ใจมันมีแต่ออกไปนอกตัวอยู่เสมอ เลยหยุดไม่เป็น

•5~2/3ในระหว่างที่กำลังปฎิบัติธรรมอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเจริญภาวนาธรรมตามแนววิชชาธรรมกายนี้ แม้ว่าจะยังไม่ถึงขั้น บรรลุมรรค ผล นิพพาน ก็ให้คุณค่าแก่การดำเนินชีวิตประจำวันของบุคคลทั่วไปอย่างมากมาย คุ้มค่าแก่การปฏิบัติ ดังจะขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์ เท่าที่จะพอรวบรวมมาได้ดังต่อไปนี้ประการที่ 1 ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิต ได้เป็นอย่างดีทางหนึ่งตามปกติ จิตใจของคนเรานั้น มีสภาพที่เบา ดิ้นรน กวัดแกว่งง่าย หรือฟุ้งซ่านอยู่เสมอ แต่รักษาให้สงบได้ยากบางครั้ง เจ้าตัวรู้สึกว่า อ่อนเพลียทั้งกายและใจเหลือเกิน แล้วอยากจะให้มันหยุดสงบเสียที เพื่อจะได้พักผ่อนหลับนอนเอาแรงบ้าง มันก็ไม่ยอมหยุด ประเดี๋ยวคิดไปถึงเรื่องนั้น ประเดี๋ยวก็คิดไปถึงเรื่องนี้ ยึดไอ้นู่น เกาะไอ้นี่อยู่รำ่ไป ทั้งนี้ เป็นเพราะเหตุอะไรเพราะเหตุว่า จิตใจไม่เคยได้รับการฝึกให้หยุดให้นิ่ง ตั้งแต่เกิดมาเลยทีเดียว ใจมันมีแต่ออกไปนอกตัวอยู่เสมอ เลยหยุดไม่เป็น นี่เป็นเหตุข้อที่หนึ่งที่นี้เหตุข้อที่ 2 ก็เพราะอวิชชา คือความไม่รู้ ลักษณะของธรรมชาติตามสภาพที่เป็นจริงว่า สรรพสิ่งทั้งหลาย ที่ประกอบด้วยปัจจัยปรุงแต่งนั้น มันไม่เที่ยง มีเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา ถ้าใครไปยึดไปเกาะเข้าแล้ว ก็เป็นทุกข์ เพราะมันเพียงแต่ผ่านเข้ามาในวงชีวิตชั่วระยะหนึ่งแล้ว ก็ผ่านไปไม่มีใครเป็นเจ้าของได้เลยแต่เมื่อปัญญาจริงๆ มันยังไม่เกิดอย่างแจ้งชัดในจิตใจล่ะก็ ทึกทักเอาเป็นจริงเป็นจังทีเดียว ยึดเกาะไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย ยอมวางกันเทียวหละ ทั้งๆที่รู้อยู่ว่า ยิ่งยึดยิ่งเกาะ มันยิ่งทุกข์ ก็สลัดไม่ออก เพราะฝึกฝนมาน้อย ปัญญายังไม่ส่องสว่างเพียงพอ ที่จะกำจัดอวิชชาเสียได้ก็เฝ้าแต่ครุ่นคิด ฟุ้งซ่าน วิตกกังวลอยู่นั่นแหละ แม้แต่อยากจะนอน ก็นอนไม่หลับ อ่อนเพลียทั้งจิตใจและร่างกาย ดีไม่ดี ก็จะพาลเป็นโรคเส้นประสาทเอาง่ายๆ.ที่มา: หนังสือ พุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย กรกฎาคม 2525″ คำว่า ธรรมกาย ก็ดี ว่าพรหมกาย ก็ดี ว่า ธรรมภูต ก็ดี ว่าพรหมภูต ก็ดี เป็นชื่อของ ตถาคต “

แชร์เลย

Comments

comments

Share: