วัดป่าสถานีใหม่จันทึก-ศูนย์ปฏิบัติธรรมและฝึกสมาธิ
เวลาที่อยู่กับหลวงพ่อ(อุบล)ตามลำพัง ช่วงที่ท่านครึ้มๆสบายๆ ท่านก็มักจะเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังเป็นประจำ มีอยู่เรื่องหนึ่งท่านมักบอกว่า คนส่วนใหญ่จะเห็นท่านเป็นหลวงตาแก่ๆธรรมดารูปหนึ่ง แม้เวลาไปประชุมสงฆ์ ท่านพรรษามากกว่าพระผู้น้อยที่อายุพรรษาน้อยกว่าแต่มียศตำแหน่งสูงก็ไม่ได้สนใจท่าน แต่หลวงพ่อว่าท่านก็ไม่ได้ใส่ใจ เราทำตัวเราให้เป็นพระที่สมบูรณ์ ทำกิจของพระอย่าบกพร่อง หลวงพ่ออายุจะเจ็ดสิบแล้ว แต่ก็พยายามลงทำวัตรสวดมนต์นั่งสมาธิให้เป็นปกติในทุกวัน หลวงพ่อทำมาสม่ำเสมอ ถ้าไม่เจ็บป่วยไข้หรือเหนื่อยเพลียตามอายุสังขารแล้วจะไม่ให้ขาด…
หลวงพี่ว่า จริงๆหลวงพ่อมีความขยันและมีระเบียบวินัยสูงมาก ยามค่ำคืนนอกเวลาปฏิบัติธรรมแล้ว ท่านจะศึกษาตำรับตำราต่างๆเช่นภาษาอังกฤษบ้าง ทบทวนธรรมศึกษาเช่น นักธรรมตรี โท เอก ที่ผ่านมาก็พากเพียรเรียนจนจบปริญญาตรีของมสธ. ช่วงดึกก็ทำวิชชาบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ส่วนรวมตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย หลวงพ่อจึงนอนตอนกลางคืนน้อย มานอนพักบ้างช่วงกลางวันเพราะอายุสังขารล่วงมามากขึ้น
แต่กระนั้นก็มีบางคนไม่เคยรู้วัตรปฏิบัติของท่าน หรือคุณธรรมที่ท่านเข้าถึง คิดหรือพูดว่าท่านในทางลบให้เกิดความเสียหาย คิดปรามาสท่านในใจก็มี แต่หลวงพ่อไม่เคยสนใจ ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีในการวางเฉย อดทนต่อคำว่ากล่าวต่างๆ ไม่เคยไปแก้ต่างให้ตนเอง กระทำตนให้ดูเป็นแบบอย่าง จึงถือเป็นการสั่งสอนที่ดีที่สุด…
เห็นหลวงพ่อชิวๆแบบนี้ สมัยอยู่วัดหลวงพ่อสด ตอนหลวงป๋าทำวิชชา หลวงป๋าให้หลวงพ่ออุบลนั่งทำวิชชาอยู่ด้านหลังเสมอๆ และถือเป็นครูบาอาจารย์ที่ได้รับการยอมรับในหมู่คณะผู้ทำวิชชายุคนั้น และเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อหลิ่มในตอนนั้น
ว่ากันถึงเรื่องใจหลวงพ่อแล้ว หลวงพ่อเป็นคนใจใหญ่ ลองว่าถ้าท่านเห็นว่าคนนี้มีคุณต่อพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านก็ช่วยเต็มที่ไม่ห่วงตัวเอง เพราะปกติแล้วการเข้าไปก้าวล่วงวิบากกรรมของบุคคลอื่นนั้น ตัวเองอาจเจอเข้าเสียเองได้ เหมือนเราไปยุ่งไปขวางทางคนอื่น เจ้ากรรมเค้าก็คงไม่ยอมง่ายๆที่มาขวางทางแก้แค้นของเขา มีเรื่องเล่าอยู่เรื่องนึง
หลวงพ่อได้เตือนโยมอยู่คนหนึ่ง โยมท่านนี้ก็มีคุณกับพระพุทธศาสนา ช่วยเหลืองานพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่มากมาย หลวงพ่อคงเห็นอะไรบางอย่างจึงเตือนไม่ให้เดินทางไปไหนเป็นเวลา 1 ปี นอกจากไปที่ทำงานแล้วกลับบ้านเท่านั้น ไม่งั้นจะประสบอุบัติเหตุอย่างหนักหนาเลย…โยมคนนี้ก็ย่อมอึดอัดใจว่าตนเองจะไม่ได้ออกไปไหนนานขนาดนั้นยกเว้นไปทำงาน แต่เมื่อเป็นคำพูดหลวงพ่อก็ไม่กล้าขัด แต่ลึกๆก็คงคิดว่ามันต้องนานขนาดนั้นเชียวหรือ ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสถามพระผู้ปฏิบัติอีกรูปหนึ่งที่ตนเองได้อุปัฏฐากและได้เล่าเรื่องที่หลวงพ่อบอกเตือนมา พระรูปนั้นก็บอกว่า ท่านเองก็เห็นเหตุหรือผังที่จะเกิดเหตุไม่ดีเกิดขึ้นกับโยมเช่นกัน แต่ท่านก็ไม่กล้าพูดออกมา แต่หลวงพ่อนี่ท่านเมตตาโยมมากๆเลยนะ ขนาดเอาตัวเองเข้ามายุ่งมาขวางเพื่อช่วยโยมเต็มที่ขนาดนี้ ถ้าท่านไม่เมตตามากๆคงไม่ทำขนาดนี้ เพราะเมื่อพูดแล้วท่านต้องทำวิชชาแก้ให้ปลอดภัย ใจท่านเต็มที่มาก การไปยุ่งเรื่องกรรมของใครคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย พอได้ฟังแบบนั้นก็ได้รู้และเข้าใจถึงความเมตตาที่มีมากมายของท่าน พระหลวงตาแก่ๆที่ไม่พูดเยอะ แต่ทำมากกว่าพูด และในช่วงที่ผ่านมา หลวงพ่อท่านอนุญาติให้โยมคนนี้มาร่วมงานกฐินที่วัดได้ แต่หลวงพ่อก็บอกหลวงพี่หลังงานกฐินว่า ท่านต้องใช้กำลังอย่างมากในการทำวิชชาให้เค้ามาและกลับได้อย่างปลอดภัย…
คุณความดีของหลวงพ่อนั้นมีมาก ใครอย่าได้ปรามาสส่งเดชเชียว มิฉะนั้นจะเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสาเอามือมาลูบใบมีโกนอันคมกริบ ดูคนจึงดูแต่เพียงข้างนอกไม่ได้ ต้องดูให้ซึ้งถึงใจภายใน…
อรุโณภิกขุ