หลวงป๋านิมิตเห็นพระพุทธเจ้ากายเนื้อ ณ พระเชตวันมหาวิหาร

หลวงป๋านิมิตเห็นพระพุทธเจ้ากายเนื้อ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
ที่มาของพระกริ่งสัมมาอะระหัง

บริเวณหน้าประตูทางเข้าพระเชตวันมหาวิหาร มีต้นโพธิ์พระอานนท์ขึ้นอยู่ หลวงป๋านำคณะเราจุดเทียนธูปบูชาน้อมระลึกถึงพระพุทธองค์ที่ตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ ยังประโยชน์แก่มหาชนและเทวดา ต้นโพธิ์พระอานนท์นี้เริ่มจากพระอานนท์กราบทูลขออนุญาตจากพระพุทธองค์ที่จะนำเมล็ดโพธิ์จากต้นตรัสรู้มาปลูกไว้ที่หน้าประตูทางเข้ามหาวิหาร เมื่อประทานพระพุทธานุญาตแล้ว พระอานนท์ขอให้พระโมคคัลลานะไปนำเมล็ดโพธิ์มาให้ แล้วให้ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีวางเมล็ดโพธิ์ในหลุม เมล็ดโพธิ์ก็งอกและเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ทันที มีกิ่งก้านสาขาแผ่ออกไปโดยรอบ พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงรดต้นโพธิ์ด้วยน้ำสุคนธรส พระอานนท์กราบทูลขอพระพุทธองค์ประทับเข้าสมาบัติ ณ โคนโพธิ์นั้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชน พระพุทธองค์ทรงประทับที่โคนโพธิ์ด้วยความสุขเกิดแต่สมาบัติตลอดราตรีหนึ่ง

ผู้จัดการทัวร์ ไปซื้อตั๋วเข้าพระเชตวันมหาวิหาร รายได้จากการจัดเก็บตั๋วเข้าชมจะนำมาใช้บำรุงรักษาสถานที่ พระเชตวันมหาวิหารได้รับการบำรุงจากทางรัฐบาลเป็นอย่างดี มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้เขียวชอุ่มเป็นพุ่มเต็มไปหมด ท่ามกลางแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้า ได้ยินเสียงนกร้องอย่างรื่นเริง ทำให้เราสดชื่นและอิ่มเอิบใจที่จะได้กราบพระพุทธองค์และพระอรหันต์สาวกถึงที่ประทับและที่อยู่ โดยตั้งจิตระลึกถึงอดีตและปัจจุบันเข้าผสมผสานกันในมโนจิต

หลวงป๋านำคณะไปมหามูลคันธกุฎีที่ประทับของพระพุทธเจ้า เห็นซากอิฐเรียงตั้งซึ่งได้รับการบูรณะจากรัฐบาลอินเดียพอทำให้เห็นเค้าโครงเดิมอยู่บ้าง ที่ประทับนี้กว้างขวางกว่ามูลคันธกุฎีที่ยอดเขาคิชฌกูฏ กรุงราชคฤห์ประมาณ ๒ เท่า หลวงป๋าจุดเทียนธูปและนำคณะเจริญบทสรรเสริญพระพุทธคุณ “อิติปิโส ภควา…” จบแล้วปิดทองคำเปลวหน้ามหามูลคันธกุฎี

หลวงป๋าได้นิมิตเห็นพระพุทธเจ้ากายเนื้อประทับอยู่ในมหามูลคันธกุฎี จึงเป็นแรงดลใจให้หลวงป.จัดสร้างพระกริ่งชัยมงคลซึ่งสำเร็จด้วยธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก) และพระกริ่งสัมมาอะระหังซึ่งสำเร็จด้วยนวโลหะและธาตุกายสิทธิ์ เป็นรูปพระพุทธเจ้ากายเนื้อตามนิมิตทั้ง ๒ พระกริ่ง ในเวลาต่อมา

**จากหนังสือสู่แดนพระพุทธเจ้า หน้า ๑๐๓

พิมพ์เนื้อหาโดย คุณเปรม Nine Prem
Credit:Jaisai Vajra

แชร์เลย

Comments

comments

Share: