วัดหลวงพ่อสดคือวัดที่พระโพธิสัตว์ท่านมาสร้างบารมี โดย หลวงตาอู๋ 6 พ.ย. 2560
วัดนี้ก่อสร้างขึ้นมาจากเจตนารมณ์ของหลวงป๋าที่จะสร้างวัดให้มีทั้งการปฏิบัติธรรมและการเล่าเรียนพระปริยัติ เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาจากท้องนาแท้ๆ แล้วก็ขุดดินขึ้นมาเพื่อถมที่ตัววัดให้สูงขึ้น ส่วนที่ขุดดินออกไปก็ทำเป็นบ่อน้ำเพื่อกักน้ำไว้ใช้ จึงเป็นวัดที่มีบ้านเรือนของชาวบ้านอยู่รอบวัดเพียงไม่กี่หลังไม่สามารถที่จะให้พระออกบิณฑบาตทั้งหมดได้ จำเป็นต้องแบ่งเวรกันออกบิณฑบาตเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนชาวบ้านมากเกินไป
พระที่เหลืออีก 90% จึงฉันอาหารจากโรงครัวที่หลวงป๋าตั้งขึ้นมา ท่านเลี้ยงพระแบบนี้มา 30 กว่าปีแล้ว เลี้ยงทั้งพระทั้งเณรที่มาปฏิบัติธรรมและมาขอเรียนบาลี รวมทั้งเลี้ยงฆราวาสที่แวะเวียนมาทำบุญที่วัดอีกด้วย วัดหลวงพ่อสดจึงเป็นวัดที่หลวงป๋าซึ่งปรารถนาที่จะสร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ท่านหล่อเลี้ยงอุปถัมภ์เอาไว้ พระภิกษุที่อยู่ในวัดจึงไม่ต้องดิ้นรนในเรื่องอาหารขบฉัน ถึงเวลาก็มาฉัน แม้แต่ถ้วยชามก็ไม่ต้องล้างเพราะหลวงป๋าท่านจ้างคนงานแม่ครัวเอาไว้ดูแลพระเณรเป็นอย่างดี ฉันเสร็จก็กลับไปปฏิบัติธรรมหรือเล่าเรียนหนังสือได้เลย จะมีวัดแบบนี้กี่แห่งในประเทศไทยครับ
ตอนนี้หลวงป๋าท่านกวดขันพระเณรให้เร่งการปฏิบัติธรรม ใครจะเรียนก็เรียนแต่ต้องปฏิบัติธรรมกรรมฐานด้วย จะเรียนแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการจะได้คุณธรรมเป็นพระอริยสงฆ์นั้นต้องมาจากการปฏิบัติธรรม การเรียนเป็นเพียงแนวทางแผนที่ให้เรารู้ทางที่จะเดินก้าวไปเท่านั้น ไม่ใช่เรียนเพื่อพัดยศ ยิ่งเรียนยิ่งคิดว่าตนมีความรู้เหนือผู้อื่น ข้อนี้ก็น่าเห็นใจเพราะท่านเรียนมามากเรียนมานานจริง ท่านย่อมอดที่จะภาคภูมิใจในความสำเร็จของตัวเองไม่ได้ (มันเคลิ้มไป) ทำให้เหมือนทัพพีที่แม้จะแช่อยู่ในแกงแต่ก็ไม่รู้รสแกง….หลวงป๋าท่านจึงได้พูดเตือนพระเณรไว้ว่าให้เร่งทำความเพียรกันได้แล้ว เพราะหลวงป๋าเองก็ไม่รู้ว่าท่านจะอยู่ได้อีกกี่ปี…..
ตอนนี้หลวงป๋าท่านกวดขันพระเณรให้เร่งการปฏิบัติธรรม ใครจะเรียนก็เรียนแต่ต้องปฏิบัติธรรมกรรมฐานด้วย จะเรียนแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการจะได้คุณธรรมเป็นพระอริยสงฆ์นั้นต้องมาจากการปฏิบัติธรรม การเรียนเป็นเพียงแนวทางแผนที่ให้เรารู้ทางที่จะเดินก้าวไปเท่านั้น ไม่ใช่เรียนเพื่อพัดยศ ยิ่งเรียนยิ่งคิดว่าตนมีความรู้เหนือผู้อื่น ข้อนี้ก็น่าเห็นใจเพราะท่านเรียนมามากเรียนมานานจริง ท่านย่อมอดที่จะภาคภูมิใจในความสำเร็จของตัวเองไม่ได้ (มันเคลิ้มไป) ทำให้เหมือนทัพพีที่แม้จะแช่อยู่ในแกงแต่ก็ไม่รู้รสแกง….หลวงป๋าท่านจึงได้พูดเตือนพระเณรไว้ว่าให้เร่งทำความเพียรกันได้แล้ว เพราะหลวงป๋าเองก็ไม่รู้ว่าท่านจะอยู่ได้อีกกี่ปี…..