ผู้ถามคุณโอภาส เครือวัลย์
ถาม: ถ้ามีพระภิกษุผู้สอนธรรม ได้แสดงแก่ผู้มาปฏิบัติธรรมให้เป็นที่เข้าใจ ในหมู่ศิษยานุศิษย์ว่า
ท่านเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นธาตุต้นธรรมที่สุดจะให้ธรรม หรือจะให้ธรรมกายแก่ผู้ใด หรือไม่ให้ก็ได้
แล้วแต่ท่าน จะเป็นไปได้หรือไม่เพียงใดครับ
และถ้าไม่จริงอย่างนั้น พระภิกษุผู้ที่พูดหรือแสดงให้เป็นที่เข้าใจ ในหมู่ผู้เข้ามาศึกษา และปฏิบัติธรรมเช่นนั้น จะถือว่าท่านมุสาหรือเปล่าครับผม
ตอบ : ปัญหานี้อาตมา จะขอแยกตอบเพียงสองประเด็นใหญ่ ๆ ก็คงจะพอเข้าใจได้ตลอดคือ
๑) ถ้ามีพระภิกษุแสดงว่า
ท่านเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นธาตุ ต้นธรรม
ที่สุดจะให้ธรรมหรือจะให้ธรรมกาย หรือจะไม่ให้แก่ใครก็ได้ แล้วแต่ท่าน
ข้อนี้ตอบได้เลยว่า ไม่จริง เป็นไปไม่ได้
แม้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสรู้แล้วเองโดยชอบ เป็นผู้ทรงคุณอันประเสริฐสูงสุด
เป็นที่ประจักษ์แก่พระสงฆ์สาวก ผู้ศึกษาและปฏิบัติตาม พระธรรมของพระองค์
ท่านก็ยังไม่เคยแสดงพระองค์ว่า เป็นผู้ให้ธรรม
หรือธรรมกายแก่ใคร
มีแต่ทรงแสดงว่าพระพุทธองค์เป็น แต่ผู้บอกหรือชี้ทางให้ธรรม เป็นเรื่องที่แต่ละบุคคล
จะพึงบรรลุและรู้เองเห็นเอง มีเอกสารหลักฐานในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ชัดเจน โปรดดูความในพระสุตตันปิฎกมัชฌิมนิกายอุปริปัณณาสก์คุณกโมคคัลลานสูตรว่าด้วยการศึกษา
และการปฏิบัติเป็นขั้นตอนข้อ ๑๐๑-๑๐๓
ซึ่ง ณ ที่นี้จะคัดเอาแต่ความในวรรคสุดท้าย
ของข้อ ๑๐๓ มาแสดงให้เห็นดังนี้
“ ดูกรพราหมณ์เราจะทำอย่างไรได้
ตถาคตเป็น แต่ผู้บอกหนทางให้
และโปรดดูในบทสรรเสริญพระธรรมคุณที่พุทธศาสนิกชนสวดกันเป็นประจำที่ว่า
“ สนทิฏฐิโกฯ ” อันผู้ปฏิบัติจะพึงเห็นชัดด้วยตนเองและ“ … ปัจจเวทิตพฺโพวิญญหา” อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน
พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำพระมงคลเทพมุนี (สดจนฺทสโร) ก็ไม่เคยปรากฏว่าท่านเคยแสดงไว้เช่นนั้น
มีแต่ท่านแสดง (จากข้อความที่ถอดเทปไว้) ว่าท่านศึกษาและปฏิบัติธรรมมา ตั้งแต่บวชมิได้หยุดเลยบัดนี้
(ขณะที่สอนและบันทึกเทปนี้)
ทั้งเรียนและทั้งสอนด้วย ไม่เห็นว่าท่านได้เคยแสดงว่าท่านบรรลุธรรมสูงสุด แต่ประการใด
แล้วยิ่งถ้าเป็นพระภิกษุที่มาบวชในพระพุทธศาสนานี้เพิ่งจะได้มาเรียนรู้ธรรมปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกายของพระพุทธเจ้า แต่เพียงครึ่งๆกลาง ๆ บางส่วนจากที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านได้สั่งสอนถ่ายทอดไว้ดีแล้ว ทุกแง่ทุกมุม
จะไปวิเศษวิโสกว่าพระพุทธเจ้า
หรือแม้แต่กว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ
ซึ่งท่านได้ถ่ายทอดวิชชานี้เอาไว้ก่อนแล้ว ได้อย่างไร
ถ้าถึงขั้นจะให้ธรรมหรือให้ธรรมกาย
หรือจะไม่ให้แก่ใคร ๆ ก็ได้ เช่นนั้นก็นับว่าพระภิกษุรูปนั้นทรงคุณวิเศษสูงกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก
ถ้าเช่นนั้นลองขอให้ท่านเหาะเหินเดินอากาศให้ดูหน่อยประไร เอาแค่คุณธรรมเพียงเศษธุลีพระพุทธเจ้าเท่านั้นแหละ
หรือลองสังเกตภิกษุรูปนั้น
ดูว่ากิเลสประเภทโลภ โกรธ หลง
เพียงขั้นหยาบๆนี้แหละ ว่ายังมีอยู่หรือว่าหมดกิเลสเป็นสมุเฉทปหานแล้วหรือยัง
ถ้าเห็นว่ายังมีโลภ โกรธ หลงอยู่แล้ว
ก็อย่าได้ไปหลงเชื่อ ถ้ามีพระภิกษุประเภทนี้นะ
โกหกทั้งเพ
๒) ถ้าเป็นพระภิกษุได้แสดงออกให้ใครก็ตาม
ที่เป็นผู้ใหญ่รู้เดียงสาแล้ว ให้ได้ยินได้ฟัง
ได้รู้และเข้าใจความ ตามที่พระภิกษุนั้นกล่าวแสดงเช่นนั้น ออกไปแม้เพียงครั้งเดียว
ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกหรือการปฏิญญาโดยตรงหรือว่าจะเป็นการใช้เล่ห์กโลบาย
และการแนะนำธรรมในเชิงชี้นำ ให้ศิษยานุศิษย์เห็นเป็นเช่นนั้น ด้วยเจตนาจะอวดอุตตรมนุษยธรรม
อันไม่มีจริงในตน ตามพระวินัยพุทธบัญญัติ
ภิกษุรูปนั้นย่อมต้องอาบัติปาราชิก
ในฐานอวดอุตตริมนุษยธรรมอันไม่มีจริง ในตนไปทันที ณ บัดนั้น
สัมภาษณ์พระราชพรหมเถรวีระ คณุตฺตโม
นิตยสารธรรมกายเล่ม8