Aungkool Ananศิษย์พระต้นธาตุ
พระของหลวงพ่อฯ
พระของขวัญของหลวงพ่อวัดปากน้ำ เป็นพระที่สร้างไม่เหมือนกับพระในสายอื่น เพราะสุดละเอียดในสายวิชชาถึงอายตนะนิพพานถึงพระพุทธเจ้าองค์ต้นในต้นนิพพานเป็น เดินวิชชาภายในกลั่นกายให้ใสสะอาดตลอดกาย เถา-ชุด-ชั้น-ตอน-ภาค-พืด สุดละเอียดในสายภาคขาวรวมเข้ามาอยู่ในศูนย์กลางกาย นำพระมาไว้ที่ศูนย์กลางกาย แยกธาตุดิน-น้ำ-ลม-ไฟแล้วกลั่นให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ทับทวี แล้วก็รวมธาตุขึ้นมาเป็นกายเข้าไปในกายภายในเป็นชั้นๆทับทวีหนักเข้าถึงกายอรหัตละเอียดที่แก่ๆหนักเข้าๆ แล้วก็แยกธาตุในกายอรหัตออกมาแล้วกลั่นให้ใสสะอาดหนักเข้าๆไปตลอดไม่ขาดสาย เดินวิชชาเข้าไปทับทวีหนักเข้าไม่ถอยหลังกลับ เดินวิชชาเข้าไปสุดละเอียดเท่าไหร่ ธาตุก็ยิ่งละเอียดหนักขึ้นแก่ขึ้นเท่านั้น มรรคผลก็ยิ่งพิสดารขึ้น วิชชาเป็นเดินเสมอไม่ขาดสาย เดินเป็นอัตโนมัติภายใน ไม่มีอะไรจะทำให้เสื่อมไปได้ มีแต่ทับทวีสุดละเอียดเข้าไปเรื่อยๆ
อานุภาพของพระของขวัญขึ้นอยู่กับความละเอียดของวิชชา ยิ่งเข้าถึงวิชชาสุดละเอียดมากเพียงใด ก็ยิ่งเข้าถึงมรรคผลในละเอียดเข้าไปเพียงนั้น ยิ่งใสยิ่งบริสุทธิ์ ยิ่งมีอานุภาพ มีสิทธิอำนาจมากตามที่เข้าถึง ดังนั้นเวลาจะวัดกันสู้กันเค้าสู้กันที่ความละเอียด ใครละเอียดกว่าก็ปกครองผู้ที่หยาบกว่า นี่คือเหตุที่หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านให้ทำวิชชาให้ละเอียดสุดละเอียดไปเรื่อยๆไม่ถอนถอย เพราะเมื่อเข้าถึงกายอรหัตละเอียดก็ยังมีกายอรหัตในอรหัต อรหัตในอรหัต ละเอียดเข้าไปเรื่อยๆในศูนย์กลางกายไม่สิ้นสุด
หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเคยเทศน์ว่า ผู้พูดนี้หยุดในหยุดดับหยาบไปหาละเอียดเข้าไปในกลางกายตนเองตลอดเวลาไม่มีถอนถอยนับเป็นเวลาสามสิบสี่สิบปีแล้วก็ยังไปไม่สุดกายของตนเอง แม้วินาทีนึงจะเดินวิชชาไปนับอสงขัยไม่ถ้วนละเอียดสุดละเอียดไม่ถอนถอย ก็ยังไปไม่สุดตัวยังมีละเอียดยิ่งเข้าไปเรื่อยๆ เมื่อใดก็ตามที่ไปถึงสุดละเอียดสุดกายได้แล้ว คือไปกระทั่งไม่มีฉากหลังปกครองตนเองแล้ว เราก็จะเป็นอิสระอย่างแท้จริง คือไม่อยู่ในอำนาจการปกครองของเขาอีกต่อไป
ดังนั้นสำหรับพระของขวัญในสายวิชชาธรรมกายแล้ว ต้องวัดกันที่ความละเอียดในวิชชาที่เข้าถึง พระของขวัญที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสร้างรุ่น 1-2-3 เป็นพระที่ทำวิชชาเป็นเข้าไปถึงสุดละเอียดยิ่งกว่าลูกศิษย์คนใดจะเข้าถึง ยิ่งเข้าสุดละเอียดนิพพานเป็นได้มากเท่าไร ก็จะเข้าถึงพระพุทธเจ้าพระองค์ต้นธาตุต้นธรรมบารมีแก่ๆนับอายุธาตุอายุบารมีไม่ถ้วนอยู่ในนิพพานเป็นลึกๆทั้งลับและเปิดเผย มีรัศมีกำลังฤทธิ์อำนาจสิทธิเฉียบขาด เป็นผู้ปกครองธาตุธรรมในสุดละเอียด อาราธนามากระทำความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่องค์พระของขวัญที่ท่านจัดสร้างขึ้น
หากมีบุคคลใดกล่าวอ้างว่า สามารถสัมผัสพลังงานในพระของขวัญวัดปากน้ำที่หลวงพ่อท่านสร้างได้ โดยการวัดค่าพลังได้อย่างนั้นอย่างนี้ แล้วบอกว่าพลังในองค์พระเบาบางมาก หรือมีค่าพลังที่ต่ำมากนั้น ให้ลองใช้ปัญญาพิจารณาอย่างนี้ว่า
ถ้าบุคคลที่จับพลังงานสามารถวัดค่าพลังของพระของขวัญที่ท่านสร้างได้จริงทั้งหมด คนๆนั้นจะต้องเก่งกว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำ วิชชาจะต้องละเอียดกว่าหลวงพ่อจึงจะสามารถเข้าถึงพลังและวิชชาในองค์พระได้ทั้งหมด สามารถรู้เห็นไปถึงสุดละเอียดของวิชชาธรรมกายภายในพระของขวัญนั้นได้ว่าไปสุดที่ไหน นั่นคือต้องมีวิชชาเหนือกว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำผู้เป็นต้นธาตุต้นธรรม อันเป็นผู้ถอยพืดกำเนิดธาตุธรรมเดิมลงมามาค้นวิชชา เผยแผ่วิชชา และทำวิชชารบมาค่อนชีวิต คำถามคือบุคคลผู้จับพลังคนนั้นเก่งได้ขนาดนี้หรือไม่ ถ้าไม่ ก็ไม่มีทางที่จะสัมผัสถึงวิชชาภายในองค์ได้ถึงสุดละเอียดอย่างแน่นอน จะสัมผัสได้ก็เพียงความรู้ความสามารถที่ตนเข้าถึงเท่านั้น (เหมือนคนที่ไม่มีตาทิพย์ก็ไม่สามารถมองเห็นเทวดาได้ จึงบอกว่าเทวดาไม่มี เพราะสัมผัสไม่ได้จริง) เมื่อมิได้รู้จริงเพียงนี้ การที่อาจหาญเปรียบเทียบพระของหลวงพ่อวัดปากน้ำแบบนี้ ถือเป็นการปรามาสในวิชชาและตัวหลวงพ่อวัดปากน้ำ ย่อมไม่ดีเป็นแน่
ทั้งคุณยายฉลวย สมบัติสุข คุณยายตรีธา เนียมขำ หัวหน้าเวรทำวิชชาสมัยหลวงพ่อวัดปากน้ำ และพระราชพรหมเถร(วีระ คณุตฺตโม) ก็เคยกล่าวว่าพระของขวัญวัดปากน้ำรุ่น 1-2-3 ที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสร้างเป็นที่สุดแล้ว ลูกศิษย์สร้างยังไง ทำวิชชาอย่างไรก็ไปไม่ถึงสุดละเอียดในวิชชาท่าน เทียบพระของท่านไม่ได้เลย มีเหตุการณ์กรณีหนึ่ง ผู้พูดเคยได้รับดวงแก้วจุยเจียที่หลวงป๋าท่านทำวิชชาไว้ และได้มอบดวงแก้วนี้ให้แก่คนหนึ่ง คนๆนี้เคยฝึกสายพลังงานมา ครั้งหนึ่งได้เคยเอาดวงแก้วดวงนี้ให้เหล่าซือของตนเองดู หลังจากนั้นเหล่าซือคนนี้ก็มาสารภาพภายหลังว่า เมื่อตนเองเห็นดวงแก้วนี้ครั้งแรกก็สัมผัสได้ถึงพลังงานที่มีอยู่ภายในอย่างมากมายมหาศาล ใจจึงอยากได้พลังงานเหล่านั้น จึงเปิดจักระเพื่อดูดพลัง หรือจะใช้คำว่าขโมยพลังก็ได้ แต่มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่ตนเองเคยกระทำมา กลับรู้สึกเหมือนโดนพลังงานจากดวงแก้วตีกลับกระแทรกเข้ามาที่ตัวอย่างแรง และดวงแก้วของหลวงป๋าก็ปิดผนึกพลังงานในตัวเองไม่ให้เหล่าซือผู้นี้เข้าถึงได้อีกเลย นี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า กายสิทธิ์ภายในและวิชชาเป็นสามารถปิดกั้นไม่ให้บุคคลที่ไม่ต้องการเข้าถึงได้ นั่นเพราะข้างในดวงแก้วเก่งกว่าผู้สัมผัสคนนั้นๆมาก… นี่แค่ดวงแก้วของลูกศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำเท่านั้น
วิชชาธรรมกายเป็นวิชชาของพระพุทธเจ้า เป็นโลกุตรวิชชา ผู้ที่สัมผัสต้องเป็นวิชชาธรรมกายด้วยจึงจะเข้าถึงในส่วนละเอียดได้ หากผู้จับพลังได้แค่สมาธิเบื้องต้นหรือได้สมาธิแบบโลกียะ ก็จะสัมผัสพระได้แค่พลังในส่วนหยาบบางส่วน หรือพลังตามที่ท่านจะให้สัมผัสได้เท่านั้น เหมือนดร.ที่มีความรู้ความสามารถมากกว่าเด็กเตรียมอนุบาล ไม่มีทางเลยที่เด็กคนนั้นจะเข้าใจและรู้ถึงความสามารถของดร.ได้ หรือเหมือนคนจะมาบ้านเศรษฐี แต่ไม่สามารถเข้าบ้านได้ ได้แต่เดินดูตามขอบรั้วบ้าน เมื่อเข้าบ้านไม่ได้ เมื่อไม่สามารถเข้าไปเห็นสมบัติภายในบ้านได้ ไม่สามารถรู้รายรับรายจ่ายบัญชีการเงินของเศรษฐีได้ แล้วจะมาประเมินทรัพย์สมบัติของเศรษฐีว่ามีเท่านั้นเท่านี้ได้อย่างไร
พระของขวัญนั้นดีอยู่แล้ว แต่ตัวเราดีเท่าท่านหรือยัง ขนาดบางคนได้ธรรมกายนำพระของขวัญรุ่น 7 มาช่วยเดินวิชชาตอนนั่งสมาธิ ยังเดินวิชชาไม่ทันกายสิทธิ์ภายในเลย ยิ่งไม่ต้องเทียบกับพระของขวัญรุ่น 1-2-3 องค์ต้นธาตุตรัสเองว่า ของที่ศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้เพิ่งบังเกิดขึ้นครั้งแรกในโลก
อย่างที่บอกว่าการวัดว่าพระองค์ใดดีแค่ไหน อานุภาพมากเพียงใด ต้องวัดกันที่ความละเอียดของวิชชาภายใน เพราะสิ่งที่ละเอียดกว่าจะปกครองควบคุมสิ่งที่หยาบกว่า ตัวอย่างเช่น เมื่อทำวิชชาเก็บเหตุไม่ดีในตัวเองที่เกิดมาจากกรรมที่เคยทำไว้ จะเห็นเป็นจุดดำเล็กในกลางกาย ต้องทำวิชชาธรรมกายเก็บให้ใสสะอาดให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ ในระหว่างทำวิชชาอยู่นั้นเห็นว่าจุดดำใสสะอาดดีแล้วก็เลยหยุดทำ แต่ความจริงคือเรายังวิชชาละเอียดไม่เพียงพอ ก็จะถูกทำให้เห็นว่าสะอาดใสดีแล้ว แต่เพราะเขาละเอียดกว่าเราจึงหลอกเราได้ ต่อมาจุดดำนี้ก็กลับมาขยายใหญ่ขึ้นอีก และส่งผลในส่วนหยาบให้เกิดเป็นวิบากทุกข์โทษภัยเวรขึ้นมา แต่ถ้าวิชชาเราละเอียดกว่าเขา ก็จะสามารถเก็บเหตุได้หมดจริงๆ แบบสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษจริงได้สำเร็จ
สุดท้ายแล้วก็ขอให้เชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ของเราดีที่สุด จะได้ไม่เข้าใจไปผิดทาง เมื่อเราปฏิบัติมากขึ้น ความรู้ก็จะเพิ่มขึ้น ก็จะเข้าใจเองว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเป็นใคร มีคุณอย่างไร และยิ่งใหญ่เพียงใด…