วิชชาธรรมกายอัดบุญให้ผู้ล่วงลับได้
…ส่วนผู้ที่ไปสถิตในปรโลกแล้ว หลวงพ่อก็ยังตามไปช่วยอัดบุญให้ ตามที่ญาติลูกหลานที่มีความกตัญญูไปขอร้อง หลวงพ่อใช้คำว่าอัดบุญ ไม่ใช่อุทิศบุญ เพราะวิธีการของหลวงพ่อนั้นเป็นการอัดบุญเข้าไปในดวงบุญของผู้นั้นจริงๆ ไม่ใช่เป็นการกล่าวอุทิศส่วนกุศลเหมือนคนทั่วไปทำ
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า เรื่องที่เล่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ได้ต่อเติมเสริมแต่งแต่อย่างไร ผู้ที่ได้ธรรมกายในสมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ จะรู้ดีว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง…
คืนที่มีการสวดพระอภิธรรมศพ หลวงพ่อจะสั่งให้ผู้ที่บรรลุวิชชาธรรมกายแล้ว ออกไปฟังสวดด้วยอย่างน้อย ๓ คน เพื่อนั่งเจริญภาวนา เชิญวิญญาณของผู้ตายมารับส่วนบุญกุศล ไม่ว่าวิญญาณนั้นจะสถิต ณ ที่ใดก็ตาม อาจจะไปอยู่ในสวรรค์ หรืออยู่ในอบายภูมิ เป็นเปรต อสุรกาย สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน หรือเป็นสัมภเวสี เชิญวิญญาณมารับส่วนบุญได้หมด
การเชิญวิญญาณนั้นจะเชิญก่อนอาราธนาศีล เพราะท่านต้องการให้วิญญาณมาสมาทานศีล และฟังสวดด้วย เพื่อเสริมบุญ หลวงพ่อท่านให้จัดอาสนะปู เตรียมไว้ให้วิญญาณของผู้ตายนั่งด้วย
หลังจากที่พระสงฆ์สวดจบที่๑ (อาจเป็นสวดพระอภิธรรม สวดพระมาลัยหรือสวดสังคหะ)ท่านจะถามพวกได้ธรรมกายว่า วิญญาณของผู้ตายมาหรือเปล่า ทั้ง ๓ คนจะต้องรู้เห็นและตอบตรงกัน ถ้าตอบไม่ตรงกัน หลวงพ่อท่านจะให้ทั้งหมดนั่งตรวจดูใหม่ นี่คือเหตุผลที่ทำไมหลวงพ่อจึงต้องใช้แม่ชีธรรมกายเชิญวิญญาณถึง ๓ คน เมื่อพระสงฆ์สวดจบแต่ละจบ ท่านจะถามย้ำทุกครั้งจนถึงจบสุดท้าย
ในสมัยที่ข้าพเจ้าเป็นแม่ชีเด็กๆ ก็ถูกหลวงพ่อใช้ให้ไปทำหน้าที่เชิญวิญญาณหน้างานศพเช่นนี้หลายครั้ง ทุกครั้งที่ถูกหลวงพ่อถาม ข้าพเจ้าจะรู้สึกไม่อยากตอบให้ผู้อื่นได้ยิน เกิดความกระดากอายกลัวคนที่เขาได้ยินจะไม่เชื่อ
และทราบดีว่า ที่จริงแล้วหลวงพ่อก็รู้ดีอยู่แล้วว่าวิญญาณมารับส่วนกุศลหรือไม่ ด้วยความเป็นเด็กก็ยังนึกสงสัยว่า หลวงพ่อก็รู้แล้วจะถามทำไม หารู้ไม่ว่า หลวงพ่อฉลาดกว่าเรามากมายนัก ท่านต้องการให้ผู้อื่นได้รู้ถึงอานุภาพของวิชชาธรรมกาย มีตัวเรานี่แหละเป็นประจักษ์พยาน แต่ด้วยความเกรงกลัวหลวงพ่อก็จำเป็นต้องตอบเมื่อหลวงพ่อใช้ให้ทำก็ต้องทำ ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่อยากให้มีใครตายและนำศพไปตั้งสวดที่วัดปากน้ำเลย เพราะไม่อยากออกไปเชิญวิญญาณ…
*หนังสือตรีธาเล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ
**โพสโดยศิษย์พระต้นธาตุ
การเชิญวิญญาณนั้นจะเชิญก่อนอาราธนาศีล เพราะท่านต้องการให้วิญญาณมาสมาทานศีล และฟังสวดด้วย เพื่อเสริมบุญ หลวงพ่อท่านให้จัดอาสนะปู เตรียมไว้ให้วิญญาณของผู้ตายนั่งด้วย
หลังจากที่พระสงฆ์สวดจบที่๑ (อาจเป็นสวดพระอภิธรรม สวดพระมาลัยหรือสวดสังคหะ)ท่านจะถามพวกได้ธรรมกายว่า วิญญาณของผู้ตายมาหรือเปล่า ทั้ง ๓ คนจะต้องรู้เห็นและตอบตรงกัน ถ้าตอบไม่ตรงกัน หลวงพ่อท่านจะให้ทั้งหมดนั่งตรวจดูใหม่ นี่คือเหตุผลที่ทำไมหลวงพ่อจึงต้องใช้แม่ชีธรรมกายเชิญวิญญาณถึง ๓ คน เมื่อพระสงฆ์สวดจบแต่ละจบ ท่านจะถามย้ำทุกครั้งจนถึงจบสุดท้าย
ในสมัยที่ข้าพเจ้าเป็นแม่ชีเด็กๆ ก็ถูกหลวงพ่อใช้ให้ไปทำหน้าที่เชิญวิญญาณหน้างานศพเช่นนี้หลายครั้ง ทุกครั้งที่ถูกหลวงพ่อถาม ข้าพเจ้าจะรู้สึกไม่อยากตอบให้ผู้อื่นได้ยิน เกิดความกระดากอายกลัวคนที่เขาได้ยินจะไม่เชื่อ
และทราบดีว่า ที่จริงแล้วหลวงพ่อก็รู้ดีอยู่แล้วว่าวิญญาณมารับส่วนกุศลหรือไม่ ด้วยความเป็นเด็กก็ยังนึกสงสัยว่า หลวงพ่อก็รู้แล้วจะถามทำไม หารู้ไม่ว่า หลวงพ่อฉลาดกว่าเรามากมายนัก ท่านต้องการให้ผู้อื่นได้รู้ถึงอานุภาพของวิชชาธรรมกาย มีตัวเรานี่แหละเป็นประจักษ์พยาน แต่ด้วยความเกรงกลัวหลวงพ่อก็จำเป็นต้องตอบเมื่อหลวงพ่อใช้ให้ทำก็ต้องทำ ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่อยากให้มีใครตายและนำศพไปตั้งสวดที่วัดปากน้ำเลย เพราะไม่อยากออกไปเชิญวิญญาณ…
*หนังสือตรีธาเล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ
**โพสโดยศิษย์พระต้นธาตุ