Watpaknam.bkk
7 มิถุนายน เวลา 10:31 น. · แม่ชีรัมภา โพธิ์คำฉายแม่ชีวัดปากน้ำ อาจารย์สอนกรรมฐานได้มรณกรรมด้วยอาการอันสงบเมื่อเช้า วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๔ สิริอายุ ๙๔ ปี (พ.ศ.๒๔๗๐-๒๕๖๔)ณ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร.คุณยายแม่ชีรัมภา ถือว่าเป็นบุคลากร ที่สำคัญของวัดปากน้ำ ซึ่งแม่ชีรัมภาท่านได้เข้ามาบวชเป็นแม่ชี ที่วัดปากน้ำ โดยมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นผู้บวชชีให้ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๐เป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในงานสำคัญของวัดปากน้ำทุกด้าน โดยท่านได้ธรรมะ ได้ธรรมกาย อยู่เป็นผู้ที่ทำวิชชาในโรงงานทำวิชชา ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ อุปนิสัยใจคอ ของท่าน เป็นผู้ที่โอบอ้อมอารี มีการบริจาคทานอยู่เป็นประจำ ซึ่งในแต่ละปี คุณยายแม่ชีท่านจะทำบุญวันเกิดโดยถือเอาทางจันทรคติ คือ วันเข้าพรรษาเป็นวันทำบุญวันเกิดของท่านทุกๆปี พระภิกษุสามเณรแม่ชีวัดปากน้ำจะรู้กันเป็นอย่างดีคุณยายแม่ชี เป็นลูกที่ดีของหลวงพ่อได้ทำหน้าที่ที่หลวงพ่อได้มอบหมายไว้ ซึ่งเป็นงานที่หลวงพ่อรักที่สุดก็คือการภาวนา
ประวัติคุณยายแม่ชีรัมภา โพธิ์คำฉาย
ศูนย์ปฏิบัติธรรมลำปาง 7 กรกฎาคม เวลา 10:43 น. ·
หนังสือบุคคลยุคต้นวิชชา
“แม่ชีรัมภา โพธิ์คำฉาย”
อายุวัฒนะ 90 ปี วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2560
คุณยายได้อยู่ในช่วง การทำพระของขวัญรุ่น 1 แต่ก่อนไม่มีสูตรอะไรหรอก
ได้แป้งมาผสมเกสรดอกไม้ปั้นเป็นก้อน แล้วอัดเป็นบล็อกออกมา ละลายน้ำง่าย ดังนั้นรุ่น 1 ไม่มีสวย
พระผงรุ่น 1 ใส่แล้วจะแคล้วคลาดได้ดี โดยเฉพาะเรื่องอุบัติเหตุ ถ้าใครยังใส่พระอยู่ในตัว แล้วยังเกิดอุบัติเหตุ หลวงพ่อท่านบอกว่าต้องไปต่อว่า เข้าไปในธาตุในธรรมไปต่อว่า ฤทธิ์ยังไม่พอ ยังคุ้มครองไม่ได้ ต้องไปต่อว่าเจ้าของในธาตุในธรรม ไปขอฤทธิ์มา เพราะยังใช้ไม่ได้ พระผงของหลวงพ่อ84,000 องค์ ไม่ขาด ไม่เกิน เพื่อพอดีกับ 84,000 พระธรรมขันธ์ ศักดิ์สิทธิ์หมดทุกองค์ พระของหลวงพ่อ มีเจ้าของทุกองค์ คนที่เป็นเจ้าของพระ เมื่อถึงเวลา แม้อยู่ที่ไหนก็ต้องมา ข้ามน้ำ ข้ามทะเล ก็ต้องมาเอา หลวงพ่อเน้นการทำวิชชามาก เรื่องธรรมะเป็นเรื่องแรก ท่านต้องการเผยแผ่ธรรมะของท่านมากกว่า ส่วนเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ที่คนมาให้ช่วยแก้ เป็นผลพลอยได้ แต่มั่นที่หลักคือวิชชามากกว่า หลวงพ่อท่านเข้มแข็งไม่อ่อนแอ ตั้งแต่อยู่มา ไม่เคยเห็นท่านไปค้างที่ไหนเลย ก็มีแต่เฉพาะตอนเข้าโรงพยาบาลเท่านั้น
ปัจจุบันคุณยายอายุ 90 ปี ก็ยังรักษามโนปณิธานในการทำวิชชา ตั้งแต่อายุ 20 กว่าจนมาถึงเดี๋ยวนี้ก็คือ ไม่ได้คิดอะไรเรื่องสังขาร หลวงพ่อสอนอย่างไรเราก็ทำไปตามนั้น มีที่ไปตั้งสำนักสอนสมาธิ ก็มีแม่ชีจันทร์ เก่งธรรมะ สอนธรรมะแล้วก็ขยับขยายไปเรื่อยๆ ที่แคบก็ขยาย มีนักศึกษามาฝึกกันเยอะ ในสมัยแรกๆ คนเหล่านี้มาจากบารมีของหลวงพ่อวัดปากน้ำไปตามมาทั้งนั้น สอนจนเดี๋ยวนี้ตั้งสำนักใหญ่ชื่อวัดพระธรรมกาย คนมาเป็นหมื่นเป็นแสน แม่ชีหวานใจก็ไปตั้งสำนักสวนแก้วที่ราชบุรี ส่วนที่อยู่ในวัดปากน้ำ ที่อยู่สมัยหลวงพ่อเฉพาะแม่ชีก็มี 1.พี่ตรีธา เนียมขำ เป็นประธานมูลนิธิวัดปากน้ำ 2.ตัวฉันแม่ชีรัมภา โพธิ์คำฉาย 3.แม่ชีทวีพร เลี้ยบประเสริฐปัจจุบันก็ยังมีทำวิชชากันอยู่ตลอด แต่ก็ไม่เคร่งครัดเหมือนสมัยหลวงพ่อยังอยู่
(เรื่องเล่าโดย แม่ชีรัมภา โพธิ์คำฉาย บุคคลยุคต้นวิชชาเล่ม 1 โดย สิงหล )นะ
กลุ่มบุญศักดิ์สิทธิ์❤️ Namo Phonganank Khaophaug · 12 ชม. · #บันทึกจากความทรงจำ
คุณยายรัมภา โพธิ์คำฉายได้เล่าให้ฟังว่า…
สมัยแรกที่ท่านมาอยู่ที่วัดปากน้ำ ท่านมีหน้าที่ช่วยงานโรงครัว หุงข้าวเลี้ยงพระเณร แต่ท่านเห็นเขาเรียนวิชชาธรรมกายกัน ท่านก็อยากเรียนบ้าง จึงไปขออนุญาตคุณแม่ท้วม หุตานุกรม ซึ่งในสมัยนั้นเป็นหัวหน้าแม่ครัว คุณแม่ท้วมก็อนุญาตให้ท่านมาเรียนได้ ท่านฝึกปฏิบัติอยู่ประมาณ 1 เดือน ก็เข้าถึงพระธรรมกายภายในตัว เมื่อท่านได้ธรรมกาย และฝึกเดิน 18 กาย จนชำนาญแล้ว หลวงพ่อวัดปากน้ำก็ให้ท่านเข้ามาอยู่ทำวิชชาในโรงงานทำวิชชา ไม่ต้องทำงานในโรงครัวอีก
ท่านก็พยามฝึกนั่งสมาธิให้ได้ต่อเนื่องครั้งละนานนาน จนสามารถอยู่เข้าเวรทำวิชาได้ ซึ่งการเข้าเวรทำวิชานั้นต้องนั่งสมาธิครั้งล่ะนานๆ โดยนั่งเป็นกะ กะล่ะ4 ชั่วโมง เวียนไปตลอด 24 ชั่วโมงแม้ในปัจจุบันนี้ก็ยังทำอยู่ แต่อาจจะไม่เข้มข้นเท่าในสมัยของ หลวงพ่อวัดปากน้ำ
ในสมัยนั้นท่านจะได้รับการต่อวิชชากับคุณแม่ชีชั้น จอมทอง ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน คือคนสมุทรปราการ บ้านบางบ่อ และก็เป็นญาติกันด้วย ท่านมาอยู่วัดปากน้ำก็เลยเหมือนเป็นลูกของคุณแม่ชีชั้น จอมทอง ซึ่งต้องคอยดูแลและต่อวิชาธรรมกายให้ คุณแม่ชีชั้น จอมทองจะทำวิชชาแก้โรคเก่ง เวลาท่านไปแก้โรคที่ไหนก็จะพาคุณยายไปด้วย ทำให้ท่านได้รับความรู้ต่างๆอีกมาก
เวลาหลวงพ่อวัดปากน้ำนั่งรับแขก ก็จะเรียกให้คุณยายมานั่งด้วย เมื่อเวลามีใครมากราบขอบารมีหลวงพ่อให้ช่วยอะไร หลวงพ่อวัดปากน้ำก็จะสั่งให้คุณยายช่วยเหลือตามความประสงค์ของเจ้าภาพ โดยหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านจะนั่งคุม จึงเป็นเหตุให้คุณยายได้รับความรู้ในวิชาธรรมกายลึกซึ้งยิ่งๆขึ้นไปอีก คุณยายบอกว่าท่านไม่เคยย้ายไปที่ไหนเลยอยู่ที่วัดปากน้ำมาตลอด 70 ปี และจะอยู่ไปตลอดจนกว่าท่านจะตาย จะไม่ทิ้งวัดปากน้ำไปไหน
แล้วสุดท้ายท่านก็ได้ละสังขารที่วัดปากน้ำ ไม่เคยทิ้งวัดปากน้ำ ตามมโนปณิธานของท่าน
เมื่อเช้าของวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ขณะมีอายุ 94 ปี