ลัก ยักยอก กบฏ คด โกง ปล้น กินบ้านโกงเมือง ฯลฯ โทษอทินนาทานนี้มากมายนัก

– ลัก ยักยอก กบฏ คด โกง ปล้น กินบ้านโกงเมือง ฯลฯ โทษอทินนาทานนี้มากมายนัก.

การถือเอาของผู้อื่นโดยพละการ โดยที่ผู้เป็นเจ้าของมิได้ยกให้หรืออนุญาตให้ ด้วยอาการอย่างขโมย เช่น ปล้น จี้ ลัก ฉก ชิง วิ่งราว ตู่ ตระบัด ปลอมแปลง ลักลอบ ยักยอก เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นการกระทำการเองหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำ ก็นับเป็นการล่วงสิกขาบทข้อนี้ทั้งสิ้น นอกจากนี้สำหรับท่านผู้ปฏิบัติธรรมขั้นสูงๆ หรือพระอริยบุคคล ท่านก็จะไม่ยินดีที่ผู้อื่นกระทำการล่วงสิกขาบทนั้นอีกด้วย

สิกขาบทข้อนี้ ท่านห้ามไว้เพื่อให้ทุกคนเคารพกรรมสิทธิ์ ในสมบัติของกันและกัน ให้รู้จักทำมาหาเลี้ยงชีพโดยสุจริต ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน สมบัติของใครใครก็รักและหวงแหน ไม่อยากจะให้สูญไป จึงเฝ้าคุ้มครองรักษาไว้ เมื่อเกิดความสูญเสียไปเพราะถูกลักหรือปล้นสะดม ยักยอกเอาไป ก็ย่อมเกิดความเสียดายกลายเป็นทุกข์ ท่านจึงห้ามไว้เพื่อให้เคารพกรรมสิทธิ์ของผู้อื่น

#ผู้รักษาศีลข้อนี้เป็นประจำ จะเป็นเหตุให้เป็นผู้มีสมบัติมาก รักษาสมบัติไว้ได้เป็นอันดี ทรัพย์สมบัติไม่เป็นอันตรายด้วยภัยต่างๆ

#แต่ผู้ที่ล่วงสิกขาบทนี้ จะได้รับผลต่อไปในอนาคต คือ จะกลับกลายเป็นคนยากจนข้นแค้น ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่หรือทำมาหาได้ #ก็จะวิบัติสูญหายหรือถูกทำลายด้วยภัยต่างๆ เช่น #ราชภัย#โจรภัย#อัคคีภัย#อุทกภัย#วาตภัย#หรือภัยจากสงคราม เป็นต้น #เมื่อสิ้นชีวิตลง ย่อมจะต้องเข้าถึงอบายหรือทุคติอีกด้วย

อนึ่ง พึ่งสังเกตอีกด้วยว่า ผู้ที่ล่วงสิกขาบท อันเป็นเหตุให้ได้รับผลกรรม คือ วิบาก จะมากหรือน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่ที่เจตนาหรือความตั้งใจ ในการกระทำบาปอกุศล ซึ่งเป็นไปตามความหนักเบาแห่งกิเลส อวิชชา ที่เป็นพื้นฐานครอบคลุมจิตใจอยู่ และขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของสิ่งของนั้น อีกทั้งความเดือดร้อนที่ต้องสูญเสียสิ่งของนั้นด้วย

เป็นต้นว่า ทรัพย์สินที่ผู้มีจิตศรัทธา บริจาคไว้ให้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา เพื่อใช้สืบพระพุทธศาสนา ผู้กระทำอทินนาทานทรัพย์สินเช่นที่ว่านี้ ย่อมได้รับผลกรรมอย่างหนักและรวดเร็ว ทั้งในภพนี้และในภพหน้าอีกมาก เรียกว่า #จะต้องกลายเป็นคนยากจนอย่างแสนสาหัสทีเดียว

และโปรดเข้าใจไว้ด้วยว่า สิ่งของหรือทรัพย์สิน ที่มีผู้บริจาคให้ไว้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา เพื่อใช้สืบพระพุทธศาสนานั้น หาใช่สมบัติส่วนตนของผู้ใดไม่ การใช้สอยหรือจำหน่ายจ่ายโอนโดยพละการ คือ มิได้รับความยินยอมจากองค์สงฆ์หรือคณะสงฆ์ของวัดนั้น หรือมิได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคตามควร ย่อมนับเป็นการล่วงสิกขาบทนี้ทั้งสิ้น

#ใคร่จะขอยกตัวอย่าง#พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ให้ท่านผู้ฟังได้ทราบสักตัวอย่างหนึ่งว่า เมื่อพระเดชพระคุณท่านได้สร้างพระของขวัญขึ้นมา เพื่อให้เป็นของขวัญ แก่ผู้ทำบุญสร้างโรงเรียนปริยัติธรรมนั้น พระเดชพระคุณท่านได้ถือว่าสมบัติเหล่านั้น คือพระของขวัญที่สร้างขึ้นมานั้น ตกเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาไปเลย เมื่อจะให้พระของขวัญแก่ผู้ใดเป็นส่วนตัว พระเดชพระคุณท่านก็จะจ่ายปัจจัยส่วนตัวให้แก่วัด ในฐานะผู้ทำบุญกับเขาด้วยเสมอ มิได้ถือเอาโดยพละการ เสมือนหนึ่งสมบัติส่วนตัวของท่านเลย

#ส่วนตัวอย่างของผู้ที่ประกอบอทินนาทานที่หนักๆ ถึงขนาดที่เรียกว่า #กินบ้านโกงเมืองนั้น ท่านผู้ฟังก็คงจะได้ยินตัวอย่างของผลกรรมมาบ้างแล้ว แต่ใคร่จะยกตัวอย่าง ของผู้ที่ประกอบอกุศลกรรมถึงขั้นที่เรียกว่า #ขายชาติ สู่ท่านผู้ฟังเพื่อประดับสติปัญญาไว้บ้าง หลายท่านคงจะพอระลึกจำเรื่องราวในประวัติศาสตร์ไทย สมัยที่ไทยต้องเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรกแก่ข้าศึกได้ว่า ก่อนที่จะต้องเสียกรุงนั้น พระยาจักรี ขุนนางผู้ใหญ่ของไทย ได้เป็นไส้ศึกแก่ศัตรู คิดคดทรยศต่อชาติ แทรกซึมบ่อนทำลาย ขายชาติให้ศัตรู เพื่อแลกกับลาภยศ ด้วยความละโมบ จนข้าศึกสามารถเข้าตีและยึดกรุงศรีอยุธยาไว้ได้ แต่พระยาจักรีก็ได้รับผลกรรมทันตาเห็น คือเมื่อข้าศึกเข้ายึดกรุงศรีอยุธยาได้แล้ว พระยาจักรีก็ถูกข้าศึกประหารชีวิตเสีย ด้วยฝ่ายข้าศึกเห็นว่า พระยาจักรีนี้เป็นคนไม่ซื่อ แม้แต่ประเทศชาติของตัวก็ขายได้ ด้วยความคดทรยศ มาตรว่าจะเลี้ยงไว้ก็รังแต่จะเป็นภัย จึงให้ประหารชีวิตเสีย นี้ เป็นตัวอย่างของการกระทำกรรมหนัก และได้รับผลกรรมทันตาเห็น

ฉะนั้น แม้ว่าท่านผู้ฟังจะเคยได้เห็นได้ยินว่า บางรายร่ำรวยด้วยการฉ้อโกง หรือทุจริตคิดมิชอบ แล้วยังสุขสบายอยู่นั้น ก็อย่าได้แปลกใจเลย #คำที่พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า “ยาทิสํ วปฺปเต พีชํ, ตาทิสํ ลภเต ผลํ” แปลความว่า ” หว่านพืชชนิดใด ย่อมได้ผลชนิดนั้น”

และว่า “กลฺลยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปกํ” แปลความว่า “ผู้ทำกรรมดีย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่วย่อมได้ผลชั่ว” นั้นแน่นอนเสียยิ่งกว่าแน่นัก

เพราะฉะนั้นจึงขอทุกท่าน จงหมั่นตั้งใจรักษาศีลและเจริญภาวนา เพื่อความบริสุทธิ์กายวาจาและใจ ให้ยิ่งๆขึ้นไปเถิด จะได้รับผลดีทั้งในปัจจุบันและอนาคต.

_________________

เทศนาธรรมจาก

พระเทพญาณมงคล

หลวงตาเสริมชัย ชยมงฺคโล

วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

อ.ดำเนินสะดวก

จ.ราชบุรี

_________________

ที่มา

บางตอนจากหนังสือ

“ธรรมสู่สันติ เล่ม ๒”

_________________

เพจอมตวัชรวจีหลวงป๋า.

Share: