หลวงปู่จามพบเปรต 50 แสนตน

หลวงปู่จามพบเปรต 50 แสนตน

“เมื่อคืนนี้ใกล้แจ้งมีหมู่เปรต ๕๐ แสน มาหา..ถามเขาว่า ทำไมจึงรู้ว่าอาตมาอยู่ที่นี่”

เปรต : มาตามแสงสว่างของหลวงปู่

หลวงปู่ : พวกสูงมากด้วยกันเท่าใด ?

เปรต : ๕๐ แสน

หลวงปู่ : ต้องการอย่างใด ?

เปรต : มาขอให้ช่วยเหลือ เพราะเดี๋ยวนี้ ตกนรกขุมแห้งร้อน เหมือนกับยืนตากแดดบนพะลานหินกว้างใหญ่

หลวงปู่ : กรรมอันใด ?

เปรต : ไม่เชื่อฟังพ่อเจ้า เมื่อครั้งหลวงปู่เป็นพ่อเจ้าเศรษฐีน้ำข้อนเมืองงาย บัดนี้กรรมเบาบางแล้ว จึงได้แสงสว่างจากหลวงปู่ส่องไปถึง

หลวงปู่ : เอ้า…. ตั้งใจให้ดี อาตมาไม่มีอะไรจะให้ จะได้ก็เมตตาธรรมนี้ล่ะ

จากนั้นก็เมตตาภาวนา เจริญพรหมวิหารอยู่ ๓ รอบ จึงได้เป็นเสื้อผ้า อาหารตกลงจากฟ้าให้หมู่เปรตเหล่านั้น

แล้วจากนั้นพวกเขาก็กราบไหว้ลาไป ผู้ได้เกิดก็มี ผู้ยังต้องเสวยวิบากกรรมต่อไปก็มี อย่างมากก็เกิดเป็นมนุษย์ทุคตะ เป็นสัตว์มากกว่า : บัว บุษยา

กรรมของเปรตหมู่นี้เป็นเพราะเขาไม่ยอมทำงานให้เมื่อคราวพาเขาสร้างวัด แล้วว่าจ้างเลี้ยงดูพวกเขาให้บำรุงดูแลวัดอยู่น้ำข้อน เมืองงาย เมืองฝาง (จ.เชียงใหม่)

เราไปตรวจทีเขาก็ทำที เราไม่ไปเขาก็ไม่ใส่ใจ ละเล่นมัวเมากันไปตามเรื่อง มันสืบต่อกันมาตกทอดถึงลูกถึงหลาน อ้างแต่ว่าเป็นญาติเป็นพี่เป็นน้อง แต่บาปกรรมไม่เป็นญาติกับใคร จึงเป็นกรรมที่ตกทอดกันมาจนมากถึง ๕๐ แสนคน

การเกี่ยวข้องกับวัดวาอารามนี้มิใช่ บุญก็ได้ ไส้ก็เต็ม มิใช่อย่างนี้ เพราะว่าเขาสละมาบำรุงศาสนา มิใช่สละให้ผู้คนญาติโยมต้องเหลือเดนจากพระสงฆ์แล้วคนจึงเอาได้ : บัว บุษยา

เรื่องการสงเคราะห์เจตภูติ ภูมิอื่นๆ เช่น พวกพรหม หมู่เทวดามาขอฟังเทศน์ธรรม หรือหมู่ครุฑ นาค ยักษ์ พวกหิมพานต์ มาขอฟังเทศน์ธรรม เปรต ผี มาขอให้ช่วยเหลือ ก็มีมาก จากที่องค์หลวงปู่ได้เล่าให้ฟังนับลำดับมาหลายปี…

“แต่เริ่มเป็นพระมาโน่น ไม่รู้อย่างใด มันได้โปรดสัตว์โลกทุกหมู่เหล่า มิได้เว้นมิได้ขาด มิใช่แต่หมู่มนุษย์ผู้คนอย่างเดียว มิใช่อวดอ้างหรอก มันเป็นของมันมาอย่างนี้ ใครจะว่าบ้า ก็บ้าเสียเราคนเดียวก็พอ”

(องค์ท่านมักจะพูดสำทับตอนท้ายเช่นนี้เสมอถ้าหากได้เล่าเรื่องในทำนองวันนี้)

ตาก : ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

Share: