พระคาถาพญามหาปัตตาหมื่น
โอมกูจะกล่าวกําเหนิดเมื่อเดิมจะเกิดเป็นพญาปัตตาหมื่น กูจะโยนตัวกูขึ้นไปบนกงจักร ไม้ไล่ก็หักเป็นผุยผงทั่วเมืองสกลชมภู กูจะรําลึกถึงพระครูกู ใครก็สู้พระครูกูบ่มิได้ พระครูกูจึงให้เล่าพระคาถาว่า พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
สัมพุทเธปัดฐะวี ตันจะชัยมังคะลัง นะโมพุทธายะ วันทะนัง ปาสุอุชา อิสะปะมิ พุทธะสังอิ อิสฺวาสุ มะอะอุ อิกะวิติ วิสุทธะเสฏโฐ อะสังวิสุโล ปุสะพุภะ อะระหัง สฺวากขาโต สัง-วิ-ธา-ปุ-กะ-ยะ-ปะ ที-มะ-สัง-อัง-ขุ ธุ-สะ-มะ-นิ วิ-ปิ-ปะ-สะ-อุ ทุ-สะ-นะ-โส จิ-เจ-รุ-นิ ตันพุธตึง นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง นะอิอะมะ กะอะมะติ อะอิมะสัง ตันทะมะธุ อุอะมะยัง จิปิเสคิ เสคิจิปิ เนหะกันหะ วิปะสะตัง นะมะพะทะ กะระมะทะ จะอะภะตะ นะมะกะจะ สุสิโมพุทโธ สุสิโมธัมโม สุสิโมสังโฆ ภะคะวาโลกะนาโถ มะหิธิโก นะสะสิโม นะสะปะระยะ ถามะปะรัง จังงังเหือดหาย ครูบันธิยาย จึงให้กูมีกำแพงเหล็ก ๗ ชั้นกันหน้ากู คือ พระวิภังค์ คือพระวิสังคิณี คือพระปะระมัต อัตถาอาริยะ จึงให้กูคงแด่หอกดาบ ปืนกรรมสาป เหล็กแหลมและหางใหล สารพัดเสี้ยม สารพัดคม ก็อย่าให้ต้อง จึงให้กูคงแต่หอกคอเงิน หอกคอทอง หอกสัมฤทธิ์ กริชทองแดง พระแสงอาจทวนทอง โอมคงสารพัดคง ตรีเพ็ชรคงคง คงเอิกกะเหริกกะภพสลบดาล ซอนซอกนอนหลับอยู่ป่า ฆะโมดทะยานพระหะณุมาน พานไว้ยะมุตประยุทอินทรี ประสิทธิ์ด้วยอัดสะระพงลงมัต เอาคนไปถวายแด่สาปพระเจ้า โลกามหายักษาจะฆ่ากูก็บมิตาย ด้วยเดชสะเดชะพระนารายณ์ เอาโพธิ์กรรมลงมาบังเกิด วิชาญอิสูรย์ สลากโศรดม้วยด้วยอิธฤทธี โอมคงสารพัดคง ตรีเพ็ชรคงคง อิติปิโสภะคะวา โลมา-นักขา-ทันตา-ตะโจ ตะโจคือหนังหุ้มห่อในตนกู คงสารพัดคง ตรีเพ็ชรคงคง อิติปิโสภะคะวา เกศาผมบนหัวกู คงสารพัดคง ตรีเพ็ชรคงคง อิติปิโสภะคะวา มังสังคือเนื้อทั่วสรรพางค์ตนกู คงสารพัดคง ตรีเพ็ชรคงคง อิติปิโสภะคะวา อัฏฐิกระดูกทั่วสรรพางค์ตนกู คงสารพัดคง ตรีเพ็ชรคงคง อิติปิโสภะคะวา มิญชัง วักกัง หะทะยัง กิโลมะกัง อันตัง อันตะคุณัง ของในตนกู คงสารพัดคง ตรีเพ็ชรคงคง อิติปิโสภะคะวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง มะอะอุ อุอะมะ อิสฺวาสุ สุสฺวาอิ ติสาหัง ภังนังมังปัง มามะหะจะสะสัง จะอะภะตะ ปะรากาอะ พระบิดารักษา พระมารดารักษา พระอินทร์รักษา พระพรหมรักษา พระเทพภะเทพารักษา พระพุทธังรักษา พระธัมมังรักษา พระสังฆังรักษา หะทะโกตัง ตังรักขันตุสัพ อิมัง กายะพันธะนัง อธิษฐามิ, ทุติยัมปิ อิมัง กายะพันธะนัง อธิษฐามิ ตะติยัมปิ อิมัง กายะพันธะนัง อธิษฐามิ
คาถาเรียกพยัญชนะ
อรรถโถอักขระสัญญาโต อรรถะแห่งพระบารมีทั้งหลาย อาจารียจึงหมายด้วย
อักขระอักขรา ปฏิโยเอกะจัตตาฬิสัง วรรณะทั้งหลาย ๔๘ ตัว มี ร-ร เป็นต้น มี ร-รํ เป็น ที่สุด
คือ อังนิคคะหิตตัง ปรัสสะปัญญา ปะโยเค นําพยัญชนะตัวต้นเข้าสู่สระ ไหว้พยัญชนะโหนต่ำ ไหว้สระโหนบน สะราสะเรโรปัง มีสระโหนปลาย ลบสระโหนต้นเสีย วาปะโรอัสรูปา แด่หน้าสระ อันมีรูป บ่มีเสมอกัน ปฏิสนธิกับเปธุติโย กันโดสัมภะโว จงมาบังเกิดเป็นเจ้าแม่ธรรมชาติพญาเหล็ก
นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ
สัมภะโว จงมาบังเกิดเป็น นะ นะ กาโร โชติ
สัมภะโว จงมาบังเกิดเป็น โม โม กาโร โหติ
สัมภะโว จงมาบังเกิดเป็น พุท พุท กาโร โหติ
สัมภะโว จงมาบังเกิดเป็น ธา ธา กาโร โหติ
สัมภะโว จงมาบังเกิดเป็น ยะ ยะ กาโร โหติ
จุดบรรจบครบองค์ธาตุ อาโป วาโย ปฐวี เตโช เบ่งรัศมี ๘ ทิศ
ทิศที่หนึ่งอุตตโลก ทิศที่สองพรหมโลก ทิศที่สามเทวโลก ทิศที่สี่มนุษยโลก
ทิศที่ห้าบูรพามนุษยโลก ทิศที่หกอุดรมนุษยโลก ทิศที่เจ็ดทักษิณมนุษยโลก ทิศที่แปดยมโลก
ขจัดเป็นทิศที่มีความสําคัญ เรียกว่า นะ-อิ-อะ-ทะ-อะ-นะ-อิ อิติปิโสภะคะวา
อาศัยแห่งเทพยุดา จึงปาฏิหารย์ เป็นดอกบัวทั้งเจ็ด ปฏิสนธิกับเปธุติโยกันโดสัมภะโว บังเกิดแล้ว ปฏิสนธิ
ปู่สุทัศน์ โตทวี 25 ต.ค. 41
คาถาหลวงพ่อเดิม พุทฺธสโร จากโยมปู่สุทัศน์ โตทวี ลูกศิษย์หลวงพ่อเดิม พุทธสโร
• อิติ อรหัง สุคโต พุทธสโร เดิม นามเต อาจริโย เม ภันเต อายัสมา อาจริโย เม ภันเต โหหิ ฯ
• นะผิด โมเพื่อน พุทธเลื่อนเปื้อน ธาเพือนหัวใจ ยะหลงใหล ธาเคลิ้มงวยงง ยะวังเวงสูญเปล่า นะเคลิ้มเคลื่อน สังให้สะเทือนหัวใจ สิหลงใหลไปมา โมวังเวงสับสน นะเข้าในใจดล สังบังเกิดในใจคน มีแล้วสูญไป ชิวหาอย่าได้มาประจักษ์แก่ตา โมเดชเดชะฤทธา เจ้าพระยาเต่าเรือน สังให้สะเทือนเพือน สิ้นทุกคน อิสวาสุ มะอะอุ ภควานาโถ นะโมพุทธายะ นะปิดปาก โมปิดใจ พุทธทะลายสูญ ฆเฏสิ ฆเฏสิ กิงกะระนัง อหังปิตัง พุทธชานามิ ธัมมชานามิ ธัมมชานามิ สังฆชานามิ อัตถะอะ ฉิบหาย สวาหะ สวาหาย สวาสูญฯ
(พระภาวนาวิสุทธิคุณ) เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
ศศิวิมล วิมลศศิ ภาพใหม่
เป็นบทกำกับ พระชัยวรมันสำหรับผู้ที่ได้รับปีแรกๆที่หลวงป๋าทำพิธีอัญเชิญ..มีกันทุกคน ภายหลังไม่มีแจกให้เห็นแล้ว
ปัจจุบันก็สวดคาถานี้อยู่ อุ่นใจค่ะ
สวดได้ทั้งแผ่น 1. คาถาพญาปัตตาหมื่น-เป็นคาถาปลุกตัว และแผ่น 3. ครับ ซึ่งในบทแรก มีชื่อคาถาระบุแล้ว คือคาถาบูชาหลวงพ่อเดิม พุทฺธสาโร วัดหนองโพ นครสวรรค์ ส่วนบทที่สอง หลวงป๋าระบุไว้ท้ายกระดาษ ว่าใช้เวลามีคดีความ ยกเว้นแผ่นที่ 2 “คาถาเรียกพยัญชนะ” เป็นคาถาสาธยายตอนเรียกพญาเหล็กลงบาตร
เป็นคาถาที่หลวงป๋าให้ตอนสร้างหอฉัน และท่านให้พระของขวัญเป็นพระประจำตัว(เมฆภัทร) มีหน้าหลัง สองบทครับ
สวดเร่งพลัง ได้ยินมานะครับ สองบทนี้ เขาท่องตอนเรียก
มีอีกฉบับ หลายหน้าเหมือนกันค่ะ หลวงป๋า ยื่นให้กับมือ บอกว่า คาถานี้ ท่องเวลากลางคืน ก่อนนอน ดีมาก ( นานมาแล้วค่ะ และเก็บอย่างดี จนหาไม่เจอค่ะ )
ในปีนั้นหลวงป๋ามอบพระเหล็กไหลพระชัยวรมันที่ 3 ให้ไม่มีกริ่งเนื้องามมาก เพราะทำบุญสร้างพระมหาเจดีย์ฯ รุ่นแรกๆก็ว่าได้ หลวงป๋าทำพิธีประสิทธิ สวดและพรมน้ำมนต์ที่อุโบสถให้ ก่อนรับพระจากท่านและมอบพระคาถานี้ให้ บอกให้สวดคาถาในกระดาษที่เห็นกับบูชาไปพร้อมกันดีนักแล หลวงป๋าเมตตามากๆๆครับภาพวันนั้นยังติดตาและอยู่ในใจตลอดมา ดังนั้นน่าจะเหมาะกับการบูชาวัตถุมงคลที่มีเหล็กไหลอยู่ ของหลวงป๋าวัดหลวงพ่อสดฯเป็นอย่างยิ่งหาคาถานี้ไม่เจอแล้วมีแจกกันก็ดีอนุโมทนาสาธุด้วยครับ
ใช้สวดกับพระประจำตัวครับ แต่หน้า3 ที่ขึ้นต้นด้วยนะผิด…ใช้เฉพาะเวลาถูกฟ้องร้องหรือถูกให้ร้ายโดยไม่เป็นธรรมครับ พระที่รับช่วงแรกๆ ผมมักเรียกติดปากว่าพระกลางเที่ยงครับ ตอนนั้นรับ กับหลวงป๋า สมัยที่ท่านมาสอนสมาธิที่วิหารชั้นเดียวในวัดสระเกศ ผมจดไว้เลยครับหลวงป๋าบอกคนที่มีพระให้เคราพดังนี้ 1คุณพระศรีรัตนตรัย2คุณบิดามารดา3ครูบาอาจารย์4พระมหากษัตริย์ปัจจุบันและในอดีต. และที่ไม่ได้จดไว้แต่จำได้อย่างแม่นยำคือท่านบอกว่าอย่าโชว์พระ (ทำนองไม่แขวนโชว์นอกเสื้อ) ท่านบอกว่าเทวดาไม่ชอบให้โชว์ ทำนองนี้ครับ
หากใช้คาถาหน้าที่สามนี้ในคราวที่แก้ไขสถานการณ์เหตุฟ้องร้องหรือถูกให้ร้าย ก็จะเสื่อมลาภ
ได้อย่างเสียอย่างครับ