อเขาไหว้เฮา เขาก็ไหว้สูด้วย ฉะนั้น สมควรปฏิบัติตัวให้ดี สมกับที่เขาไหว้ด้วยล่ะ”
หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร ต.สีกา อ.เมือง จ.หนองคาย(มรณภาพ 7 มี.ค.2544)
คัดลอก ข้อมูลบางส่วน จาก หมอเสือ
วันหนึ่งหลวงปู่ฯ ท่านเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ที่คนเขาประสบมาเกี่ยวกับรูปของหลวงปู่ เช่น รูปที่มีกวางทอง รูปที่ปู่มีตาเพชร เป็นต้น มีวันหนึ่งหลังจากจัดงานบุญเดือนสามถวายหลวงปู่ กลางคืนมีแสดงโปงลาง ได้ถ่ายรูปหลวงปู่ขณะที่ท่านนั่งดูโปงลาง เมื่อไปล้างฟิล์มปรากฏเป็นแสงดังที่เห็นในภาพ ก็นำรูปไปถามหลวงปู่ว่าแสงในรูปเป็นแสงอะไร หลวงปู่ท่านบอกว่า เป็นแสงพระเจ้าห้าพระองค์ (ไม้เท้าพระเจ้า5 พระองค์) ท่านว่า “รูปนี้ดีกว่า…รูปกวางทอง” และบอกให้เอารูปนี้ติดตัวด้วย หลังจากนั้นได้นำฟิล์มไปขยายเป็นรูปใหญ่ นำไปถวายหลวงปู่
หลวงปู่ท่านบอกว่า คนที่พระจะคุ้มครองรักษานั้น ต้องเป็นคนดีมีศีลธรรมด้วย ฟังจากที่หลวงปู่เล่า รูปของท่านเพียงรูปเดียวก็มีอานุภาพเหลือเฟือแล้ว
หลวงปู่ท่านไม่ได้เน้นเรื่องวัตถุมงคล หลวงปู่ท่านให้ความสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติจิตภาวนาเป็นหลักใหญ่ หลวงปู่ท่านจะรู้หมดว่าใครสร้างบารมีมาแบบไหน จะต้องภาวนาอย่างไร ท่านจะให้แนวทางการปฏิบัติตามบารมีของแต่ละคน สำหรับคนที่ไม่มีวาสนาบารมีในการภาวนา ท่านก็จะไม่สอน
ในงานบุญเดือนสาม สมัยที่หลวงปู่ทองทิพย์มีชีวิตอยู่ มีพระองค์หนึ่งออกท้วมผิวคล้ำ ๆ ในจีวรที่ขาด ๆ ปะแล้วปะอีก สะพายถุงปุ๋ย หมอบคลานเข้ามาแสดงกิริยาอันนอบน้อม กราบหลวงปู่ด้วยความเคารพ และยังบีบนวดมือและเท้าให้หลวงปู่อีกด้วย หลังจากที่พระรูปนั้นกลับไปแล้ว หลวงปู่จึงบอกว่า นั้นแหละปู่เณรคำ เพิ่น(ท่าน)มาจากภูเขาควาย (คนละองค์..ที่มีข่าวดังนะ)
เรื่องปู่เณรคำ ท่านเป็นเณรจริง ๆ เป็นเณรอภิญญา ท่านอยู่ที่ภูเขาควาย(อีกมิติ) ท่านจะไปมาไม่ซ้ำแบบ บ้างก็มาแบบเห็นตัวตน บ้างก็มารูปลักษณ์อื่น ๆ เวลาที่ท่านมาจะนั่งข้างล้างต่ำกว่าหลวงปู่ทุกครั้ง
หลวงปู่ทองทิพย์ ท่าน จะพูดถึง พระที่มีบารมีแก่กล้า ให้ลูกศิษย์ฟัง” เช่น หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่พิบูลย์ วัดพระแท่นบ้านแดง จ.อุดรธานี และ หลวงปู่สีทัตถ์ หลวงปู่ทองทิพย์เล่าว่า พ่อแม่สีทัตถ์ท่านเป็นพระโพธิ์สัตว์ จะเป็นพระพุทธเจ้า ๑ ใน ๑๐ องค์ข้างหน้า หลวงปู่ว่าอดีตหลวงปู่สีทตถ์ท่านคือ “อสุรินทราหูโพธิสัตว์”
หลวงปู่ทองทิพย์ ยังพูดถึง หลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน) ..หลวงปู่สรวงกับหลวงปุ่ทองทิพย์ท่านสร้างบารมีมาด้วยกันนานหลายร้อยปี หลวงปู่สรวงท่านมาหา และถวายเขี้ยวเสือ ให้กับหลวงปู่ทองทิพย์ หลวงปู่ทองทิพย์บอกให้ลูกศิษย์ไปกราบหลวงปู่สรวงเอาบุญ
พอลุกศิษย์ไปถึงหลวงปู่สรวงท่านก็ทักขึ้นก่อนว่า เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ใช่ไหม? เขาตอบว่าใช่ครับหลวงปู่ หลวงปู่ทองทิพย์ให้มากราบ หลวงปู่สรวงท่านก็ว่า ดีแล้วมาเจอเฮากราบเฮานะ แล้วท่านก็ให้พรเป็นภาษาเขมร
หลวงปู่พูดถึง พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน จะพูดถึงพระดีที่น่ากราบไหว้ ส่วนฆาราวาส คือ “ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์” ผู้สร้าง “อาศรมแก้วกู่”
ปู่เหลือ เป็น…นักพรต ผู้ทรงศีล ถือศีล เคร่งวิปัสสนา … ร่างไม่ได้เปื่อยเน่า และสานุศิษย์บอกว่า เส้นผมของปู่เหลือ จะเป็นสีดำ และเป็นสีขาว สลับสับเปลี่ยน แบบนี้อยู่เรื่อยๆ
ในวันหนึ่งที่หลวงป๋า เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสด อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้ขึ้นไปกราบหลวงปู่ทองทิพย์เป็นครั้งแรก เมื่อเข้าไปถึงวัดก็ปรากฏว่าหลวงปู่ทองทิพย์ท่านนั่งรออยู่แล้ว พอหลวงป๋าท่านเข้าไปกราบหลวงปู่ทองทิพย์ก็พูดขึ้นให้ได้ยินทั่วกันว่า “อ้าว พระสุมังคละมาแล้ว” (พระพุทธเจ้าองค์ที่ 10 ที่มีพระนามว่า “พระสุมังคละพุทธเจ้า” ) นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : Mano Rata
Deaw ThaisAmulets
13 กันยายน เวลา 21:18 น. · รูปถ่ายกวางทอง หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร จ.หนองคาย
รูปถ่ายกวางทอง (พระตรากวาง) บานใหญ่ รูปขนาด 20”x24” ขนาดรวมกรอบ 24”x28” เป็นรูปอัดจากฟิล์มต้นฉบับจริงใส่กรอบรูปวิทยาศาสตร์เคลือบเรซิ่นเงา ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนั้น ป่าไม้จังหวัดหนองคาย(ขณะนั้น)เจ้าของฟิล์มต้นฉบับสร้างถวายหลวงปู่ทองทิพย์ พร้อมรูปโปสการ์ด และรูปขนาดแขวนคอ ที่สำคัญรูปบานนี้เป็นบานหลวงปู่แขวนไว้บนหัวนอนที่หลวงปู่จำวัด
พญากวางทอง หนึ่งในสิบชาติของพระศรีอาริยเมตตรัย และชาติสุดท้ายของพระศรีฯ คือหลวงปู่ทองทิพย์
รูปภาพกวางทอง เป็นรูปที่แสดงถึง “อธิษฐานบารมี” รูปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากหลวงปู่ได้เมตตาเล่าเรื่องในอดีตของที่ให้ลูกศิษย์ฟัง ว่าชาติหนึ่งหลวงปู่เคยเกิดเป็นกวางทองโพธิสัตว์ เป็นกษัตริย์ถูกนางยักษ์สาป ที่ขัดขืนไม่ยอมเป็นสามีนาง ให้กลายเป็นกวางทอง และเป็นอยู่ได้ ๗ วัน ร่างกวางทองก็คืนสภาพเป็นร่างกษัตริย์ดังเดิม
ขณะที่ท่านเล่าอยู่นั้น ได้มีการถ่ายภาพหลวงปู่ไว้ เมื่อล้างออกมาปรากฏแสงเป็นรูปกวางทอง หลวงปู่บอกว่า “แค่รูปกวางทอง…ก็เหลือกินแล้ว” และให้ดูแสงตรงศีรษะหลวงปู่ นั่นคือมงกุฎของกษัตริย์นั่นเอง
การที่ปรากฎเป็นรูปเช่นนี้ ทำให้ลูกศิษย์พากันตกตะลึงไปตามๆกัน และได้คะยั้นคะยอบอกหลวงปู่ว่า จะนำรูปนี้ลงหนังสือพิมพ์ แต่หลวงปู่ ท่านได้ทัดทานห้ามไว้ เพราะท่านไม่ชอบโด่งดังมีชื่อเสียง เหมือนคำท่านว่า”ดีบ่อดัง ดังบ่อดี” และท่านยังไดักำชับบุคคลที่อยู่ในรูปว่า
“รูปนี้ มีรูปเฮา และก็มีรูปสู คนเขาได้ไป ก็นำไปกราบไหว้ ดังนั้นเมื่อเขาไหว้เฮา เขาก็ไหว้สูด้วย ฉะนั้น สมควรปฏิบัติตัวให้ดี สมกับที่เขาไหว้ด้วยล่ะ”
รูปถ่ายกวางทองนี้ จะมีลูกศิษย์ท่านปรากฎในภาพด้วย 3 ท่าน ท่านหนึ่งเป็นป่าไม้จังหวัดหนองคาย(ขณะนั้น)เจ้าของฟิล์มรูปนี้ อีกท่านเป็นหม่อมเจ้าเมืองลาว และบุตรบุญธรรมท่าน(คุณนิคม มูลคาย)นั่งอยู่ด้านหลัง รูปกวางทองนี้ ถ่ายจากกล้องถ่ายรูปของป่าไม้จังหวัดหนองคาย โดยภรรยาท่านเป็นผู้ถ่าย สถานที่บริเวณทางเข้าปราสาทหินพิมาย อำเภอพิมาย เมืองโคราช
หลวงปู่ท่านบอกว่า คนที่พระจะคุ้มครองรักษานั้น ต้องเป็นคนดีมีศีลธรรมด้วย ฟังจากที่หลวงปู่เล่า รูปของท่านเพียงรูปเดียวก็มีอานุภาพเหลือเฟือแล้ว