ประสบการณ์จากพระของขวัญวัดหลวงพ่อ โดย ปรีชา เอกอรัญพงษ์

ประสบการณ์จากพระของขวัญ

วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม โดย ปรีชา เอกอรัญพงษ์

ประสบการณ์ตรงที่ผมเจอเองมากับตัวนั้นมีหลายเรื่อง

แต่ขอเล่าเบื้องต้นไว้ ๓ เรื่อง เนื่องจากพระเครื่องที่ติดตัวนั้น มีเพียงพระของขวัญของหลวงพ่อสดฯ เท่านั้น ซึ่งในเวลานั้น ทางหลวงป่า ยังไม่มีการเชิญธาตุกายสิทธิ์ ผมจึงห้อยพระผง พระเหรียญ ที่ได้จากการทําบุญทั่วไป พระหยก และจุยเจีย ที่นิยมกันในเวลานั้น

เรื่องที่ ๑ เป็นเรื่องแรกในชีวิต ที่เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์ ราวปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ผมขับรถมาทําบุญที่วัดตามปกติ โดยใช้ ถนนพระรามสอง เมื่อขับผ่านตลาดมหาชัยเมืองใหม่สักระยะ มี รถปิกอัพขนตู้เบรกเกอร์ไฟฟ้าบ้าน (เป็นตู้เหล็กสีเทาๆ ขนาด เท่ากล่องลังใส่น้ำอัดลม) มาเต็มคันรถ ขวางหน้ารถผมเป็น เวลานาน (ความเร็วประมาณ ๔๐ กม.ต่อ ชม.) ผมสังเกตเห็น ตาข่ายคลุมรถมุมหนึ่งผูกไม่แน่นและสะบัดไปมา ผมจึงตัดสินใจ แซงรถคันดังกล่าว แต่ช่องทางขวามีรถวิ่งเร็วมาก จนผมไม่มี ช่องว่างให้แซง ในขณะนั้น (ไม่เกิน ๕ นาที) ขณะที่ผมคอย จังหวะที่จะแซงนั้น ตู้เหล็ก ๓ ใบ ตกลงมาแล้วพุ่งเข้าใส่รถผม อย่างรวดเร็ว ผมจึงหรี่ตาและเกร็งแขน จับพวงมาลัยให้ รถวิ่งตรงต่อไปเนื่องจากตู้เหล็กลอยมาบริเวณกระจกหน้า และ ฝากระโปรงรถ ผมจึงรีบหรี่ตา เพราะเคยมีคนถูกกระจกพุ่งใส่ ตาบอดทั้ง ๒ ข้างมาแล้ว ในเวลานั้น คนที่มาด้วย ยกมือมาปิดหน้าแล้วแอบ มองผ่านร่องมือปรากฏว่าตู้เหล็กใบที่ ๑ เมื่อลอยมาใกล้กระจก เหมือนกระทบเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น แล้วกระเด็นขึ้นไป บนท้องฟ้า ๔๕ องศา ข้ามหลังคารถผมไปตกที่ถนนด้านท้ายรถผม

ใบที่ ๒ พุ่งมาที่ฝากระโปรง อยู่ๆ ก็กระเด็นไปด้านซ้ายมือ ตกลงในคูน้ำข้างทาง

ใบที่ ๓ พุ่งมาที่กันชนหน้ารถผม อยู่ๆ ก็มุดลงใต้ ท้องรถและมีเสียงเล็กน้อยใต้ท้องรถ

หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างชะลอรถจอดข้างทาง เพื่อลง มาดูปรากฏว่ารถของผมไม่เป็นอะไรเลย มีเพียงรอยฉีกที่มุม กันชนเล็กน้อย ยาวประมาณ ๕ ซม. เป็นผลของตู้เหล็กใบที่ ๓ นั่นเอง หลังจากนั้นจึงเดินทางมาทําบุญที่วัดต่อ

เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ ผมนํารถเข้าศูนย์บริการ ให้ทาง ศูนย์ฯ ตรวจเช็คเพื่อความปลอดภัยว่าถังน้ำมันมีรอยรั่วหรือ ไม่ เมื่อยกรถลอยขึ้นมา ก็มีเพียงรอยสะกิดที่แชสซี เหมือน มีใครเอาเล็บมาจิกจนยางดําๆ ที่พ่นกันสนิมไว้หลุดออกเป็น รอยเล็บเล็กๆ เท่านั้น จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมและ และเพื่อนที่นั่งไปด้วยกัน ได้มานั่งคุยถึงอุบัติเหตุแล้วมีความเห็นเหมือนกันว่า ตู้เหล็ก ทั้ง ๓ ใบ เมื่อตกลงมาใกล้รถของผม อยู่ๆ ก็กระเด็นออกไป อย่างผิดธรรมชาติ เหมือนมีเกราะหุ้มรถไว้ แต่มองไม่เห็น เมื่อตู้เหล็กมากระทบก็กระเด็นไปคนละทิศละทาง จึงสรุป ได้ว่าเป็นเพราะพระของขวัญที่ได้มาจากวัดหลวงพ่อสด ธรรมกายารามแน่นอน เพราะมีผมคนเดียวที่ห้อยพระและ ไม่มีพระของที่อื่นเลย (ผมห้อยพระของวัดหลวงพ่อสดฯ เท่านั้น) จึงมั่นใจในวิชชาธรรมกายที่บรรจุลงในพระของขวัญทุกรุ่น ของวัดหลวงพ่อสดฯ

เรื่องที่ ๒ ให้ชื่อเรื่องว่า “พระดีเกินไป” หลายคนบอกว่าพระเครื่องของวัดหลวงพ่อสดฯ ไม่ดี

ไม่เห็นแสดงปาฏิหาริย์ให้ใครเห็นเลย แท้จริงแล้วพระของขวัญ นั้นดีมาก จนผู้ครอบครองไม่เคยเห็น เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยผมไม่เคยรู้มาก่อน จนกระทั่งน้องชาย มาเล่าให้ฟัง เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๓ แต่ ผมมารู้ตอน พ.ศ. ๒๕๕๕ เรื่องมีอยู่ว่า คนในครอบครัวของผม คนหนึ่ง โกรธที่ผมยืมเงินไปแต่ยังคืนไม่ครบ (เพราะตกงาน) จึงจ้างมือปืนมายิงผม ในเวลานั้นมือปืนมาดักยิงผม แล้วลั่นไก ไม่สําเร็จ จึงโทรมายกเลิกภารกิจ เนื่องจากทําไม่สําเร็จ เวลา ผ่านไปนาน คนที่จ้างวานเข้าใจในตัวผม และกลับมาคุยกันตาม ปกติ แต่ไม่ได้บอกอะไรผม อยู่มาวันหนึ่งคนจ้างวาน (พี่สาว) ได้คุยเล่นกับน้องชายของผมว่า

พี่สาว : เก้านี่มันดวงแข็งจริงๆ

น้องชาย : ทําไมเหรอ

พี่สาว : นานมาแล้ว เคยจ้างมือปืนไปฆ่าเก้า แต่มือปืน โทรมาบอกว่าขอยกเลิก เนื่องจากทําแล้วหลายครั้งแต่ไม่สําเร็จ ทั้งกระสุนด้าน ยิงไม่ออก และครั้งสุดท้ายใกล้เคียงที่สุด แต่มีคน มาบังไว้จึงตัดสินใจยกเลิกการจ้างวานในภารกิจนี้ เมื่อน้องชายมาเล่าให้ผมฟัง ผมถึงกับอึ้ง และนึกถึง คําพูดของบางคนที่บอกว่า “พระเครื่องของวัดหลวงพ่อสดฯ ไม่เห็นดังเลย…ไม่เคยเจอประสบการณ์เด็ดๆ เหมือนวัดอื่น” แท้จริงแล้ว พระของขวัญของวัดหลวงพ่อสดฯ นั้น “ดีเกินกว่าคนจะรู้” แม้กระทั่งผู้ครอบครองเอง เนื่องจากหลวงป่า ท่านอธิษฐานให้ปัดภัย ไม่ให้เกิดขึ้นนั่นเอง แปลว่า ป้องกัน ไม่ให้เกิดภัย แต่ถ้าเกิดแล้วก็จะช่วยให้รอดพ้นโดยไม่เป็น อะไร ดังนั้น หลายคนจึงไม่เคยรู้ว่า ภัยได้เกิดขึ้นกับตน แล้ว แต่พระของขวัญวัดหลวงพ่อสดฯ ได้ระงับภัยนั้นไม่ให้เกิด จนผู้ครอบครองไม่เคยรู้เลยว่า เคยมีภัยร้ายแรงเกิดขึ้นกับตน

เรื่องที่ ๓ “เรื่องของฟรี ก็ศัก ก็ศักดิ์สิทธิ์” (ดับไฟใต้) เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ ต.ช.ด. ในเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ วันอาทิตย์ผมจะมาวัดหลวงพ่อสดฯ เป็นประจํา วันหนึ่งเมื่อมาถึงวัดผมเดินขึ้นไปทําบุญที่ประชาสัมพันธ์ แต่ แปลกใจที่ได้เห็นตํารวจทั้งในเครื่องแบบ และชุดครึ่งท่อน ประมาณ ๕๐ นาย ในเวลานั้นคิดว่ามีคนร้ายมางัดเอาของมีค่า แล้วทําร้ายพระ เนื่องจากในช่วงนั้นเป็นช่วงเศรษฐกิจตก จึงมีโจร และ ขโมย เข้ามายกตู้บริจาคอยู่บ่อยครั้ง ผมจึงเดินเข้าไปถามตํารวจ นายหนึ่งว่า

ผม : พี่ๆ มีอะไรเหรอ ทําไมตํารวจมากันเยอะแยะ

ต.ช.ด. : มาเช่าพระ

ผม : อ้อ…..แล้วผมเห็น ต.ช.ด. นายนั้นหยิบเหรียญ “ดับไฟใต้” ขึ้นมา ผมจึงบอกไปว่า “ทําไมไม่ทําบุญเอาเหล็กไหล ล่ะ ดีกว่าตั้งเยอะ”

ต.ช.ด. : ไม่เอา….ดีแค่ไหน ผมก็ไม่เอา….ผมจะเอาเหรียญนี้

ผม : (กําลังงง)….แล้วแกล้งถามไปว่า “เหรียญนี้ดียังไง” ต.ช.ด. : เล่าให้ผมฟังว่า

ในเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ ผม (ต.ช.ด.) ได้รับแจ้งว่า มีเหตุระเบิดที่มัสยิด ผมและคณะเป็นกลุ่มแรกที่เข้าไปเคลียร์ พื้นที่ เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. เมื่อไปถึงเห็นมัสยิดโดนระเบิด ไฟดับ และมืดมาก จึงเข้าไปตรวจหาสาเหตุเมื่อเดินเข้าไป ในมัสยิดสักครู่ ก็มีเสียงปืนกล ยิงรัวเข้ามาทุกทิศ จะมองเห็น ก็เพียงแต่แสงจากปากกระบอกปืนที่กะพริบอยู่รอบตัว ไม่นาน ผมรู้สึกว่ามีอะไรมากระทบที่หน้าอกด้านซ้าย (บริเวณหัวใจ)

ผมจึงรู้ว่าถูกยิงแล้วล้มทั้งยืน นอนนิ่ง ๆ อยู่กับพื้น แล้วเห็น เพื่อนๆ ถูกยิงทีละคน

เมื่อเสียงปืนยิงตอบโต้กันหยุดลง ประมาณ ๕-๑๐ นาที ผมได้ยินเสียงชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา แล้วคุยกันด้วยภาษายาวี จากนั้นก็เอาไฟฉายส่อง ต.ช.ด. ที่บาดเจ็บ แล้วยิงซ้ําจนตาย ทีละคน ผมจึงนอนนิ่งๆ แล้วดึงศพเพื่อนมาคลุมร่างไว้

เวลาประมาณตีสี่ ก็ได้ยินเสียงชายอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ฟัง ดูแล้วเป็นทหาร (พวกเดียวกัน) เข้ามาเคลียร์พื้นที่ ผมจึงขยับตัว ขอความช่วยเหลือแล้วมีทหารนายหนึ่ง ตะโกนว่า มีคนรอด แล้วเอามือล้วงเข้าไปที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย (จุดที่ผมถูกยิง)

ถามผมว่ามีของดีอะไร แล้วหยิบเหรียญดับไฟใต้ออกมาดู กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายที่หน้าอก เป็นรูกระสุนเอ็ม ๑๖ กระทบกับเหรียญดับไฟใต้ (เหรียญไม่มีรอยยิงเลย) แล้ว เสื้อก็ไม่ทะลุ…ทหารนายนั้นจึงกระชากเสื้อผมออก แล้วเห็น รอยช้ำเป็นรูปเหรียญดับไฟใต้

ต.ช.ด. ท่านนั้นเล่าต่อว่า (ผมลืมถามชื่อ) ในวันที่หลวงป่า เอาเหรียญดับไฟใต้ไปแจกนั้น ผมไม่รู้จักและไม่ศรัทธา เพราะไม่ใช่พระที่มีชื่อเสียง ส่วนเหรียญดับไฟใต้ก็ไม่สนใจ เพราะเป็นพระสร้างใหม่ไม่ใช่พระจากเกจิฯ เมื่อรับมาแล้วก็ ไม่สนใจ เอาใส่กระเป๋าเสื้อไว้แล้วลืมเอาออก

ต.ช.ด. เล่าต่อว่า โดยปกติ เมื่อได้พระดีๆ มาผม จะเอาเก็บไว้บูชาบนหิ้งพระ แต่ครั้งนี้เห็นว่าเป็นเหรียญธรรมดา จึงไม่สนใจแล้วลืมทิ้งไว้ในชุดยูนิฟอร์ม

หลังจากปลดประจําการภาคใต้ (เปลี่ยนกะทุก ๓ เดือน) กลับมาถึงกรุงเทพฯ จึงชวนคณะทั้งหมดในชุดนั้น มาหาเช่า เหรียญดับไฟใต้ที่วัดหลวงพ่อสดฯ

ปล. เหรียญดับไฟใต้ เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ เพื่อแจกฟรีแก่ทหาร ตํารวจที่ประจําการทาง ๓ จังหวัดชายแดนใต้ แต่เนื่องจากมีการผลัดเปลี่ยนกําลังพล ทุก ๓ เดือน จึงหมดโดยรวดเร็ว

แชร์เลย

Comments

comments

Share: