พระสนั่น สาราศรัย หรือ ขนฺติโกภิกขุ ผู้เป็นสัทธิวิหาริก ของหลวงพ่อ ได้เขียนเล่าไว้ว่า

พระสนั่น สาราศรัย หรือ ขนฺติโกภิกขุ ผู้เป็นสัทธิวิหาริก ของหลวงพ่อ ได้เขียนเล่าไว้ว่า🔮 “ปอยผมสีดำที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นก็ค่อย ๆ เลือนไป ๆ จนไม่เห็น แต่กลับค่อยเห็นเส้นวงกลม มีแสงเรือง ๆ เกิดขึ้นมาแทนที่ แสงนั้นยิ่งสุกนวลขึ้น ๆ ครั้งแรกก็เป็นเพียงวงกลม ๆ ค่อย ๆ หรี่เล็กลงแล้วกลับขยายกว้างออก เป็นอยู่เช่นนี้ครู่ใหญ่แล้วก็หยุดเป็นวงกลมโตขนาดเท่าเหรียญสองสลึงหรือ โตกว่าเล็กน้อย เริ่มหยุดคงที่ 🔮ส่วนแสงนวลนั้นก็ค่อยแผ่ขยายจากเส้นรอบวง เข้ามาสู่จุดศูนย์กลางเข้าทุกที ๆ จนเห็นเป็นดวงใส คล้ายดวงแก้วสุกสว่าง ดังดวงจันทร์ ด้วยเกรงว่าดวงใสนั้นจะเลือนหายจากไปเสีย ข้าพเจ้าเพ่งดูหนักขึ้น ไม่ยอมละ นานเท่านาน แต่จะนานเพียงใดก็ช่าง การเมื่อยขัดเข่าและขา เมื่อสักครู่นี้ ไม่มีเหลือเสียแล้ว ไม่ทราบว่ามันหายไปได้อย่างไรกัน📣แล้วก็มีเสียงถามจากหลวงพ่อว่า ได้เห็นอะไรอีกไหม พอตอบ ท่านว่าเห็นแสงสว่างเป็นดวงกลมขนาดเท่าลูกมะนาวเขื่อง ๆ หลวงพ่อ ก็จะตอบว่า วันนี้พอกันที เธอจงจดจำดวงที่เธอเห็นนี้ไว้ให้ดี หลับตา ก็ให้เห็น ลืมตาก็ให้เห็น ไม่ว่าเวลาใด ๆ ให้เห็นอยู่เสมอ ๆ อย่าให้ สูญไปเสีย ดวงใสนั่นแหละเป็นจุดต้นทางนำเราไปสู่พระนิพพานละ เป็นทางไป ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เป็นทางถูก ทางตรง ทางเดียวเท่านั้น ไม่มีทาง อื่น จดจำไว้ให้ดี อย่าให้ดับเสียได้น้า…”🙏ดังนั้น พระสงฆ์รูปใดที่ได้รับการอุปสมบทจากหลวงพ่อ จะรู้สึกว่าตนโชคดีมีบุญ ที่ได้รับเกียรติจากหลวงพ่ออย่างสูงยิ่ง เพราะหลวงพ่ออุตส่าห์ตั้งอกตั้งใจสอนกรรมฐาน คุมจิต คุมใจ คุมบุญให้ผู้นั้นตัวต่อตัว 🎯อุตส่าห์นั่งรอด้วยความอดทนว่าลูกศิษย์จะเห็นดวงปฐมมรรค หรือยัง นานแค่ไหนหลวงพ่อก็รอได้ไม่บ่นปวดเมื่อย รำคาญเหน็ดเหนื่อย ไม่ดุไม่ว่า ไม่เร่งรัด ♥️จิตท่านเป็นอุเบกขาจริง ๆ ทุกคนที่ร่วมพิธี ทั้งพระอันดับและญาติพี่น้องก็ต้องนั่งรอ เป็นชั่วโมงด้วย ระหว่างรอก็ต้องปฏิบัติธรรมไปด้วย เพียงขอให้พระสงฆ์ใหม่ ๑ รูปได้เห็น ดวงธรรม ปวดเมื่อยอย่างไรก็ต้องยอม**หนังสือตรีธาเล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ***Post by เพจบารมีธรรม หลวงพ่อวัดปากน้ำ

แชร์เลย

Comments

comments

Share: