พึงปฏิบัติธรรมเพื่อกำจัดกิเลส อย่าเอาใจออกนอกตัว เพราะนั่นเป็นถิ่นทำเลของมาร
เมื่อถึงธรรมกายแล้ว ดับหยาบไปหาละเอียดจนเป็นธรรมกายที่ละเอียด ทีนี้แม่นยำนักเชียว แต่ถ้าเคลื่อนศูนย์เมื่อไร ก็หายแม่น หรือว่าโอ้อวด อยากจะอวด อยากจะโก้ อยากดัง จิตถูกปรุงด้วยกิเลส ก็เคลื่อนจากศูนย์ออกมาจากธรรมกาย โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว
พวกที่ธรรมกายมัวหมอง หรือไม่ก็ดับไปเลย ไม่รู้เท่าทันกระบวนการของจิต ไม่รู้เท่าทันกิเลส จึงบอกกัน ณ บัดนี้ว่า มาปฏิบัติธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ ไม่มีการพยากรณ์กัน เว้นแต่ครูกับศิษย์ ไม่มีการพยากรณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ข้างหลังจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครให้มาดูว่าพ่อแม่ไปอยู่ไหนนะ เราไม่พูด ที่วัดนี้ไม่ทำ และบอกต่อๆกันว่าอย่าทำ เพราะใจท่านเริ่มออกไปถิ่นทำเลของมารแล้ว พอจิตปรุงปุ๊บ เดี๋ยวก็หลงลาภสักการะ เสร็จภาคมารเขาเท่านั้นแหละ
อย่าได้คะนองใจ-คะนองปาก ทักทายหรือพยากรณ์จิตในจิตของผู้อื่น อันจะเป็นการแสดงโอ้อวดภูมิธรรมของตนให้กิเลสและ หรือมานะทิฏฐิ
ว่าตนเองมีภูมิธรรมสูง ซึ่งจะกลับเป็นโทษอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่ผู้ที่ยังปฏิบัติไม่ได้ถึงขั้นละสัญโญชน์ (กิเลสเครื่องร้อยรัดให้ติดอยู่กับโลก)
อย่างน้อย 7 ประการคือสักกายทิฏฐิวิจิกิจฉา
และสีลัพพตปรามาสก้าวล่วงข้ามโคตรปุถุชนเป็นอริยบุคคลได้แล้ว
แต่มักชอบพยากรณ์ทักทายจิตใจของผู้อื่นอยู่นั้น
ย่อมมีโอกาสให้จิตกำเริบด้วยอวิชชากิเลสตัณหาอุปาทานให้ภูมิจิตตกต่ำลงกลายเป็นปุถุชนผู้ยังหนาด้วยกิเลสตามเดิมได้โดยง่าย
และความจริงแล้วแม้ผู้บรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคลแล้วเพียงใดท่านก็ยิ่งมีสติสำรวมระวังศีลและอินทรีย์ไม่นิยมพยากรณ์ผู้อื่นโดยไม่จำเป็น
ท่านจึงได้ชื่อว่าเป็น“ สมณะ” ผู้สงบ บริสุทธิ์ผ่องแผ้วแล้วด้วยประการฉะนี้
ฉะนั้น จงจำไว้ เราปฏิบัติธรรมเพื่อกำจัดกิเลส
พระเทพญาณมงคล (เสริมชัย ชยมงฺคโล)”หลวงป๋า”
อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี