– ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ แต่คนไม่รู้บาปบุญมากขึ้น จนอาจเป็นมิจฉาทิฏฐิ.
อายตนะโลกันต์ ซึ่งอยู่นอกจักรวาล สัตว์โลกันต์นั่นเกาะอยู่ตามขอบจักรวาล แล้วก็มืดมิด ระหว่างจักรวาลนั่นก็จะเป็นทะเลน้ำกรดเย็น อ้ายสัตว์พวกนี้น่ะ ก็ไต่อยู่ตามขอบจักรวาล มืด พบกัน ตะปบกัน กัดกัน กินกัน ยังไม่ทันได้กินกันได้เท่าไหร่หรอก ตกลงไปในทะเลน้ำกรด น้ำกรดก็กัดกินละลาย ซู่!! เกิดขึ้นมาใหม่ เป็นอย่างนี้ชั่วนาตาปี
พึงเข้าใจว่า สัตว์โลกันต์เนี่ย พระญาณของพระพุทธเจ้าทรงหยั่งรู้หยั่งเห็นได้เลยว่า โอกาสที่สัตว์โลกันต์จะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก..ไม่มี
เพราะอะไร ? ตรงนี้ต้องชี้แจงนิดหน่อย
เพราะเมื่อถูกทะเลกรดกินละลายน่ะ ธาตุธรรมทั้งหลายมันเสียสภาพไปแล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุญกุศลที่เคยทำไว้นั้น ก็ถูกชำระสะสางไปตลอด เป็นอยู่อย่างนั้นแล้วๆเล่าๆ จนหมดเชื้อที่คุณธรรมในระดับมนุษยธรรมที่เคยทำไว้ จะนำกลับเข้ามาเกิดเป็นมนุษย์อีกได้ เป็นอันหมดโอกาส
และผู้ที่ไปเกิดในโลกันตนรกนี่ ต้องบอกซะก่อนว่า เป็นไปด้วยมิจฉาทิฏฐิ ๓ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง เช่น อเหตุกทิฏฐิ มีความเห็นว่าตัวเองทำอะไร ที่จะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิดความทุกข์เดือดร้อน หรืออะไร ไม่เป็น พูดอย่างง่ายๆว่า ไม่เป็นบุญไม่เป็นบาป ไม่เป็นเหตุปัจจัย เหมือนคนฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือฆ่ามนุษย์ที่มีคุณธรรม ที่มีคุณประโยชน์มาก ไม่ว่าจะเป็นผู้สั่งโดยตรง ผู้สั่งโดยอ้อม แล้วก็ไปบังคับบัญชาให้มีการเกิดการฆ่ากัน ผู้ที่ไม่สำนึกว่าตนเองเป็นเหตุเป็นปัจจัยแห่งการฆ่า เชื่อว่าตนเองไม่ใช่เหตุปัจจัย แต่จริงๆเป็นผู้กระทำเหตุปัจจัยนั้น ผู้ที่เห็นผิดอย่างนี้ชื่อว่า”อเหตุกทิฏฐิ”
และตัวเองนั่นแหละ เป็นผู้สั่งก็ดี ทางตรงก็ดี ทางอ้อมก็ดี และก็เป็นผู้บังคับ ผู้ปกครอง ให้เกิดการฆ่าอย่างนั้นก็ดี ในหมู่ชนทั้งหลายนั้น ก็ไม่สำนึกว่าตนเองเป็นคนก่ออกุศลกรรม ว่าเป็นบาปอกุศล ไม่สำนึก ไม่รู้ นี้..เรียกว่า”อกิริยทิฏฐิ”
มันมี…
อเหตุกทิฏฐิ ๑.
อกิริยทิฏฐิ ๑. คือ ว่าตนเองไม่เป็นอันทำ หรือว่าทำแล้วเหมือนไม่ได้ทำ ไม่รับว่าเป็นการทำบาป ทำความชั่วร้าย
และนัตถิกทิฏฐิ คือ เห็นว่าทำไปแล้วก็ไม่มีผลอะไร ไม่เกี่ยวกับตนเอง ไม่มีผลเป็นบุญเป็นบาป
เหล่านี้ มิจฉาทิฏฐิ ๓ ประการ คือ
อเหตุกทิฏฐิ
อกิริยทิฏฐิ
นัตถิกทิฏฐิ
อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือสามอย่างนี้ รวมเรียกว่า มิจฉาทิฏฐิ ใครกระทำความผิดศีล ผิดธรรม ด้วยมิจฉาทิฐิอย่างนี้ แม้มีชีวิตอยู่ในภพชาตินั้น ก็ยังจะได้รับโทษเป็นความทุกข์เดือดร้อน จากผลของกรรมนั้น มีโอกาสสูงมากที่จะได้รับทั้งๆที่อยู่ในภพชาติปัจจุบันนี้ หนีกรรมไม่พ้น
และแตกกายทำลายขันธ์แล้ว ต้องรับโทษจากกรรมที่ทำ ต้องไปเกิดเป็นสัตว์นรกในชั้นต่างๆตามกรรม ชั้นสุดท้ายก็คืออนันตริยกรรม ผู้มิจฉาทิฐิน่ะไปได้รับโทษตรงนั้นก่อน และพ้นจากนั้น พ้นนี่..ไม่ได้ว่าพ้นหมดนะ มิจฉาทิฏฐิยังอยู่ นั่นแหละ นำไปสู่ความบังเกิดขึ้นในอายตนะโลกันต์
สัตว์โลกที่เป็นไปอย่างนี้ ด้วยมิจฉาทิฏฐินี่ เป็นกรรมหนักยิ่งกว่าอนันตริยกรรม รับผลก่อนทั้งหมด พอไปถึงโลกันตนรกดังที่ได้กล่าวแล้ว เมื่อเป็นสัตว์นรกนี่ ต้องตกลงไปในทะเลน้ำกรดแล้วๆเล่าๆ นานเท่านาน เพราะฉะนั้น เชื้อแห่งคุณความดีที่เคยทำในระดับมนุษยธรรม ถูกกัดกินละลายหายไปๆๆ จนไม่สามารถที่จะเป็นเหตุปัจจัยปรุงแต่งให้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพสามอีก มนุษย์ก็คือในกามภพ ในโลกมนุษย์อีกไม่มี
อย่างดีก็แค่มาเกิดเป็นสัตว์ชั้นต่ำ สัตว์เซลล์เดียว เช่น พวกไฮดรา อะมีบา พวกเชื้อโรค พวกไวรัสต่างๆ นี่..มาจากนี้ส่วนมาก
และถ้าร้ายกาจไปกว่านั้น
ก็จะไปเป็นธาตุธรรมของภาคมาร
ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับภาคพระ คือพระนิพพาน อยู่ตรงกันข้ามกัน
อันนี้ให้เข้าใจ ที่อาตมายกตรงนี้มากล่าว เพื่อจะให้เข้าใจว่า #ขณะนี้ในประเทศชาติของเรา#ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ#แต่คนไม่รู้บาปบุญคุณโทษมากขึ้น เพราะไปรับเอาความเจริญทางวัตถุมาบำบัด หรือมาสนองความต้องการของตน และก็หลงเพลิดเพลินติดอยู่ในทรัพย์สมบัติ ในอำนาจราชศักดิ์ต่างๆ จนมีผลให้ตนเองมีความเห็นผิด แล้วไปคิดทำลายล้างผู้อื่น ให้เกิดโทษ เกิดความทุกข์เดือดร้อน อยู่ในยุคปัจจุบันนี้มากมาย
ก็เพื่อให้ทราบว่า ให้ท่านระวัง ความเป็นมิจฉาทิฐิ ไม่ใช่เกิดอยู่กับเฉพาะคนนอกศาสนาที่หลงผิดไป คนนอกศาสนาที่พอจะเข้าใจถูกก็มีนะ แต่ที่หลงผิดไปก็มี แต่..ในพุทธของเราที่หลงผิดไปก็มี เป็นมิจฉาทิฐิได้ และก็เป็นไปอย่างนั้นด้วย
อย่าไปทนงว่า พอขึ้นชื่อว่าเป็นพุทธแล้ว เป็นมิจฉาทิฐิไม่ได้ ไม่จริง!! คิดอย่างนั้น ทําอย่างนั้น ก็เป็นอย่างนั้น เหมือนปลูกมะพร้าว ออกลูกมาเป็นมะพร้าวแน่นอน มันไม่ออกมาเป็นลูกหมาก หรือมาเป็นอะไรๆอย่างอื่น มะม่วงอะไรอย่างนี้ ไม่ได้!! ฉันใดฉันนั้น
นี่..อาตมาเน้นไว้ตรงนี้ก่อน เพื่อให้ท่านทั้งหลายรู้บาปบุญคุณโทษ ว่าที่ท่านทั้งหลายกระทำความไม่ดี ผิดศีล ผิดธรรม ทุกข้อนั่นแหละ เรียกว่า อกุศลกรรมบท ๑๐
ทำเองก็ดี
สั่งให้คนอื่นทำก็ดี
ยินดีที่คนอื่นทำก็ดี
ยกย่องบุคคลที่กระทำอกุศลกรรมบท อย่างนั้นก็ดี
๔ ประการนี้ รวมเรียกว่า อกุศลกรรมบท ๔๐ #โอกาสที่จะไปบังเกิดในทุคคติภูมิ
#ไปเป็นเปรต#สัตว์นรก#อสุรกาย#สัตว์เดรัจฉาน
เพราะที่ว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะอะไร ?
ไอ้ที่เบาก็เบาไปหน่อย เกิดช้าหน่อย แต่ที่หนักก็ไปเลย
#และถ้าเป็นมิจฉาทิฐิ#มีนัตถิกทิฏฐิ#อกิริยทิฏฐิ#อเหตุกทิฏฐิ เหล่านี้เป็นต้น ท่านได้รับโทษทั้งในภพชาติปัจจุบันทันตาเห็นแน่นอน แต่ว่าจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของกรรมปรุงแต่ง แล้วไปได้รับโทษในทุคคติภูมิ แล้วผ่านจากทุคคติภูมิ พอเสร็จจากกรรมในอเวจีมหานรกแล้วก็จะผ่านไปสู่โลกันตนรก
นี่แหละ ที่มีในพระบาลีว่า
แม้พระญาณพระพุทธเจ้าผู้ทรงเห็นแจ้งทรงรู้แจ้งแล้ว สัตว์โลกันต์ที่จะมีโอกาสได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีกนั้น กำหนดไม่ได้ ก็คือ..ไม่มี
เพราะฉะนั้น อันนี้คืออันตรายอย่างใหญ่หลวง ที่ท่านทั้งหลายไม่รู้ เป็นพุทธแต่ไม่รู้ นี้..อันตรายอย่างใหญ่หลวง เพราะฉะนั้น นี่คืออันตรายในวัฏฏะ.
_________________
เทศนาธรรมจาก
พระเทพญาณมงคล
หลวงตาเสริมชัย ชยมงฺคโล
วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
อ.ดำเนินสะดวก
จ.ราชบุรี
_________________
ที่มา
บางตอนจากเทศนาธรรมเรื่อง
“พุทธปาฏิหาริย์”
_________________
เพจอมตวัชรวจีหลวงป๋า.






ไลน์ "@wlps" เพื่อรับข่าวสารจากทางวัด