“เป็นวิทยาทาน”
ขออนุญาตแอดมินกลุ่มทุกท่านครับ
หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ พระผู้มีญาณหยั่งรู้
สมัยหลวงพ่อบัวลอย อยู่วัดท่าตะเคียน จ.พิษณุโลก
มีอยู่คราวนึงที่วัดท่าตะเคียนกำลังมีงานที่วัด
และที่วัดหลวงพ่อพระพุทธชินราชก็กำลังมีงานพุทธาภิเษก และมีพระเกจิครูบาอาจารย์มาปลุกเสกหลายองค์ หนึ่งในนั้นก็มี #หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญได้ถูกนิมนต์มาร่วมปลุกเสกด้วย
และโยมที่วัดท่าตะเคียนทราบเรื่องว่าหลวงปู่หงษ์ได้รับนิมนต์มาปลุกเสกที่วัดหลวงพ่อพระพุทธชินราชด้วย จึงได้บอกกับหลวงพ่อบัวลอยว่า
…” หลวงพ่อครับ ทำไมไม่นิมนต์หลวงปู่หงษ์ มาเสกพระที่วัดท่าตะเคียนบ้างครับ ได้ยินว่าท่านมาเสกวัดหลวงพ่อใหญ่ด้วย “
ในขณะนั้นหลวงพ่อบัวลอยไม่ได้รู้จักกับหลวงปู่หงษ์ เคยแต่ได้ยินชื่อเสียง
ในขณะนั้นด้วยความที่หลวงพ่อบัวลอย อยากรู้ว่าหลวงปู่หงษ์ท่านเก่งมั๊ยจะมีญาณหยั่งรู้มั๊ย
ถ้าจะนิมนต์หลวงปู่ท่านมาที่วัดท่าตะเคียนก็ขอให้หลวงปู่ท่านมาในวันนี้ ท่านเลยตั้งจิตอธิษฐานบอกกล่าวว่า
…”#ถ้าหลวงปู่หงษ์ศักดิ์สิทธิ์จริงๆขอนิมนต์หลวงปู่ให้มาหาที่วัดท่าตะเคียนในวันนี้“
หลังสิ้นคำอธิษฐานบอกกล่าว #ในวันนั้นเวลาเย็นหลวงปู่หงษ์ท่านได้เดินทางมาที่วัดท่าตะเคียนจริงๆ ทั้งๆที่ไม่ได้มีใครไปนิมนต์หลวงปู่หงษ์ที่วัดหลวงพ่อพระพุทธชินราชเลย
พอหลวงปู่หงษ์มาถึงที่วัดท่าตะเคียนแล้ว หลวงพ่อบัวลอยจึงได้รีบไปต้อนรับหลวงปู่
พอหลวงปู่หงษ์ได้เจอกับหลวงพ่อบัวลอยแล้ว ท่านจึงพูดยิ้มขึ้นว่า
…”ท่าน อย่าทำแบบนี้อีกนะ ผมเหนื่อย” หลวงปู่พูดไปพรางยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี
หลวงพ่อบัวลอยท่านจึงให้ความเคารพหลวงปู่หงษ์อย่างมาก
ตั้งแต่นั้นหลวงพ่อก็ได้เทียวไปมาหาสู่หลวงปู่หงษ์อยู่เป็นประจำ
เรื่องนี้หลวงพ่อบัวลอยเมตตาเล่าให้ฟังเมื่อคราวหลวงพ่อพาไปกราบหลวงพ่อฤทธิ์ ที่วัดท่าตะเคียน
ผมจึงนำมาลงเผยแผ่บารมีหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญและเผยแผ่บารมีหลวงพ่อบัวลอย ญาณรักขิโต วัดน้อยอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
เครดิตบทความและรูปภาพ : fb สาธุ สาธุ