เสียงคำถามจากพระครูบาบุญชุ่มว่า “ ต้นเอาเหล็กไหลของหลวงปู่ใหญ่มาจากไหน ข้างในเป็นสีเขียวปีกแมลงทับนะ ของครูบาก็มี ”โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน – เรื่่องนี้เป็นเรื่องจริงจึงขอบันทึกเก็บไว้เพื่อเป็นข้อมูล 25 มี.ค.62ย้อนไปประมาณเกือบ 20ปี มีพระภิกษุรูปหนึ่งที่อยู่วัดหลวงพ่อสดฯ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ผมขอเรียกท่านว่าหลวงพี่ ซึ่งท่านได้ธรรมกายแล้ว ได้เดินทางเพื่อจะหาพระครูบาบุญชุ่ม ที่วัดพระธาตุดอนเรืองแต่ไม่ได้เจอกัน ท่านก็ตัดสินใจที่จะเดินธุดงค์ไปภูเขาควายเพื่อที่จะหาวิชาความรู้ในที่นั้นโดยมีพระที่วัดพระธาตุดอนเรืองได้เขียนหนังฝากท่านไว้กับทหารลาวเพื่อนำทางท่านไปที่ภูเขาควาย เมื่อทหารลาวได้พาเข้าเขตภูเขาควายท่านก็ได้แยกกับทหารลาวและได้เดินต่อไปเองเพียงลำพัง จนได้มาพบบ่อน้ำที่ใสสะอาดมากแห่งหนึ่งซึ่ง ในบ่อน้ำนั้นมีทองคำอยู่ก้นบ่อ ท่านนึกอยู่ในใจว่าอยากจะได้ทองคำสักหนึ่งบาตรพระ เพื่อเอาไปสร้างเจดีย์ที่วัดหลวงพ่อสดฯ ขณะที่ได้เอามือยื่นลงไปเพื่อที่จะวักน้าก็มีอาการเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตจนสลบไป มารู้สึกตัวอีกทีได้เห็นตัวท่านเองเกี่ยวอยู่กับกิ่งโดยมีข้างล่างเป็นเหว มีบาตรพระและจีวรและกองกระดูกอยู่เบื้องล่าง จากนั้นท่านได้เดินมาพบคนผมยาวแต่งตัวแบบพระนั่งอยู่แล้วพูดว่า “มาที่นี้คิดได้แค่นี้เองหรือ” หลวงพี่ท่านก็นึกอยู่ในใจว่าเนี่ยคนหรือพระ ท่านก็ตอบสวนมาเลยว่า “ครูบาอาจารย์เอ็งสอนว่าความเป็นพระอยู่ที่ไหน” ท่านก็เข้าใจ ส่วนพระผมยาวท่านได้ทำอาหารให้หลวงพี่ฉันด้วย ซึ่งไม่ขอบรรยายรายละเอียดตรงนี้เพราะพระบารมีได้เคยเขียนไว้แล้ว หลวงพี่ท่านได้เดินทางต่อไปอีกหลายวันจนมาถึงธรรมสภาในภูเขาควาย วันนั้นเป็นวันพระ มีพระได้มาประชุมอยู่ในธรรมสภามากมาย และพระจะนั่งเป็นกลุ่มเรียงกันของแต่ละสาย ส่วนหลวงพี่ท่านอยากเรียนวิชาเพียงแค่นึกก็มีรูปภาพปรากฏอักขระยันต์ต่างๆขึ้นบนผนังถ้ำเลย ท่านสามารถจดจำยันต์ต่างได้ จากนั้นท่านได้เดินทางเพื่อจะกลับออกจากภูเขาควายท่านได้เจอกับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำในลักษณะเป็นกายเนื้อมนุษย์ด้วยโดยท่านบอกกับผมว่าได้เอามือขอจับแขนของหลวงพ่อสด ท่านก็ยื่นให้จับ ครั้นเมื่อจะจากกันหลวงพ่อสดท่านก็พูดขึ้นว่า เตรียมเอาอะไรที่จะใช้ใส่เหล็กไหลมาหรือเปล่า หลวงพี่บอกว่ามีตลับเตรียมมาครับ หลวงพ่อสดท่านได้เอามือจับและเด็ดเหล็กไหลจากในถ้ำใส่ตลับให้แล้วบอกว่าเอาไปให้อาจารย์ของเธอ (หลวงป๋า วัดหลวงพ่อสดฯ) เมื่อท่านได้ออกจากธรรมสภาได้นำเหล็กไหล ดังกล่าวมาถวายหลวงป๋า ส่วนที่เหลือฝากพระแม่ธรณีไว้ที่แถบจังหวัดนครสวรรค์ ถ้าจะไปเอาเหล็กไหลท่านก็จะถอดกายทิพย์ไปเอามา เหล็กไหลนี้เป็นเหล็กไหลชนิดมีชีวิตไม่ตายคือยังเป็นของเหลวอยู่ซึ่งสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนปริมาณเองได้ด้วย เมื่อประมาณร่วม 10ปีในช่วงเดือนมีนาคมใกล้ครบรอบวันเกิดผม มีเพื่อนชื่อพี่ตี๋ได้พูดกับหลวงพี่ว่าใกล้จะถึงวันเกิดพี่หน่อยแล้ว พี่หน่อยอยากจะได้เหล็กไหลจากภูเขาควายคือถ้าผมได้เพื่อนๆคนอื่นก็มีโอกาสจะได้ด้วยเพราะพวกเราเป็นลูกศิษย์ท่านกันทุกคนถ้าคนหนึ่งได้อีกคนไม่ได้ก็จะกระไรอยู่ หลวงพี่ท่านนั่งพิจารณาสักครู่บอกว่าจะให้ผม โดยพี่ตี๋เป็นคนจัดการเรื่องหาวัสดุที่จะใช้ทำรังเพื่อบรรจุเหล็กไหล (ทำจากเหล็กน้ำพี้ ) ลวดสแตนเลสที่ใช้ถักหุ้มรังเหล็กไหลและของอื่นๆ ซึ่งพวกลูกศิษย์ได้ร่วมกันออกเงินเพื่อไปหาซื้อก้อนเหล็กน้ำพี้เพื่อใช้ทำเป็นรังให้เหล็กไหล โดยหลวงพี่ท่านเป็นผู้เจียรก้อนเหล็กน้ำพี้ให้เป็นรังเหล็กไหลและได้บรรจุเหล็กไหลที่ท่านได้ฝากไว้กับพระแม่ธรณีพร้อมทั้งถักลวดสแตนเลสหุ้มรังเหล็กไหลด้วยตัวท่านเองเพื่อเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เมื่อผมได้เหล็กไหลมาเพื่อนท่านอื่นและรุ่นน้องขอใช้ชื่อ “ต้น” ก็ได้ด้วย ส่วนน้องต้น นับถือพระครูบาบุญชุ่มมาก มีอยู่วันหนึ่งน้องต้นได้ไปกราบกราบพระครูบาบุญชุ่มและคงจะมีความสงสัยว่าเหล็กไหลที่ได้มานี้เป็นของจริงหรือไม่ ได้นำเหล็กไหลที่ได้มาให้พระครูบาบุญชุ่มได้พิจารณาดู ขณะที่ยื่นส่งให้ท่านดูยังไม่ได้ถึงมือท่านเลยท่านก็กล่าวว่า “ต้นเอาเหล็กไหลของหลวงปู่ใหญ่มากจากไหน ข้างในเป็นสีเขียวปีกแมลงทับนะ ของครูบาก็มี “